30 พ.ค.59 เมื่อเวลา 9.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ครั้งที่ 2/59 โดยภายหลังประชุม พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน แถลงผลการประชุมว่า ได้พิจารณา แนวทางบริหารจัดการแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุภายในปี 2565-66 โดยบริษัทเชฟรอน ได้สัมปทานแหล่งก๊าซเอราวัณในอ่าวไทย และบริษัทปตท. ได้สัมปทานแหล่งก๊าซบงกช ซึ่งจะหมดอายุสัมปทานภายในปี 2565-66
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้เสนอแนวทาง 2 รูปแบบ คือแบบแรก เจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม คือเชฟรอน และปตท. หากเจรจาไม่สำเร็จจะใช้วิธีเปิดประมูลทั่วไป ในที่สุดที่ประชุมกพช. ต้องการลบข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใส จึงมีมติ ใช้วิธีเปิดประมูลทั่วไปก่อน เพื่อหาผู้ดำเนินการใหม่ ใน แหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ โดยผู้รับสัมปทานรายเดิมสามารถเข้าร่วมประมูลได้ และหากไม่มีผู้ประกอบการเข้าร่วมประมูล ก็จะใช้การเจรจาสัมปทานกับผู้รับสัมปทานเดิม โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้นำเสนอถึงผลดีและเสียของการเปิดประมูลต่อ กพช. ว่า ผลดีคือการเปิดประมูลจะก่อให้เกิดความโปร่งใสต่อสังคม แต่จะมีผลเสียคือ ผู้รับสัมปทานรายเดิมจะทยอยลดกำลังการผลิตก๊าซฯลง จากกรณีไม่เข้าร่วมประมูลหรือไม่ชนะการประมูล ขณะที่รายใหม่ที่เข้ามาจะไม่สามารถผลิตก๊าซฯได้ต่อเนื่องในช่วงแรกที่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ก๊าซฯทยอยหายไปจากระบบของประเทศไทย ประมาณ 3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ย 8 ปี ในช่วงรอยต่อการผลิตใหม่ (พ.ศ. 2561-2568) จากปัจจุบันที่แหล่งก๊าซเอราวัณและบงกช ผลิตได้ประมาณ 2,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
"ผลสรุปที่ กพช.เลือกใช้วิธีประมูลนั้น จะมีผลให้ผู้รับสัมปทานรายเดิมทยอยลดกำลังการผลิตลงจาก 2,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งบางช่วงก๊าซฯอาจจะเหลือแค่ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือถ้าโชคร้ายก๊าซฯอาจหายไปทั้งหมดได้ ทั้งนี้เป็นไปตามกลไกตลาดปกติที่ผู้รับสัมปทานรายเดิมอาจทยอยลดกำลังการผลิตลง เมื่อไม่คุ้มค่าการผลิต ทั้งนี้ภาครัฐต้องนำก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG ) มาทดแทน แต่ก็จะมีผลต่อราคาค่าไฟฟ้าของประชาชน" รมว.พลังงานกล่าว
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ปัญหาก๊าซฯที่คาดว่าจะขาดหายไปดังกล่าว ทาง กพช.เห็นชอบให้แก้ปัญหาด้วยการนำLNG มาทดแทน โดย กพช.ได้อนุมัติให้ขยายคลัง LNG เฟส 2 จาก 10 ล้านตันต่อปี เพิ่มอีก 1.5 ล้านตันต่อปี เป็น 11.5 ล้านตันต่อปี พร้อมอนุมัติให้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ออกแบบคลัง LNG แห่งที่ 2 ขนาด 7.5 ล้านปิโตรเลียมของแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุนี้ก่อน เพราะหากรายเดิมเข้าร่วมประมูลและเป็นผู้ชนะ ก็มีโอกาสที่จะรักษากำลังการผลิตก๊าซฯจะคงอัตราเท่าเดิมได้ และไม่ต้องนำLNG มาทดแทน แต่หากเป็นรายใหม่จะต้องสำรอง LNG ไว้ ซึ่งจะมีผลต่อค่าไฟฟ้าโดยรวมให้เพิ่มขึ้นได้
สำหรับการเปิดประมูลนั้น จำเป็นต้องรอให้ การแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม แก้ไขให้เสร็จก่อน เพราะพ.ร.บ.ที่แก้ไขนี้จะเพิ่มเติมทางเลือกระบบ ระบบแบ่งปันผลผลิต(PSC) และระบบจ้างผลิต เข้าไปด้วยนอกเหนือจากระบบสัมปทาน ส่วนจะนำระบบใดมาใช้คงต้องรอการหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ การแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคาดว่าจะเสร็จใน 3-4 เดือนนี้
"กระทรวงพลังงานพร้อมปฏิบัติตาม มติ กพช. ที่ให้เปิดประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งที่จะหมดอายุ แต่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน กรณีที่หากก๊าซฯหายไปบางช่วงและต้องใช้ LNG มาทดแทนในการผลิตไฟฟ้า และจะทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ซึ่งทุกคนก็ต้องยอมรับ ผมรับฟังทุกฝ่ายในเมื่อคนที่บอกว่าไม่เห็นด้วยกับการเปิดเจรจาผู้รับสัมปทานรายเดิม ผมก็ยอมรับ แต่ถ้ามีอีกกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการประมูล เพราะจะทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ก็ส่งเสียงออกมา ผมก็พร้อมรับฟัง"พล.อ.อนันตพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทั้งแหล่งเอราวัณและบงกช นับเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติหลักของประเทศ โดยมีปริมาณการผลิตก๊าซฯคิดเป็น 76% ของปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทย และคาดว่า จะสามารถผลิตก๊าซฯขึ้นมาใช้ได้ต่อไปอีกประมาณ 10 ปี หากมีการลงทุนต่อเนื่อง แต่หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ก็จะกระทบต่อปริมาณก๊าซฯที่จะทยอยลดลงต่อเนื่อง และในอีก 7 ปีข้างหน้าก๊าซฯ ก็จะหายไปราว 3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งมีราคาแพงเข้ามาทดแทนถึง 40 ล้านตัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ราว 85 สตางค์/หน่วย เพราะขณะนี้ ก๊าซฯนับเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ ช่วงที่ก๊าซธรรมชาติหายไป รายได้จากค่าภาคหลวงจากก๊าซธรรมชาติจะหายไปประมาณ 7พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี