29 พ.ค. 59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่านายทุนจะเข้ามาฮุบกิจการของประชาชน จากการตั้งบริษัทประชารัฐ รักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด ว่า รัฐบาลอยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง มองการดำเนินงานโครงการนี้ในหลาย ๆ มุม โดยเฉพาะประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจของชาติ และการสร้างความเข้มแข็งของประชาชนในระยะยาว ไม่ใช่มองเพียงว่า เมื่อมีนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งแนวคิดในการให้บริษัทใหญ่เข้ามาร่วมดำเนินการ เปรียบเสมือนการส่งเสริมให้ผู้ที่แข็งแรงมีโอกาสช่วยเหลือดูแลผู้ที่อ่อนแอกว่า เมื่อผู้ที่อ่อนแอสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดก็จะเดินหน้าไปพร้อมกันได้
ทั้งนี้ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีฯ ในระยะแรกเป็นการนำ 76 จังหวัดมาถือหุ้นใหญ่ 76% ส่วนอีก 24% เป็นการถือหุ้นของบริษัทเอกชนรายใหญ่ เช่น ทรู เอไอเอส บุญรอด ไทยเบฟ สหพัฒน์ กลุ่มมิตรผล ฯลฯ โดยการถือหุ้นของกรรมการเหล่านี้ เป็นเงินสนับสนุน จะไม่มีผลตอบแทนหรือเงินปันผลใด ๆส่วนในระยะต่อไปบริษัทนี้จะมีสัดส่วนของกรรมการที่มาจาก 5 กลุ่ม คือ ภาครัฐ เอกชน ประชาชน วิชาการ ประชาสังคม สัดส่วนละ 20 %
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า บริษัทประชารัฐรักสามัคคีฯ เป็นบริษัทโฮลดิ้งหรือบริษัทกลางที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการในชุมชนทั้งด้านการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยว เพื่อให้บริษัทในระดับจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เพชรบุรี ขับเคลื่อนไปได้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม อยู่ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ของ คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ เป็นการผลึกกำลังกันของทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทยให้กลับมาโดดเด่นเหมือนในอดีต ซึ่งแต่ละคณะจะกำหนดมาตรการที่สามารถเห็นผลได้รวดเร็วภายใน 6 -12 เดือน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี