‘บิ๊กตู่’ไม่ตอบ
ประเด็นเลื่อนเลือกตั้ง
ชี้ร่างไม่ผ่าน-ไม่เกี่ยวคสช.
พร้อมอยู่ต่อจนได้รบ.ใหม่
คสช.จวก‘พท.’กุเรื่องด่า2ปี
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ได้สั่งการในที่ประชุมให้สรุปเรื่องปฏิรูปให้ชัดเจนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเราไม่ทำงานเป็นจ๊อบๆ แต่ต้องแก้ปัญหาครบวงจร ซึ่งการปฏิรูปวันนี้ต้องบูรณาการขับเคลื่อนไปด้วยกัน ขณะนี้ความขัดแย้งยังสูงอยู่ในทุกเรื่อง หลายปัญหายังซับซ้อน เรายังขจัดความขัดแย้งไม่ได้ เนื่องจากยังมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ทั้งนี้ หากทุกคนเข้าใจจะยอมรับได้ในสถานการณ์วันนี้
‘บิ๊กตู่’ไม่ตอบปมเลื่อนเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการทำประชามติต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า พวกท่านอยากเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า ยังยืนยันว่าจะเลือกตั้งปี2560 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้ตอบไปหลายครั้งแล้ว ถามเรื่องเดิมๆ ไม่ขอตอบแล้ว
ไม่หนักใจฟ้องผิดพรบ.ลงมติ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีจะมีการฟ้องร้อง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)และอาจารย์ภาคใต้จะฟ้อง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุกระทำผิดมาตรา61 พรบ.ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ตนไม่กังวลใดๆ ยืนยันว่า ไม่เคยปิดกั้นอะไร แต่บางเรื่องที่เป็นเรื่องนโยบาย หรือเรื่องแผนก็ไม่ขอเปิดเผย แต่รับรองได้ว่า ประเทศต้องเป็นประชาธิปไตยและหากใครได้มาอยู่ในแบบที่ตนอยู่ตอนนี้จะรู้ว่า ยากแค่ไหน ที่ต้องระงับความขัดแย้งไปด้วยและทำงานไปด้วย แต่ตนจะไม่บ่น
ลั่นเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
‘เรื่องประชามติขอย้ำอีกที ผ่านไม่ผ่านก็เรื่องของท่าน ไม่ใช่ไม่ผ่านแล้วกลายเป็นว่าประชาชนไม่รับ คสช.มันเกี่ยวกันไหม ผมก็อยู่จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ไม่ได้ห้าม เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็เลือกและอย่ามาพูดว่ารัฐบาลต้องการล้มประชามติเพื่ออยู่ต่อ จะบ้าหรือเปล่า ไม่คิดบ้าๆ บอๆ แล้วคนจะเข้าใจได้อย่างไรว่า ประชาธิปไตยคืออะไร ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่และดูแลเสียงส่วนน้อย รัฐบาลผมดูทั้งประเทศ เพราะผมไม่มีผู้แทน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
‘บิ๊กป้อม’ไม่ลาออก-กระเซ้าเล่น
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกฯระบุว่า พล.อ.ประวิตร บ่นอยากลาออกว่า“ผมไม่ได้จะลาออก แต่ผมบอกว่าผมแก่ ผมไม่ได้บ่น นักการเมืองบ่นลาออกไม่ได้ เสียหาย ผมเพียงคุยเล่นๆ กระเซ้าเย้าแหย่กับนายกฯเท่านั้น ที่ผมเหนื่อยก็มีเพียงเรื่องนักข่าวนี่แหละ สิ่งที่ไม่ควรถามก็ถาม ส่วนเรื่องที่น่าจะถามกลับไม่ถาม เรื่องดีๆไม่ถาม พอเรื่องเป็นประเด็นเห็นถามทุกที เหนื่อยนักข่าวมากที่สุด ถามจะให้ตีกันอยู่เรื่อย ทำงานมากว่า 50ปีแล้ว นายกฯว่าอย่างไร ผมก็ว่าตามนั้น เพราะนายกฯเป็นผู้เสียสละ ผมไม่ได้งอน แก่จะตายอยู่แล้ว ถ้างอนคงน่าเกลียดตายเลย ถ้าสาวๆงอนล่ะพอได้” พล.อ.ประวิตร กล่าว
คสช.ปัดไล่บี้พรรคใดพรรคหนึ่ง
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี นายวรชัย เหมะ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นติติงการทำงานรอบ 2ปี คสช.ว่า ส่วนใหญ่มีเนื้อหาคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง กรณีการกล่าวถึงว่า คสช.ไล่บี้เฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือกลุ่มคนเสื้อสีใดสีหนึ่งนั้น เป็นการแสดงความเห็นที่อาจดูไม่สร้างสรรค์ ด้วยมุมมองส่วนบุคคล เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่พอจับทางเจตนาได้ การดำเนินการในทางกฎหมายย่อมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมบุคคลนั้นๆเป็นหลัก ไม่ใช่เพราะเป็นพรรคนั้นพรรคนี้ หรือกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ การแสดงความเห็นควรหลีกเลี่ยงการใช้จินตนาการในทำนองที่แสดงถึงการแบ่งแยก เพื่อพาประเทศกลับไปสู่ความขัดแย้งอีก ทั้งที่ คสช.และรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สังคมเกิดความสงบปรองดอง
เชื่อชาวบ้านรู้ทันเกมการเมือง
อย่างไรก็ตาม ขอให้สังคมมั่นใจว่า คสช.และรัฐบาลไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร แต่จำเป็นต้องรักษากฏกติกาให้สังคม สำหรับกลุ่มที่พยายามสร้างความไม่เรียบร้อยให้กับประเทศด้วยกลวิธีด้วยรูปแบบต่างๆ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวสารมาตลอดจะเข้าใจ สามารถแยกแยะได้ว่า อะไรเป็นเรื่องจริงอะไรเป็นเรื่องเท็จที่แฝงด้วยผลลัพธ์และนัยยะในทางการเมือง
ยึดอำนาจ’ปู’ด้วยหลายเหตุผล
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในโอกาสครบรอบ 2ปีรัฐประหาร โดยระบุว่า รัฐบาลของดิฉันทำงานไม่ได้ จึงเข้ามายึดอำนาจว่า จริงๆแล้วมีเหตุผลอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่เหตุผลว่า รัฐบาลทำงานไม่ได้อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของความขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรง กระทั่งมีคนเสียชีวิตจากการแสดงออกตามวิถีทางประชาธิปไตย สิ่งนี้เป็นการละเมิดอย่างรุนแรงของคนในสังคม โดยเฉพาะการใช้อาวุธสงครามกันมากในชุมชนเมือง การบังคับใช้กฎหมายในขณะนั้นไม่มีประสิทธิภาพและคนไม่เคารพกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการละเมิดสถาบันก็มีมาก ยังมีการใช้สื่อปลุกระดมปลุกปั่นจนเกิดความแตกแยกอีกด้วย
ไม่ให้ราคา’วัฒนา’ป่วนรายวัน
สำหรับกรณีที่ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องนั้น จะเห็นได้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายวัฒนา จะแสดงความเห็นเชิงลบทุกเรื่อง เนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนมาจากความรู้สึกทางอารมณ์ส่วนตัวที่มีกับ คสช.ซึ่งประชาชนเข้าใจได้ สิ่งที่ นายวัฒนา คิด ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบอธิบายให้สังคมฟังหมดแล้ว
‘ไก่อู’อัดนักการเมืองทำศก.ล่ม
เช่นเดียวกับ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นกรณีอดีตสส.พรรคเพื่อไทย ยังออกมาโจมตีว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยที่สุดในอาเซียน ว่า น่าเสียใจที่ประเทศไทยยังคงมีกลุ่มนักการเมืองที่พยายามทำลายความเชื่อมั่นประเทศตนเองในสายตาชาวโลกและนักลงทุน เพื่อหวังผลทางการเมือง ทั้งนี้ ปี2557 ประเทศไทยบอบช้ำต่อเนื่องจากการกระทำของกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่มที่ปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกในสังคม มีการทุจริตคอร์รับชั่นอย่างมหาศาล ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเหลือเพียงร้อยละ0.8เทียบกับประเทศเมียนมาร์ที่เติบโตสูงสุดในอาเซียนที่ร้อยละ8.7 โดยประเทศไทยเปรียบเหมือนคนป่วยไม่ใช่จากเชื้อโรคภายนอก แต่เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง จากน้ำมือนักการเมืองบางคนบางพรรค
ทหารเข้ามาดูแลจนกระเตื้องขึ้น
‘คสช.ต้องเข้ามาหยุดเลือดที่ไหล นำประเทศไทยที่ป่วยในห้องไอซียูมาดูแลบำบัดรักษา จนปัจจุบันลุกขึ้นนั่งได้ เดินได้และเตรียมพร้อมที่จะออกวิ่ง เพื่อชดเชยเวลาที่สูญเสียไป รัฐบาลทำอย่างเต็มที่จนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยเติบโตต่อเนื่องจนถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม 25ประเทศแรกที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ จึงอยากเรียกร้องให้ สส.เพื่อไทย หยุดพูดข้อมูลจริงปนข้อมูลเท็จ ให้ร้ายประเทศได้แล้ว เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าเนื้อตนเอง’
‘ปึ้ง’เหน็บ2ปีก็อบงานรบ.เก่า
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงผลงาน 2ปีที่คสช.จะแถลงข่าวว่า คงเป็นเรื่องเดิมที่เคยออกรายการ’คืนความสุขทุกเย็น’ เอามาเรียบเรียงและขัดเกลาใหม่ก็เท่านั้นเอง ความจริงจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ท่านทำอะไรสำเร็จที่เป็นผลงานจริงๆ อะไรที่ไปลอกของเก่าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำไว้ในอดีต แล้วเอามาปัดฝุ่นทำลอกเลียนแบบ ก็ไม่ว่ากัน เพียงขอให้ประชาชนมีความสุขแท้จริงเราก็ดีใจด้วย
พท.ยัน’พิชัย’พูดด้วยข้อมูลจริง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษก พท.กล่าวเสริมว่า ข้อมูลที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน ได้นำออกมาเปิดเผยนั้น เป็นข้อมูลของสภาพัฒนาเศรฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานของรัฐ ที่ระบุว่า เศรษฐกิจไทยโตต่ำสุดอาเซียนในปี2557และ2558 ก็เป็นข้อมูลจากธนาคารโลกและสื่อต่างประเทศถึงกับขนามนามให้ไทยเป็นคนป่วยของเอเซีย
กกต.ดีเดย์แพร่ร่างรธน.25พค.
วันเดียวกัน นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเริ่มเดินสายประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 25 พฤษภาคม ว่า กรธ.คงไม่ส่งใครไป เพราะกกต.จะคิกออฟเรื่องกติกาการทำประชามติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับ กรธ.ซึ่ง กกต.คงจะอธิบายแทนได้
‘มีชัย’เล็งของบเพิ่มให้’ครู ค.’
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงมหาดไทยให้งบประมาณในการอบรมครู ก. ครู ข. ครู ค.ทั้งหมดทุกขั้นตอนที่ 198ล้านบาท จะเพียงพอหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า งบประมาณกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดงบประมาณไว้ใช้อบรมถึงครู ค.ทาง กรธ.ก็เห็นว่า คนที่ทำงานนานที่สุดคือ ครู ค.ที่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณ ตรงนี้ไม่ทราบว่า รัฐบาลมีงบประมาณให้ ครู ค.เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ส่วนจะเป็นเงินเท่าไหร่ยังไม่ชัดเจน อยู่ระหว่างการคำนวณ กรธ.จะของบประมาณเพิ่มให้กับครู ค.เพราะเวลาลงพื้นที่พบประชาชน เช่น การเดินเคาะประตูจะต้องใช้เวลานานหลายวัน ขณะที่ครู ก. ครู ข. มาอบรม 1-2วัน ค่าใช้จ่ายไม่มาก เรื่องงบประมาณทาง กรธ.ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะกระทรวงมหาดไทยดูแลในเรื่องนี้เพราะเขามีระบบที่ดีกว่า
ย้ำรบ.ใหม่มา-คสช.สิ้นอำนาจ
เมื่อถามถึงกรณีครู ก.พื้นที่ภาคใต้สอบถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงผ่านประชามติได้รับความเห็นชอบจะส่งผลให้ คสช.สืบทอดอำนาจได้ 12ปี นายมีชัย ตอบว่า “คสช.ชุดนี้หมดอำนาจเมื่อมีรัฐบาลใหม่มา”เมื่อถามต่อว่า ตรงนี้ก็จะมีสว.เป็นผู้เลือกนายรัฐมนตรีได้ นายมีชัย กล่าวว่า“คสช.ก็มีแค่สิบกว่าคน เมื่อหมดยุคไปแล้วก็จะเหลือแต่เงา” เมื่อถามย้ำว่า สำหรับ คสช.บางคน อาจจะมาในรูปรัฐบาลใหม่ได้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า “อันนี้ไม่ทราบและเดามาถูก น่าจะเข็ดนะ คงไม่มีใครอยากมา ไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นผมๆเข็ด”
ถกลงมติขัดรธน.หรือไม่1มิ.ย.
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวหลังประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องของ นายจอน อึ้งภากรณ์ ผอ.โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ที่ขอให้ผู้ตรวจฯส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรบ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา61 วรรค2ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพราะจะมีผลกระทบต่อการออกเสียงประชามติในวันที่ 7สิงหาคม โดยจะพิจารณาคำร้องดังกล่าวและมีคำวินิจฉัยในการประชุมวันที่ 1มิถุนายนนี้ ซึ่งก็จะชัดเจนว่าจะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ หากผู้ตรวจฯมีมติส่งศาลฯวินิจฉัยและศาลฯวินิจฉัยว่า มาตรา61 วรรค2และวรรค4ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่ทำให้กฎหมายประชามติเสียทั้งฉบับ แต่จะทำให้มาตรา61 วรรค2และวรรค4 ใช้บังคับไม่ได้ ไม่ทำให้การออกเสียงประชามติที่ทำมาทั้งหมดเสียไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี