29 พ.ค. 59 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่โพลหลายสำนักสำรวจพบว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เหตุเพราะการตัดสินใจรับไม่รับครั้งนี้มีหลายปัจจัย และสถานการณ์การเมืองมีความสลับซับซ้อนกว่าช่วงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 อย่างไรก็ตามปัจจัยชี้ขาดของการตัดสินใจน่าจะมี 4 ปัจจัย คือ 1.บางส่วนจะรอดูว่าเนื้อหาสาระดีจริงหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอดูเวทีดีเบตเป็นเรื่องเป็นราว 2.หลายคนอาจมองว่าการเมืองยังขาดความไม่แน่นอนเช่นจะมีประชามติหรือไม่ จะมีอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ จึงยังไม่รีบตัดสินใจอาจจะรอช่วง 1-2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันลงประชามติค่อยตัดสินใจก็ได้ 3.บางส่วนคงอยากเห็นความชัดเจนจาก คสช.ว่าถ้าประชามติไม่ผ่านจะได้ร่างรัฐธรรมนูญหน้าตาแบบใดและถ้าผ่านจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการเมืองไทยจะเดินหน้าสู่การปฏิรูปจริงจัง 4.คนจำนวนไม่น้อยเริ่มรู้สึกไม่ให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญเพราะมองว่าวิกฤตการเมืองไทยอยู่ที่ตัวนักการเมืองร่างรัฐธรรมนูญให้ดีแค่ไหน แต่นักการเมืองหน้าเดิมๆ ก็หนีไม่พ้นปัญหาเดิมๆ อีก
นายสุริยะใส กล่าวว่า 4 ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความเห็นทางการเมืองของผู้คนโดยรวมไม่ได้โฟกัสไปที่ตัวร่างรัฐธรรมนูญและวันลงประชามติแต่อย่างใด และการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งซึ่งเป็นกระแสหลักทางการเมือง ก็เป็นสิ่งที่ประชาชนยังอยากจะเห็นก่อนจะกำหนดวันเลือกตั้งกัน
"สภาพการณ์แบบนี้ คสช.ต้องไม่ปล่อยเลยตามเลยหรืออ้างแต่ว่าทุกอย่างว่ากันตามโรดแมปหรือเตรียมทางถอยทางลงให้ตัวเองเท่านั้น แต่ต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรมเพื่อปฏิรูปในเรื่องใหญ่ๆ เสียที ไม่เช่นนั้นการรัฐประหารครั้งนี้นอกจากจะเสียของแล้ว คณะรัฐประหารก็จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นแค่การฉีกรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่งเพื่อสถาปนาอำนาจใหม่ขึ้นมาเท่านั้นเอง" นายสุริยะใส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี