23 พ.ค.59 ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ได้ศึกษาในรายละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่าในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญนั้น ส่วนใหญ่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนอย่างน้อย 5 เรื่อง คือ 1.การปฏิรูปการเมือง 2.การปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน 3.การปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น 4.การปฏิรูปเรื่องการแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำ และ 5.การปฏิรูปตำรวจ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เรื่องการปฏิรูปการเมือง มีการพูดจาถึงกระบวนการในการที่จะทำให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตั้งแต่เรื่องการกำหนดคุณสมบัติองผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง กระบวนการเลือกตั้ง การป้องกันการโกงการเลือกตั้ง ถือว่าดีมาก เพราะมีบทบัญญัติชัดเจนเลยว่า นักการเมืองที่มีประวัติไม่สะอาด ทำมาหากินอาชีพสีเทา คนที่มีประวัติไม่ดี ก็จะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ ตรงนี้จะช่วยการเมืองของประเทศไทย เพราะมีการวางกฎกติกาที่ทำให้ประเทศไทยได้คนดีมาทำหน้าที่ในการบริหารและทางนิติบัญญัติ
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ในเรื่องที่ชัดเจนอีกเรื่อง คือ เรื่องการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะมีการเขียนไว้แข็งแรงมาก เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้น เกิดเพราะนักการเมือง คนที่เป็นข้าราชการ และพ่อค้านักธุรกิจที่ร่วมมือกัน ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ชัดเจน ทั้งเรื่องการตัดสิทธิ บทลงโทษ ไม่มีโอกาสที่เข้าจะกลับสู่การเมืองได้อีก ส่วนในเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม เราพูดชัดว่า เราไม่ต้องการเห็นการเอานโยบายประชานิยมมาใช้ ไม่ต้องการที่จะให้มีการหากินกับประชาชน โดยที่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ในเรื่องวินัยการเงินการคลัง และในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีรัฐธรรมนูญฉบับไหนเขียนไว้ จึงถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประชาชนและประเทศ เพราะต่อไปนี้เงินงบประมาณที่จะเอามาใช้จ่ายจะต้องใช้จ่ายอย่างมีวินัย การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำต้องแก้ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษาการสาธารสุขที่อยู่อาศัย ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้หมด
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ที่เด็ดที่สุดของรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย คือ มีการเขียนเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ที่ผ่านมาไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนเขียนไว้เลยเรื่องการปฏิรูปตำรวจ อย่างที่เขียนว่าต้องปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปี และตนเห็นว่าเรื่องตำรวจเป็นเรื่องใหญ่ เพราะตำรวจนอกจากมีหน้าที่รักษากฎหมายแล้วยังต้องมีหน้าที่ โดยมีการเขียนไว้ชัดเจนว่า ตำรวจต้องได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เป็นธรรม การโยกย้ายแต่งตั้งตำรวจต้องเป็นระบบที่มีคุณธรรม ตรงนี้ทำให้เรามองเห็นแสงสว่างได้ เหลือแต่คนปฏิบัติว่าจะไปปฏิบัติอย่างไร
นายสุเทพ กล่าวว่า ในเรื่องการศึกษาเป็นหมวดหนึ่ง ในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ คนที่เหลื่อมล้ำในสังคม ก็มาจากฐานะที่ต่างกัน โอกาสที่ต่างกัน การให้การศึกษาเป็นการให้โอกาสทางสังคม ต้องให้คะแนนในเรื่องนี้ เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้เลยว่า รัฐต้องมีหน้าที่ให้การศึกษาแก่เด็กตั้งแต่ก่อนวัยเรียน เป็นการจัดการศึกษาฟรี เป็นการเอื้อประโยชน์ทางการศึกษา และในภาพรวมของตนแล้ว และในฐานะที่เป็นเลขาธิการ กปปส.เมื่อเอาเจตนารมณ์ของประชาชนเรื่องการปฏิรูปประเทศเป็นที่ตั้ง แล้วเอาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาดูแล้ว ตนรู้สึกถูกใจ พอใจ ชอบใจ ส่วนใครจะเลือกอย่างไรลงคะแนนรับไม่รับ เป็นเรื่องของแต่ละคน ตนเขียนได้เป็นข้อๆ เอามาเปรียบเทียบได้ บางเรื่องไม่เคยมีในรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ไม่เคยมี และเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศมานาน
เมื่อถามว่า ในเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีอาจจะเป็นปัญหาต่อพรรคการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคการเมืองนั้น อาจจะเป็นปัญหาของพรรคการเมือง แต่ไม่เป็นปัญหากับประเทศไทย เพราะเขาเพียงแต่ทำทางเลือกไว้ให้ ว่าในสถานการณ์พิเศษที่นักการเมืองและพรรคการเมืองไม่สามารถเอาคนที่มีอยู่มาเป็นนายกฯ ได้ เขาก็มีทางเลือกว่าถ้านักการเมืองถึงจุดนั้นแล้ว ตกลงกันไม่ได้ก็เอาทั้งรัฐสภามาช่วย หันหาคนนอกมาเป็นนักการเมือง และคนนอกก็จะต้องผ่านตกลง และเป็นเรื่องไม่น่ากลัวแต่เป็นการดี ทำให้ประเทศไม่ตกอยู่ในภาวะของทางตันในสถานการณ์แบบนั้น ตนในฐานะศิษย์สวนโมกข์ อาจารย์พุทธทาส บอกว่า คนที่มาเป็นผู้นำ มาอย่างไรไม่สำคัญเท่ากับคนมีธรรมะ มีศีลธรรม ให้ได้คนดีก็แล้วกัน ไม่ได้อยู่ที่วิธีการมา แต่อยู่ที่คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี