9 มิ.ย.59 นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณา พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 มาตรา 61 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเกินความจำเป็น และกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 มาตรา 4 หรือไม่ ว่า เฉพาะคำว่าหยาบคาย ก้าวร้าวรุนแรง ก็จะไปยกตัวนี้มา ด้วยลักษณะของตัวนี้ มันไม่ผิดแต่ต้องอ่านประกอบกันทั้งวรรค และการที่คุณเอาไปเผยแพร่ในลักษณะที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ก้าวร้าวรุนแรงเพื่อมุ่งไปสู่การปลุกระดม จะต้องครบองค์ประกอบนี้ไม่ใช่คุณพูดแล้วไม่มีการปลุกระดมมันก็ไม่ใช่ ส่วนการแสดงความคิดเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีหรือไม่อย่างไร ก็ว่าไม่ไป
ทั้งนี้ สำหรับตน คำว่ารับหรือไม่รับก็สามารถที่จะเผยแพร่ความเห็นของเราได้ แต่จะต้องไม่บิดเบือน ไม่ชี้นำ ไม่ปลุกระดม เพราะเราต้องรู้ว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราอยู่ในสภาวะไม่ปกติ เราก็ต้องร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองเราเกิดความสงบ จะได้เดินไปตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางไว้ แต่หากเรามัวทะเลาะกันประเทศชาติก็ไม่ไปไหน ผู้ชนะก็ชนะบนซากปรักหักพัง
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ออกมา นายศุภชัย กล่าวว่า ก็ไม่เสียหายอะไร ส่วนงบประมาณที่ใช้ไปก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ก็ยังดำเนินการต่อไป ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างไร จะไปขัดจะไม่ได้ลงประชามติมันไม่ใช่ ก็ยังลงประชามติได้เหมือนเดิม และไม่มีการเลื่อนออกไป เพียงแต่ว่าเราก็ไม่ได้ใช้มาตรานี้ ส่วนกระบวนการต่างๆ ก็เดินไป
เมื่อถามว่า หากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นในช่วงการใช้เสียงประชามติจะทำอย่างไร ประธาน กกต.กล่าวว่า เขาก็เกรงว่าจะเกิดความรุนแรงและความขัดแย้งและเกิดการปะทะ ซึ่งหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น การเลื่อนวันลงประชามติไม่ใช่อำนาจ กกต.แต่จะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 และไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นอย่างไร การออกเสียงประชามติก็ไม่จะกระทบ หากเขาบอกว่าหยาบคายได้ คุณก็ไปว่ากันเอง ส่วนเรื่องความไม่สงบก็เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ออกมา นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่หนักใจอะไร เพราะปัญหามีให้แก้ก็แก้กันไป
เมื่อถามว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขอให้ กกต.ยุติการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ และยุติการอบรมครู ก.และ ครู ข.นั้น นายศุภชัย กล่าวว่า จะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมาก่อน ว่าหากยุติไป อาจจะดำเนินการไม่ทันวันออกเสียงประชามติ ขณะที่การวิจารณ์ถึงเนื้อหาเพลงรณรงค์ประชามติ ว่าเป็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายนั้น จุดประสงค์ของเพลงดังกล่าว คือการเชิญชวนคนออกมาใช้สิทธิ ไม่มีเจตนาจะแบ่งแยกชี้นำ และมองว่าเป็นการจ้องจับผิดของคนบางกลุ่มมากกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี