27 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.15 น.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์บ้านเมืองไทยในปัจจุบัน ดังนี้
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ปีนี้และปีหน้าเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกระทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมใจกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองสิริราชสมบัติ 70 ปี ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.2559 - 9 มิ.ย.2560 นะครับ และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค.2559 โดยต้องคำนึงถึงความสมพระเกียรติ เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประโยชน์สาธารณะ เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ การสร้างฝายและพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก การซ่อมแซมฝายในรูปแบบประชารัฐ โครงการจัดแสดงสินค้า OTOP ภูมิปัญญาไทย ฯลฯ
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชน บริษัท-ห้าง-ร้านทั่วไป รวมทั้งสถานที่ราชการ สามารถประดับธงสัญญลักษณ์ เพื่อเฉลิมฉลองปีมหามงคล ตามห้วงเวลาดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกัน ทั่วประเทศนะครับ
ในโอกาสที่ดีนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับคณะทำงาน Thai Everest 2016 ที่ประสบความสำเร็จ พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เทือกเขาหิมาลัย ที่น่าประทับใจที่สุดในครั้งนี้ คือ การได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมือ ของ "หมออีม" ทันตแพทย์หญิง นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ เหนือจุดที่สูงที่สุดของโลก นับหญิงไทยคนแรก ที่สามารถสร้างประวัติครั้งสำคัญ ครั้งนี้ได้สำเร็จในที่สุด หลังจากที่คนไทยคนแรก ที่สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้สำเร็จ คือ นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2551 นะครับ
ในโอกาสนี้ ผมขอร่วมเป็นกำลังใจ และขอแสดงความยินดีกับสิ่งดีๆ ช่วงปีมหามงคลสำหรับนักกีฬาไทย ที่ประสบความสำเร็จ ในการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ เช่น นักกีฬารักบี้ฟุตบอล ทั้งทีมชายและทีมหญิง ที่ชนะเลิศการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลรายการ "เซาท์ - อีสต์ - เอเชีย - เซเว่นส์" ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สร้างประวัติศาสตร์ของวงการรักบี้ฟุตบอลไทย จนเป็นที่ยอมรับ ทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก
(2) ก็คือนักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งแม้ยังไปไม่ถึงจุดหมายสูงสุด ในการได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิปปิค 2016 ที่ประเทศบราซิล แต่ก็สามารถเอาชนะใจคนดู สร้างความสุขให้กับคนไทย ทั้งประเทศนะครับ ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ และความมีสปิริตของนักกีฬา
(3) ก็มี "โปรเม" อีกนะครับ นางสาวเอรียา จุฑานุกาล ที่สามารถคว้าแชมป์ "คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิพ" ที่สหรัฐอเมริกา ได้อีกครั้หนึ่งนะครับ ก็นับเป็นการคว้าแชมป์รายการ แอล พี จี เอ ทัวร์ 2 รายการติดต่อกัน ได้ขยับขึ้นเป็นมือวางอันดับที่ 13 ของโลก
ทั้งนี้ เรื่องราวความสำเร็จเหล่านี้ แสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของคนไทย และพิสูจน์ให้เราเห็นสัจธรรมที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" นะครับ สำหรับการเดินหน้าประเทศไทยของเราครั้งนี้ ผมเห็นว่าความสำเร็จอยู่ที่ "ความร่วมมือ" ของทุกๆ ฝ่ายนะครับ ที่เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ยอมสละความสุขสบายส่วนตัว เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ
นอกจากนั้น สิ่งที่รัฐบาลกำลังพิจารณาขยายผล เพื่อให้เกิดการปฏิรูปในวงการกีฬาของไทยต่อไป ได้แก่
(1) การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬา โดยมีวิทยาลัยพลศึกษาเดิม เป็นวิทยาเขตอยู่ทั่วประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและกำหนดแนวทางที่เป็นไปได้ มีประสิทธิภาพ และประหยัดงบประมาณของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
(2) ก็คือกระบวนการผลิตนักกีฬาของไทย ตามศักยภาพและสรีระ ให้มีความพร้อมอย่างต่อเนื่อง จากรุ่นสู่รุ่น ไม่ขาดตอน ทั้งประเภทอาชีพ สมัครเล่น และคนพิการ
(3) ก็คือการนำวิทยาศาสตร์การกีฬา มาใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อยกระดับนักกีฬาไทย ทุกประเภทสู่มาตรฐานสากลให้ได้ครับ
สำหรับกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารบ้านพักนักเรียน ของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย นั้น ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งนะครับ กับครอบครัวของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยผมได้สั่งการ - เน้นย้ำ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีกำกับดูแลมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย ทั้งระบบ ให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องมีแผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อมการปฏิบัติ ให้ทุกคนรู้ เข้าใจ ปฏิบัติได้จริง เป็นอัตโนมัติ สามารถรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลานะครับ ส่วนการดูแล ให้ความช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ก็ขอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนะครับ และก็รวดเร็ว เหตุการณ์ครั้งนี้ ผมขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะครับ เป็นบทเรียนราคาแพงร่วมกัน ในการที่จะต้องเตรียมความพร้อม จะได้ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา และลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุดนะครับ หรือไม่มีการสูญเสียเลย
ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ต้องหมั่นสำรวจ ตรวจสอบ ให้มีการวางแผน กำหนดมาตรการ ดูแลเรื่องอุบัติภัยต่างๆ ทั้งระบบดับเพลิง - ลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนตึกสูง ทั้งระบบน้ำดับเพลงในเขตเมือง ในอาคารชุมชนแออัด ตรอกซอกซอย ให้สามารถเข้าถึง ทั้งระบบเตือนภัย ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ให้สามารถจัดการกับภัยพิบัติต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีนะครับ อยู่ที่ความเอาใจใส่นะครับ แล้วก็การเตรียมการไว้ล่วงหน้า
สำหรับลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ ณ จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ของผมและคณะ วันก่อนนั้นเราก็ได้ไปพบปะกับประชาชน ที่ประสบปัญหาภัยแล้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร ตามนโยบายรัฐบาล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็ง เสริมการเรียนรู้ สนับสนุนการพัฒนาตนเอง ตั้งแต่ต้นทาง - กลางทาง - ปลายทาง อาทิเช่น โครงการเพิ่มศักยภาพพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ การแปรรูปข้าวหอมมะลิ - มันสำปะหลัง - อ้อย - ยางพารา ให้มีราคาสูงขึ้นมีนวัตกรรมนะครับ
การส่งเสริมประมงพื้นบ้าน ได้มีการมอบพันธุ์กุ้งและพันธุ์ปลาตะเพียน
การมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าครบุรี เป็นป่าเสื่อมโทรม พื้นที่ 3,182 ไร่ แก่ราษฎร 199 ราย ใน 2 อำเภอ
(4) การมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ให้แก่เกษตรกร จำนวน 11 แปลง พื้นที่ 21,057 ไร่ ใน 3 อำเภอ
(5) โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ OTOP สู่สากล ซึ่งเรามีการพัฒนาลำดับ 1 - 2 - 3 แต่ถ้าเราเลื่อนจาก 3 มา 2 , 2 ไป 1 ก็จะไปสู่สากลได้เร็วขึ้นนะครับ ขอให้ทุกคนร่วมกันพัฒนา
สำหรับในเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำ นะครับ มี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการเตรียมการ การพัฒนาเรื่องแหล่งน้ำ การระบายน้ำ การพร่องน้ำ การแจกจ่ายน้ำไปพื้นที่การเกษตร นะครับ
อีกอันหนึ่งเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยภัยพิบัติ ด้วยโลกเปลี่ยนแปลงเช่นฝน แล้ง น้ำท่วม เราจะบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่น้อยเกินไป หรือน้ำที่มีมากเกินไปได้อย่างไร นี่เขาเรียกว่า มี 2 ขั้นตอน เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำจะต้องทำทั้ง 2 อย่างนะครับ ว่ามีแผนอย่างไร ในพื้นที่เสี่ยงภัยอะไรบ้าง ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ถ้าไปดูใน AGRI Map ของกระทรวงเกษตรจะเห็นทั้งหมดเลยว่าประเทศไทยนั้นมีน้ำที่ไหน พื้นที่สูง พื้นที่ต่ำตรงไหนนะครับ ซึ่งผมก็กำลังให้เขาทำรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนะครับ สามารถเข้าไปดูได้นะครับ
ในการแก้ปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วมในลุ่มน้ำสำคัญ ที่ จ.นครราชสีมา ที่ผ่านมานะครับ มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในปี 58/59 จำนวน 11 อำเภอนะครับ มากพอสมควร พื้นที่ได้รับความเสียหาย 467,706 ไร่ และพื้นที่ประสบอุทกภัย ในปี 53 , 56 นะครับ กระทบพื้นที่การเกษตรและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน จำนวน 2 อำเภอ ผมยินดีนะครับ ได้รับรายงานความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการจัดทำฝายกั้นน้ำ ตามแนวทาง "ประชารัฐ" สำเร็จไปแล้ว จำนวน 170 แห่ง เพือชะลอน้ำ กักเก็บน้ำไว้ให้สามารถที่จะเลี้ยงพืช ผัก สวนครัว ต่างๆ ได้อย่างน้อย ก็มีรดน้ำพืชผักสวนครัวได้ ที่ใช้น้ำน้อยนะครับ แล้วเราจะสร้างเพิ่ม อย่างต่อเนื่อง รวม 182 แห่งนะครับ ส่วนโครงการใหญ่ที่น่าสนใจ ตามนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อย่างบูรณาการ ก็มีอยู่ 2 โครงการนะครับ
1.โครงการแรกคือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ที่ดำเนินการไปแล้วนะครับ เป็นการปรับปรุงแก้ไขแหล่งกักเก็บน้ำ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยจากน้ำส่วนเกิน ล้นเขื่อน พื้นที่ 2 อำเภอ แก้ปัญหาที่ อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย นะครับ
นอกจากนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกับเก็บน้ำ สำหรับใช้เป็นน้ำต้นทุน ในการอุปโภค - บริโภคของประชาชน ใน 3 อำเภอ คือ อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย และ อ.เมือง รวมทั้ง ปรับปรุงระบบระบายน้ำ ได้แก่ (1) การยกระดับสันเขื่อน (2) การเพิ่มความกว้างทำนบดิน (3) การปรับปรุงฐานรากตัวเขื่อนให้แข็งแรง (4) การปรับปรุงคลองผันน้ำ จากเขื่อนลำพระเพลิง ไปยังอ่างเก็บน้ำลำสำลาย และ (5) การขุดลอกอ่างเก็บน้ำลำสำลาย เพื่อให้มีปริมาตรความจุสูงขึ้นเพื่อที่จะเติมกันได้ในระบบอ่างพวงนะครับ คล้ายๆ กัน
เรื่องที่ 2.คือ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ซึ่งเมื่อวันก่อนนี้ก็ได้มีการขออนุมัติให้ดำเนินการ ผมและคณะก็ได้พิจารณษร่วมกันแล้ว ก็เห็นชอบในหลักการนะครับ ให้มีการอนุมัติให้ดำเนินการได้ เนื่องจากตื้นเขิน และไม่ได้รับการพัฒนามากว่า 40 ปีแล้ว เพื่อใช้เป็นแหล่งกับเก็บน้ำ และชะลอน้ำหลาก ในช่วงฤดูฝน สำหรับเป็นแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค ใช้ในการเกษตรกรรม ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งของประชาชน ในพื้นที่ 6 อำแภอ คือ อ.พระทองคำ อ.เทพารักษ์ อ.ด่านขุนทุด อ.โนนไทย อ.โนนสูง และ อ.เมือง ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่ (1) โครงการยกระดับการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ให้สามารถกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร (2) โครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งลำเชียงไกร โดยการสร้างอาคารระบาย จำนวน 56 แห่ง และ (3) โครงการขุดลอกลำเชียงไกร ระยะทาง 122 กิโลเมตร
ผมก็ได้ตัดสินใจนะครับได้มอบนโยบายเป็นการเร่งด่วน ให้เกิดผลชัดเจนนะครับภายในปี 2560 ก็เป็นการปรับโครงการที่ระยะยาวมาเร่งทำในตอนนี้ก่อนนะครับ ทั้งนี้ เพื่อจะลดผลกระทบและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอันดับแรกให้ทันเวลา โดยให้มีการปรับระยะเวลาการดำเนินการให้สั้นลง
สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปก็คือ การกำหนดพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม จำแนกว่าพื้นที่ไหนควรจะปลูกพืชชนิดใด หรือพื้นที่ใดควรจะแปรรูป พื้นที่ใดจะทำหน้าที่เป็นการตลาด ที่สามารถจะแลกเปลี่ยนกันได้ เชื่อมโยงต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ได้ ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับแผนบริหารจัดการน้ำ ที่ต้องศึกษาดูด้วยนะครับ เราได้มีการแพร่ไปในเว็ปไซต์ต่างๆ แล้วนะครับ
สิ่งสำคัญอีกประการก็คือ การใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีสารสนเทศ ๘นข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้อย่างบูรณาการนะครับ ทุกคนต้องเข้าไปศึกษาเรียนรู้นะครับดิจิตอล จะช่วยทำให้เรา หูตากว้างไกลขึ้น เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เป็นเกษตรกรที่ไม่หวังพึ่งแต่ธรรมชาติเพียงอย่างเดียวนะครับ ก็ต้องเรียนรู้ รู้เท่าทันกับสภาพภูมิศาสตร์ด้วย นะครับ
เราจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน เป็นสำคัญนะครับ แล้วก็ไปสอดคล้องกับการที่ใช้คำว่าระเบิดจากข้างใน ไม่ว่าจากการพัฒนา ไม่ว่าจากการเกษตร การเศรษฐกิจ อะไรต่างๆ แล้วแต่ มันต้องเกิดจากข้างในทั้งสิ้น เริ่มจากคน ในคนแต่ละคน ในองค์กรนะครับ ในหน่วยงาน หรือในกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ทั้งหลายทั้งหมด มันต้องใช้แนวทางเหล่านี้นะครับ แล้วก็พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน นะครับ มันจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น กินดีอยู่ดีนะครับ ถ้าเราทำคนใดคนหนึ่งไม่มีทาง ไม่มีทางสำเร็จนะครับ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นาแปลงใหญ่ ถ้าไม่เชื่อมโยงกันไปสู่เอสเอ็มอี ไปสู่ธุรกิจเพื่อสังคม แล้วไปสู่ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ไปไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ เพราะมันเชื่อมโยงกัน
ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยอย่างเป็นรูปธรรม ผมก็เร่งมา 2 ปีแล้วนะ ก็ยังมีผลไม่ได้มากเท่าที่ควรนะครับ ผมเองกังวลเรื่องนี้ ผมก็ได้เร่งรัดมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทยได้มีการบูรณาการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะนะครับตามแนวทางประชารัฐ ระยะ 1 ปี (มิถุนายน 2559 - มิถุนายน 2560) นะครับ โดยใช้หลักการ 3R นะครับ คือ การใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่นะนะครับ มีเป้าหมายเพื่อจะลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศลงร้อยละ 5 จากการเกิดขยะมูลฝอย อัตราเฉลี่ยนะครับ หรือลดลง 2 ล้านตันต่อปี ให้เหลือประมาณ 23 ล้านตันต่อปี
ก็คงต้องขอความร่วมมือจากทุกกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน ศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้า และสถานประกอบการต่างๆ เป้นต้นนะครับ ช่วยกันรณรงค์ การคัดแยกขยะมูลฝอย นะครับ มันต้องเริ่มจากการทิงขยะก่อน สร้างจิตสำนึกการทิ้งขยะของคน การใช้สิ่งของหรืออะไรที่มันย่อยสลายได้ยาก เช่นถุงพลาสติกต้องลดลงให้ได้นะครับ ผมมีนโยบายไปว่าจะต้องลดถุงพลาสติกไปเท่าไหร่ในแต่ละเดือน แต่ละเดือนก็ขอความกรุณาช่วยกันทบทวนนะครับ ถ้าท่านไม่ช่วยผม ไม่ช่วยรัฐ ไม่ช่วยคนเก็บขยะ มันก็จะซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แบบนี้ แล้วเราก็จะมาปรับกระบวนการ ในตรงกลาง ในการเก็บขยะ ในการที่จะนำไปสู่การฝังกลบ หรือนำมาใช้ในเรื่องของการเป็นพลังงานเหล่านี้ รัฐบาลจะได้ทำได้เต็มที่ สอดคล้องกับต้นทางก็คือ การทิ้งขยะ ลดการใช้ถุงพลาสติก และก็มีการคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง แล้ววันนี้ผมก็เห็นเด็กๆ หลายกลุ่มนะครับ เค้าคิดในเรื่องของการทำให้ขยะมีมูลค่านะครับก็มีเครื่องต่างๆติดตั้งอยู่ตามศูนย์การค้าต่างๆก็มีอยู่พอสมควรนะครับ คือเอาขยะ เอาแก้วน้ำ ขวดน้ำพลาสติกเนี่ยไปแลกออกมาเป็นเงิน นะครับ ไปใช้ใช้จ่ายได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่ง มันเป็นเพียงแต่ตัวอย่างเดียวนะครับ อย่างอื่นเนี่ยสำคัญ ขยะที่แต่ละคนผลิตออกมาต้องลดลง ทำอย่างไร นะครับ อย่าใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย สิ้นเปลือง ถุงพลาสติกใช้จนเลอะเทอะเปรอะเปื่อนไปหมดนะครับ อันที่สองคือกล่องโฟมที่ใส่เศษอาหาร ใส่อะไรเหล่านี้พอทิ้ง เขระลงไปข้างล่าง มันต้องนึกถึงคนเก็บขยะเขาด้วยนะ เขาก็ไม่ค่อยอยากเก็บมันสกปรกไง
เราต้องนึกถึงคนในทุกอาชีพ เผื่อแผ่แบ่งปัน มีจิตสำนึก นึกถึงเขาบ้าง ไม่ใช่เออเขาก็ไม่อยากเก็บ เราก็จะทิ้งไป มีหน้าที่ของเขา เขาไม่เก็บเราก็ว่าเขา ไอ้แบบเนี้ยมันไปไม่ได้หรอกนะ ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนนะ จิตสำนึกของทุกคนในสังคมนะ เพื่อจะลดปริมาณขยะมูลฝอย ให้เหลือไปจัดการน้อยที่สุดนะครับ ก็ต้องไปแก้ทั้งต้นทาง คนทิ้งใช่มั้ย กลางทางคือคนที่จะขนไปทิ้ง อันที่สามก็จุดที่จะทิ้ง ไปทิ้งเพื่อทำอะไร อะไร reuse อะไรฝังกลบ อะไรเผา ทุกอย่างมันต้องต่อเนื่องเชื่อมโยงอย่างนี้
ที่ผ่านมาน่ะ มีปัญหาอย่างนี้นะครับ ทำไมมันช้า หลายคนตอบว่า รัฐบาลนี้ไม่แก้ไข ก็มันจะแก้ได้อย่างไรล่ะ กฎหมายขยะเนี่ยมันยังไม่ชัดเจน ที่ผ่านมาหลายกระทรวง รับผิดชอบคนละท่อน คนละท่อนหมด มันทำไม่ได้หรอกครับ วันนี้ก็มาแก้ไขพระราชบัญญัติขยะ ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่นะครับ วันนี้อยากให้ไปดูว่าต้นทางช่วยกันได้ยังไง พอกลางทางเนี่ย ความคิดของผมนะครับ วันนี้มีระบบบริหารจัดการขยะอยู่แล้วซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ทำยังไง เราจะใช้เอ๊าท์ซ้อส มาเสริมได้ไหม ค่าใช้จ่ายจะทำยังไง จะแยกเป็นพื้นที่สำคัญก่อนได้มั้ย ที่จะมีการบริหารจัดการโดยใช้เอ๊าท์ซ้อส แต่ปัญหาก็คือว่า ค่าใช้จ่ายมันก็ต้องเพิ่มขึ้นนะครับ ถ้าเราไม่นำร่องแบบนี้ หรือไม่ทำแบบนี้ ไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะว่าปริมาณ งบประมาณจากค่าขยะเนี่ยมันน้อยมาก การที่จะพัฒนาให้เค้าแยกรถ หรือจัดที่ทิ้งให้มันมากขึ้น แยกขยะให้ได้ มันก็ต้องไปรวมกันอยู่ดี ถ้าเราไม่มีงบประมาณให้เค้านะครับ เห็นใจเค้าบ้าง งั้นมันจะเห็นใจได้ แก้ไขได้ โดยที่ตัวเราเอง หรือสถานประกอบการต่างๆ นะครับ ต้องช่วยกันลดขยะให้ได้ รณรงค์หน่อยสิครับ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เป็นปีแห่งการกำจัดขยะมูลฝอยในประเทศไทยให้ลดลงให้มากที่สุดจะ 30 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ อะไรก็ได้ ปี 59 - 60 ช่วยทำกับผมหน่อย ก็ถือว่าเป็นการทำความดีเพื่อปีมหามงคลก็แล้วกัน นะครับ
วันนี้ถ้าเราลดขยะไป ค่าบริหารจัดการขยะเราก็จะไม่ต้องเพิ่มเติมมากนักนะครับ มันก็จะได้ไม่ใช้เป็นภาระของหน่วยงานที่จัดเก็บ เราไปแก้ตรงปลายทางซิว่า ตกลงเราจะทำยังไง วันนี้ใครรับผิดชอบอยู่ ท้องถิ่นบ้าง เทศบาลมั่ง มันมีการบริหารจัดการขยะปลายทาง ซึ่งวันนี้มันอาจจะใช้ไม่ได้มากนัก ก็มาทำให้มันทันสมัยขึ้น ขอความร่วมมือนะครับ รณรงค์ลดรับถุงพลาสติก โดยนำถุงผ้าไปจ่ายตลาดหรือซื้อของจากห้างนะครับ สามารถทำได้ทุกวัน
ต่อไปสถานการณ์โลก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภัยพิบัติ การก่อการร้าย และโลกไร้พรมแดน เศรษฐกิจ 4.0 ภัยแล้ง อุทกภัย เหล่านี้ มันเชื่อมโดยงกันทั้งสิ้น นะครับ โครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น จะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยง กับทุกมิติที่กล่าวเมื่อสักครู่ ก็ไม่อยากให้เรามองกันเองว่า เศรษฐกิจเราล้มเหลว คนมีรายได้น้อยลง ลองมองย้อนกลับมานะครับว่าประเทศไทย มีประชาชนประกอบอาชีพอะไรบ้าง รายได้มากน้อยต่างกันอย่างไร เราได้สร้างความเข้มแข็ง มีการพัฒนาขีดความสามารถตนเองให้เค้าอย่างไร ในระดับประชาชนทำบ้างหรือไม่ หากยังคงทำงานหนักแต่รายได้น้อย เพราะว่าราคาสินค้ามันตกต่ำ เราไม่มีการเตรียมการหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางด้านนวัตกรรม มันก็ไม่สามารถจะสร้างมูลค่าการผลิตได้ ราคามันก็ตกต่ำแบบนี้นะครับ หรือเราไม่สร้างความต่อเนื่อง ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ผลิต แปรรูป การตลาด ให้มันต่อเนื่อง โดยต้องเชื่อมโยงทั้งภาคประชาชนนะครับ ภาคการเกษตร ทุกเกษตรเลยนะครับ ทุกธุรกิจก็ได้ ใช้หลักการอันเดียวกัน มันต้องเชื่อมโยงให้ได้ จากผู้ผลิต ผู้แปรรูป เพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรมและการตลาด ที่กว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศนะครับ
วันนี้รัฐบาลนี้ ขับเคลื่อนทุกอย่างนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอสเอ็มอี หรือกลุ่มธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่นะครับ สตาร์ทอัพที่เรียกกันนะ ซึ่งมันก็เป็นคนรุ่นใหม่นะครับที่เค้า จัดตั้งขึ้นมา ใช้ปัญญาคิดออกมาว่าเอ่อจะทำอย่างไรให้มีมูลค่าสูงขึ้น มันก็ต้องมาเชื่อมโยงเอสเอ็มอีที่มีอยู่แล้ว หรือไปเชื่อมโยงกับ กลุ่มเกษตรกรที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตร กลุ่มสหกรณ์ หรือกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม หรือกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เหล่านี้มันต้องไปด้วยกันทั้งหมดนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก เอสเอ็มอี โซเชียลบิสซิเนสเนี่ย ที่เข้มแข็งเพียงพอ ทุกอย่าง มันก็จะไม่ติดกับดักเหล่านั้น นะครับ พูดมาตั้งแต่ต้นแล้ว รายได้ก็ไม่เพิ่ม ถ้าทำเช่นนี้มันก็จะเพิ่มขึ้น ทันกับรายจ่ายสำหรับการดำรงชีวิต อยู่ได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี
ทุกอย่างยังไม่สายเกินไปนะครับ เราต้องหยุดการตำหนิกันไปกันมานะครับ รวมพลังให้ได้ เราต้องเสริมความเข้มแข็งให้กับประชาชน ตามหลักประชารัฐนะครับ ในทุกๆ ด้านให้สามารถเชื่อมโยงรายได้ให้เกิดการครบวงจรให้มากขึ้น เราก็จะไม่ลำบากเหมือนเดิม ต้องใช้เวลาด้วยนะครับ แต่ถ้าร่วมมือกันมากๆ มันเร็วขึ้นแน่นอน งั้นก็ขอให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ อันเป็นประโยชน์นะครับ ที่สร้างสรรค์ ผมรับฟังได้ทั้งหมดน่ะ ขอให้สร้างสรรค์แล้วกัน
เราต้องดูเกษตรกรหลายพวกด้วยกัน ชาวไร่ ชาวนา อาชีพอิสระ รับจ้าง ทั้งหมดนะครับ คนไทยทั้งสิ้น สิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลนี้กำลังดำเนินการอยู่ก็คือการสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วนทุกด้าน ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสำคัญนะครับ ก้าวไปสู่การเป็นสังคมดิจิตอลนะครับ ซึ่งอาจจะต้องเร่งดำเนินการในไทยแลนด์ 4.0 นะ วันก่อนผมก็ได้ไปเปิดงานไทยแลนด์ดิจิตอลไปแล้วนะครับ ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญก็คือเราจะต้องมีการเรียนรู้การสร้างจิตสำนึก มีคุณธรรมในตัวเอง มีจริยธรรมในองค์กร ทั้งในภาคประชาชน รัฐบาล ข้าราชการ ธุรกิจเอกชน เราจำเป็นต้องมีการพัฒนา พัฒนาตัวเองนะครับ อาจจะเรียกว่า การปฏิรูปปรับเปลี่ยนตนเองและองค์กร ด้วยการเรียนรู้ให้ทันต่อการพัฒนาการของโลกนะครับ
โดยยุคนี้ถือว่าเป็นที่ที่แต่ละประชาคมโลกมันมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนับวันจะก้าวไปสู่คำว่าเศรษฐกิจเดียวของแต่ละประชาคมโลก มีการค้าขายระหว่างประชาคม ต้องรวมแต่ละกระทรวงของตัวเองให้ได้นะครับ ของเราก็มีหน้าที่ต่ออาเซียนนะครับ ก็จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะต้องเชื่อมโยง ประชาคมอื่นๆ ให้ได้อย่างรวดเร็วด้วยนะครับ ทั้งนี้เพื่อจะเพิ่มศักยภาพ เพิ่มมูลค่า เพิ่มผู้ประกอบการ จากกลุ่มอาชีพต่างๆ ในลักษณะการรวมกลุ่ม จากเล็กไปใหญ่ เชื่อมโยงในจังหวัด กลุ่มจังหวัด ภูมิภาค ไปยังอาเซียน ไป CLMV ก่อน แล้วไปอาเซียนอื่นๆ แล้วก็ไปเพิ่มความร่วมมือมิตรประเทศให้มีการเจริญเติบโตที่ใกล้เคียงกัน นะครับ ก็ยิ่งจะส่งเสริมความเข้มแข็งในระดับมหภาคให้ดียิ่งขึ้น แล้วจะทำให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกอาชีพ มีรายได้มากขึ้นตามลำดับนะครับ
ปัจจัยสำคัญที่ประเทศต้องเร่งดำเนินการนะครับ เพราะว่าเราทำอันใดอันหนึ่งไป มันมีผลกระทบทั้งสิ้น งั้นต้องกลับมาดูว่า หนึ่งคือการเคารพกฎหมาย ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายนะครับ จะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความเป็นธรรม เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ เกิดความชัดเจนขึ้น เราพยายามเต็มที่นะครับ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันนะครับ บางครั้งก็อาจจะถูกบิดเบือนไปบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ก็ผมคิดว่า เวลาแล้วก็การชี้แจง ของทุกหน่วยงาน มันจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย ให้ได้นะครับ
ไม่ใช่เป็น เค้าเรียกอะไรล่ะเป็นคำ วิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อย ว่ากฎหมายนี้ทำเพื่อคนรวย เพื่อรังแกคนจน เพื่อเจ้าหน้าที่ ผมยืนยันนะครับกฎหมายทุกกฎหมายที่เราออกมาในสมัยเราเนี่ยเป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งสิ้นนะครับ เป็นกฎหมายเพื่อประชาชนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นก็เป็นผลประโยชน์ต่อการค้า การลงทุน มันต้องแลกเปลี่ยนกันบ้าง ไม่ใช่ว่าเราจะได้ทุกอย่างง่ายๆ มันก็ต้องมีการสร้างแรงจูงใจ ให้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ คือมองด้านเดียวไม่ได้นะครับ
ฉะนั้นคนไทยต้องปรับวิธีการคิดใหม่ ยังไงเราก็ไม่ทำให้ประเทศชาติเราเสียเปรียบ หรือไม่รับผลประโยชน์อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อรัฐบาลไม่ต้องการผลประโยชน์ ฉะนั้นจะเอาผลประโยชน์เหล่านี้ให้แก่ประชาชนไม่ดีกว่าหรือ นะครับ เราพยายามทำทุกอย่าง
ถ้าหากเราไม่ให้ความสำคัญนะครับเรื่องกฎหมาย มันก็ไปจัดระเบียบบ้านเมืองไม่ได้ใช่มั้ย ไม่เชื่อฟังกฎหมายต่อต้าน ปลุกระดมกันไปเรื่อยเปื่อย ต้องไปย้อนดูซิว่ามันผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าเป็นเป็นทหารมันก็ต้องไปดูซิว่าผิดวินัยก่อนหรือเปล่า ผิดวินัยเสร็จ ลงโทษวินัยได้ ต่อไปก็เป็นคดีอาญา คดีแพ่ง ก็ว่าไป ก็กลไกก็เป็นอย่างนี้ อย่าใช้ความรู้สึกในการตัดสินคนนะครับ เราจะได้ได้รับความเชื่อถือจากเวทีระหว่างประเทศ หรือต่างประเทศด้วยว่าเราบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไร ที่จริงมันเป็นอยู่แล้วแหละเพียงแต่ขึ้นอยู่ที่ว่าใครที่จะต่อสู้กันด้วยวิธีไหน ถ้าต่อสู้กันด้วยกระบวนการยุติธรรมก็โอเค ถ้าต่อสู้ด้วยปากด้วยสื่อด้วยอะไรต่างๆ มันก็จะเป็นอยู่แบบนี้นะ
เพราะฉะนั้นสังคมต้องทำให้ทุกอย่าง มันสงบลง ให้ทุกคนเข้าไปสู่กฎหมาย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าเข้ามาแล้วต่อสู้คดี ถ้าเข้ามาไม่ต่อสู้คดีมันก็ต้องถูกหมายจับ ธรรมดานะ ยกเว้นอะไรใครใครไม่ได้อยู่แล้ว กฎหมายเดียวกัน เราจะต้องลดช่องว่างของรายได้ น้อย กลาง มาก ภายในประเทศให้ลดลง ก็อย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว ดูแลทุกภาคส่วน จะช่วยแต่ละส่วนอย่างไร ไม่ใช่ให้เป็นเงินก้อนไปมากน้อยไม่เท่ากันบ้าง มันจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้เขานั้นสำคัญที่สุด
ในส่วนของการพัฒนาศักยภาพประเทศนั้น เรายังมีรายได้ของรัฐน้อยถึงน้อยมากในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แล้วก็มีหลายอย่างที่เป็นสวัสดิการ ที่เรียกว่ารัฐสวัสดิการ เพื่อดูแลสังคม ดูแลประชาชน งบการศึกษา งบการสาธารณะสุข และการงบลงทุนประเทศเหล่านี้มันจะเพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติและก็ประชาชนให้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับไปด้วยกัน
ในภาคการเกษตรนั้น ผมคิดว่าพี่น้องเกษตรกรลำบากมามากแล้ว เพราะฉะนั้นต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ มีความเข้าใจสภาวะแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อม น้ำ ดิน อากาศ นับวันจะยิ่งมีปัญหามากขึ้นทุกวันในอนาคตอันใกล้นี้ พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงรับสั่งไว้ว่า "พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ พระราชินีจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ พระราชินีจะสร้างป่า"
อันนี้เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และก็จะตราตึงอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน นำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ว่าเราต้องรักษาป่าเพื่อให้เรามีน้ำ เราจะบริหารจัดการดีเพียงใดก็ตาม ต้นทุนน้ำไม่มี เก็บน้ำไม่ได้ ฝนไม่ตก ก็จบทั้งหมดเสียเงินเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเราต้องฟื้นฟู เร่งการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้โดยเร็วที่สุด เราก็ต้องใช้วิธีการอันหนึ่งก็คือ การจะทำอย่างไรให้คนอยู่ร่วมกับป่า ป่าที่เสียหายไปแล้วเอาคนไปอยู่ร่วมกับป่าได้ไหม มีงบประมาณให้เขาดุแลป่าไปด้วยได้ไหม สร้างป่าขึ้นมา ป่าชุมชน เขาหัวโล้น อะไรต่างๆเหล่านี้ก็กำลังให้คณะกรรมการนโยบายจัดที่ดินที่มีกระทรวงหลายกระทรวงรับผิดชอบอยู่ให้ไปพิจารณาดูนะครับ
การไปปลูกพืชอะไรต่างๆก็ตามจำเป็นต้องอาศัยหลักวิชาการเยอะแยะ การจะไปปลุกพืชในพื้นที่เขาหัวโล้น ไม่ใช่อยู่ดีๆไปปลูกแล้วมันจะโต มันโตไม่ได้หรอกครับ เพราะมันร้อน แห้งแล้ง พอหมดหน้าฝนมันก็ตายหมดเหมือนเดิม มันจะต้องมีการวางแผนงานให้ดี จะไปปลูกที่ไหน ที่มีคนดูแลได้ก่อน เมื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายได้แล้วเราก็จะต้องหาวิธีการในการปลูก ก็ต้องเสริมด้วยการจัดทำฝายเพื่อจะชะลอน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณที่เราจะปลูกให้ได้ เมื่อพื้นที่มันชื้นในก็จะปลูกได้ คราวนี้พืชที่จะปลุกก่อนคือพืชอะไร คือพืชที่โตเร็ว ระหว่างนี้ก็พวกกล้าไม้ต่างๆก็เลี้ยงไว้ให้โตก่อน พวกไม้ยืนต้น
แต่คราวนี้พืชที่จะต้องปลูกให้เร็วก็คือ พวกกระถินณรงค์ กระถินยักษ์ พืชพวกนี้ใช้ประโยชน์ได้พอสมควร ไม้โตเร็วเหล่นี้เพื่อจะเป็นร่มเงาไว้ก่อน เสร็จแล้วเราค่อยเอากล้าไม้ลงไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับน้ำที่มีอยู่และก็ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงด้วย อันนี้ฝากไว้ด้วยนะครับ ผมขอบคุณทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่าที่มีความตั้งใจในการที่จะปลูกป่า มีการระดมทุน มีการรวมคนที่จะไปปลูก ผมเกรงว่ามันจะไปปลูกแล้วตายหมดเท่านั้นเอง
อย่าไปมองว่ากรมป่าไม้ หรือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เอาจริงเอาจัง เขาต้องเอาจริงเอาจังทุกเรื่องเพราะผมสั่งไป 2 ปีแล้ว วันนี้ก็มีการดำเนินการหลายอย่าง ทำไมเราไม่มาร่วมมือกันล่ะครับ ท่านไปแยกแล้วท่านบอกว่ารัฐบาลไม่สนใจ เขาทำตั้งเยอะตั้งแยะ เพราะฉะนั้นการพูดอย่างนี้ผมไม่อยากให้มีการสร้างความรู้แบบนี้อีกต่อไปนะครับ ถ้าท่านไปปลูกแล้วตาย ท่านก็ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าไปปลูกแล้วร่วมมือกับเรา เราก็จะรับผิดชอบให้โดยจะทำอย่างไร จะแบ่งพื้นที่กันอย่างไร เอาตรงไหน วิธีการตรงไหน วิธีของท่านวิธีของเรา อันไหนมันดีกว่ากัน อันไหนมันร่วมมือกันได้ ไปคิดแบบนี้ซิครับ อย่าโทษกันไปโทษกันมา
ผมขอบคุณนะ ยังไงผมก็ขอบคุณนั้นแหละที่มีความตั้งใจในเรื่องการดูแลป่าไม้ การแก้ปัญหาภูเขาหัวโล้นนะครับ เราความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผมก็พูดมาหลายครั้งแล้ว พูดไม่ใช่น้อยๆ ถ้าเราร่วมมือกันจริงๆ อดทน ไม่ฟังตำบิดเบือน ให้ร้าย เราก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าเราไม่ฟังและเชื่อในเรื่องที่มันไม่สร้างสรรค์เราก็จะตกเป็นเบี้ยล่างของเขาต่อไป เรื่อยๆไป ลืมตาอ้าปากก็ไม่ได้เหมือนเดิม หลังๆก็โกงแบบเก่า เพราะฉะนั้นสิ่งนี้สำคัญที่สุดนะครับ ไม่ใช่รอให้รัฐมาชดเชยแต่เพียงอย่างเดียว
มันไม่มีทางที่จะดีขึ้นหรอกครับ ท่านต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยตัวเองด้วย ตรงไหนก็ตามท่านทำได้เท่าไหนเท่านั้น รัฐบาลก็จะไปเติมตรงนั้นให้ เรื่องน้ำ เรื่องการบริหารจัดการ เรื่องดิน ปรับปรุงคุณภาพดิน ถ้าทั้งหมดมองว่า พื้นที่ทั้งหมด 140 กว่าล้านไร่ของการเกษตร ต้องเอาน้ำไปให้ทั้งหมด หรือต้องไปช่วยเหลือทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันถึงต้องแยกไปสู่การทำเกษตรแปลงใหญ่ ไปสู่การสนับสนุนในเรื่องของมาตรการลดต้นทุน เรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ไปดูการตลาดไปดูการผลิตไปดูโซเชียลบีสซิเนส (Social business)แข่งขันราคาพ่อค้าคนกลาง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำทั้งสิ้น รับบาลนี้เข้ามาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ทำไปได้ในระดับหนึ่ง ระดับหนึ่งที่ว่าผมยังไม่พอใจ เพราะไม่ทันต่อความเดือดร้อนของประชาชนนะครับ
ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทุ่มเทสติปัญญา ในการแก้ไข้ปัญหาให้กับประชาชน ในทิศทางที่ถูกต้องซึ่งมันอาจจะช้าอยู่บ้างก็ต้องอดทนนะครับ เพื่อให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืน ที่มันอาจจะค่อยเป็นค่อยไปก็เพราะว่าบางอย่างเราต้องเริ่มต้น คิดใหม่ ทำใหม่ รื้อทั้งระบบ ทำให้ดี ทำให้รอบครอบ มองไปข้างหน้า ดูกฎหมาย เราต้องหันกลับมาดูต้นเองว่าเราได้มีการพัฒนาเพียงพอหรือยัง จะเชื่อมต่อกับการช่วยเหลือของรัฐได้อย่างไร
การที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลก็เพราะเราได้ทำลายธรรมชาติไปมากแล้ว ป่าไม้บุกรุกกันเข้าไป ทำลายเยอะแยะ เกิดเข้าหัวโล้น อาจจะด้วยความยากจน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ การทุจริตคอรัปชั่น เอาเปรียบจากผู้ที่แข็งแรงกว่า เราต้องร่วมมือกันตรงนี้ซะก่อนแก้ปัญหาร่วมกัน หลายอย่างแก้ไข้ได้ด้วยระบบสหกรณ์ ระบบเกษตรแปลงใหญ่ ระบบเกษตรรายชนิด ไร่นาสวนผสม ธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อให้เกื้อหนุนกันเป็นระบบครบวงจร เมื่อร่วมกลุ่มกันได้รัฐก็จะส่งเสริมสนับสนุนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ผมถือว่าประเทศเรายังมีรายได้มวลรวมไม่มากนัก ปานกลางค่อนข้างดี เพราะเรามีเกษตรกรจำนวนมากนะครับ รายได้จึงลดลงเพราะน้ำแล้ง น้ำท่วมบ้างในช่วงที่ผ่านมา เราต้องพัฒนาตนเอง ยอมอดทนเปลี่ยนแปลงตนเองไปก่อน ระเบิดจากข้างในไปในทิศทางที่เหมาะสม ทำอย่างไรเราจะไม่ต้องพึ่งพารัฐเพียงอย่างเดียว
เรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องความขัดแย้ง ความแตกแยก อะไรที่ไม่สร้างสรรค์มันจะเป็นอันตรายที่สุด ในโลกปัจจุบันถ้าหากเราใช้ประโยชน์จากสื่อ จากโซเชียลมีเดียให้ถูกต้องในทางสร้างสรรค์มันก็จะเป็นการเรียนรู้ รู้เท่าทัน มีหลักการมีเหตุมีผลในการพิจารณา เราก็จะสร้างมาตรกำหนดจนมุ่งหมายชีวิต ครอบครัว ประเทศชาติ สังคมก็จะมีความปลอดภัยเป็นสังคมแห่งความสันติสุข สังคมไทยเดิมๆในห้วงที่ผ่านมานั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง สอดรับกับเทคโนโลยี Thailand 4.0 ด้วย เศรษฐกิจดิจิตอลทั้งหมดที่จะเข้ามา
สิ่งใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นในโลกใบนี้ ในประเทศไทยด้วย จะมีอิทธิพลกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีวิตต่างๆก็ตาม เราก็ใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 + 2 เงื่อนไข ซึ่งมันจะพันไปสู่เรื่องของการทุจริต ไม่โปร่งใส คอรัปชั่น เหล่านี้มันเกิดจากคน 2 ฝ่ายทั้งสิ้น จากผู้ต้องการผลประโยชน์ที่มันไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อฉล การฉ้อราษฎร์บังหลวง ถ้าหากฝ่ายหนึ่งไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่เสนอ อีกฝ่ายก็เรียกไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายเรียกไปอีกฝ่ายก็ฟ้องร้องไป มันไม่ถูกต้องทั้งสิ้น เราโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้แต่เจ้าหน้าที่รัฐหรือกฎหมายต้องเข้าไปจัดการ เจ้าหน้าที่ก็จะได้ปรับปรุงตัวเอง ไอ้คนให้ประโยชน์ก็ต้องปรับปรุงตัวเองเพราะตอนนี้กฎหมายออกมาแล้ว คนให้ก็ต้องถูกลงโทษด้วย
ไปดูว่า พ.ร.บ.เรื่องนี้ว่าอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็จะได้ปรับตัวเองให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีความโปร่งใสให้กับบุคลากร องค์กร ทุกคนจะต้องมีธรรมาภิบาล ในเรื่องความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก็อันนี้เป็นเรื่องที่ทกคนจะต้องคำนึงถึงนะครับ ปีนี้เป็นปีมหามงคล เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงริเริ่ม ทรงพระราชทานไว้ให้แก่ปวงประชาชนชาวไทย ไม่ว่าจะเรื่องบริหารจัดการน้ำ การอนุรักษ์ป่า ยุทธศาสตร์การพัฒนา ที่ใช้คำว่า "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ อีกมากมาย
โดยสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญเป็นแผนที่นำทางในการรัฐบาลและประชาชนจะน้อมนำมาทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน ให้มีการพัฒนาการที่จะไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในอนาคต
ขอขอบคุณประชาชน เจ้าหน้าที่ พลเรือน ตำรวจ ทหารที่ได้ร่วมมือเข้าใจซึ่งกันและกัน ปรับตัวเองเข้าหากัน เราจะต้องปฏิรูป ลดความหวาดระแวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและมีการแบ่งปั้นผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ตามกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคน
ขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่ทำงานหนัก หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด กลุ่มจังหวัดภูมิภาค ข้าราชการทุกกระทรวง ทุกคน ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น เทศบาล ภาคประชาสังคม NGO ผมพุดไปหลายครั้งแล้ว ก็หวังว่าความร่วมมือของพวกเราทุกคนนั้นจะนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก้าวหน้า พาตนเองให้พบแสงสว่าง แสวงหาช่องทางความร่วมมือให้เจอ เราจะสุดโต่งไปซ้ายหรือไปขวาไม่ได้อีกแล้วต้องหาตรงกลางเพื่อเดินไปข้างหน้าให้ได้ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน จะต้องทำงานร่วมมือกันด้วยคำที่คุ้นเคยตามแบบทหารอยู่แล้ว คติพจน์ที่ว่า "เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน" ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง แม้จะแตกต่างกันเราต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดที่กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ ขอให้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์ สวัสดีครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี