23 พ.ค. 59 นายถาวร เสนเนียน รองประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงการครบรอบ 2 ปี ของการยึดอำนาจของ คสช. ว่าขอยืนยันว่าตั้งแต่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปกครองประเทศ ทางมูลนิธิฯก็ติดตามการทำงานของรัฐบาลมาโดยตลอด อาทิ ตนทำหน้าที่ติดตามการแก้ไขปัญหาราคาพืชผล การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม หรือนายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ติดตามเรื่องการปฏิรูปตำรวจ และยังได้ติดตามเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญและมีความพึงพอใจ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นข่าวมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตามการติดตามงานปฏิรูปของกลุ่ม กปปส.นั้นไม่เหมือนกับการติดตามของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 2 แกนนำ นปช.เพราะ กปปส.เห็นว่าสิ่งที่ระบอบทักษิณเรียกร้องเป็นระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมที่ไม่มีธรรมาธิปไตย หลักนิติธรรม ตนเห็นว่าการติดตามเพื่อสร้างความสะใจ ตามคำวิจารณ์ของคนเดียวๆ แล้วนำมาตั้งคำถาม แบบนี้ถือว่ายังไม่ได้มาตรฐาน
นายถาวร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปฏิรูปที่ทาง กปปส.เรียกร้องให้ปฏิรูปนั้นยังไม่เห็นผล อาทิระบบพรรคการเมือง ที่ป้องกันไม่ให้นายทุนสามานย์เข้ามาเป็นเจ้าของพรรคการเมือง การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ประชาธิปไตย ประชาธิปไตยต้องคำนึงถึงเสียงข้างน้อยด้วย ซึ่งระบอบทักษิณนั้นไม่เคยคำนึงถึงเสียงข้างน้อยเลย ส่วนเรื่องการทำงานของรัฐบาลนั้นตนมองว่ารัฐบาลถือว่าสอบตกด้านการแก้ไขเศรษฐกิจ ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนโดยด่วนที่สุด
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มวลชนที่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส.ทบทวนท่าทีสนับสนุนรัฐบาล นายถาวรกล่าวตอบว่าเมื่อยังไม่เกิดการปฏิรูปก็คงจะต้องมีการเรียกร้องกันต่อไป ถ้าเป็นมวลชนคนเสื้อแดงแน่จริงก็ออกมาต่อสู้บนท้องถนนแบบที่ตนเคยต่อสู้เลย จะสิบล้านคน จะล้านคน หรือจะ 5 แสนคนก็ออกมา แน่จริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นการที่กลุ่มคนออกมาเรียกร้องอะไรนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะทำได้ แต่ไม่จำเป็นจะต้องไปให้พวกตนไปคิดเหมือนกับพวกเขา
นายถาวรกล่าวต่อว่าที่ผ่านมาฝ่ายระบอบทักษิณนั้นทะเลาะไม่เลิก คสช.เองก็จับได้ไล่ทันมาโดยตลอด นักวิชาการหรือแกนนำกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวจะอ้างว่าเป็นตัวแทนของคน ไทย 65 ล้านคนไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามตนมองว่าเมื่อ คสช.ตอนนี้นำตัวเองเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายระบอบทักษิณแล้วก็อยากให้ คสช.และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความกล้าหาญ เด็ดขาดพอจะระบุให้ชัดเจนว่านักการเมืองกลุ่มไหนกลุ่มไหนที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง ต้นเหตุของการทุจริต และดำเนินการทางกฎหมาย ขอว่าอย่าเหวี่ยงแหไปยังนักการเมือง เพราะถ้าทำแบบนี้นักการเมืองที่ดีจะขุ่นเคืองเอาได้ และจะไม่ได้รับความร่วมมือในส่วนนี้ เพราะเวลาเหวี่ยงแหที พวกตนก็สะดุ้งเหมือนกัน
นายถาวรกล่าวต่อว่าเมื่อกฎหมายเป็นกฎหมาย เชื่อว่าการปรองดองก็จะเกิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอาข้อเสนอของ นายคณิต ณ นคร อดีตประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ตนเห็นด้วยที่จะยึดตามแนวนี้ ยึดเอาตามหลักของความเป็นจริง
เมื่อถามถึงข้อเสนอของความปรองดองของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)นายถาวรกล่าวว่าตนคิดว่าเรื่องการพูดคุยก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ผ่านมานั้นตนก็พูดคุยกับกลุ่ม นปช.มาโดยตลอด แม้แต่นายวรชัย เหมมะ ล่าสุดก็โทรมาคุยกับตน หารือเรื่องรัฐธรรมนูญเรื่องธรรมนูญ เรื่องประชามติ
“ขอยืนยันว่าพวกผมนั้นพร้อมจะพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง หรือกลุ่มไหนๆ ไม่มีการล้มมวยแน่นอน คนที่ตกใจว่าจะล้มมวย พวกนี้บางทีมันต้องการให้บ้านเมืองไม่สงบ” นายถาวรกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี