15 ก.ค.59 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา และหัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มาตรา 44 ที่รัฐบาลใช้ หากมีเหตุผลและความจำเป็นโดยไม่มีกฎหมายอื่นเข้ามาแก้ไขให้ทันก็จำเป็นต้องใช้ นอกเหนือไปจากเรื่องอื่นๆ เช่น การสรรหาองค์กรอิสระ , สื่อ , การบุกรุกพื้นที่ป่า ตนคิดว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลควรต้องทำ เช่น กรณีป่าบูโด 3 จังหวัด 9 อำเภอ ที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีโฉนดที่ดิน นส3.ก.มีราษฎรอยู่ก่อนประกาศเขตป่า (ปี 2542) ประมาณ 300 ปี ราษฎรที่กล่าวมานี้มีทั้ง สค.1 มี นส.3ก.และโฉนดที่ดิน ซึ่งมาตรา 6 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ บัญญัติว่าที่ตรงนี้เป็นที่ของราษฎร แต่กรมอุทยานก็ไม่คืน มีราษฎรที่เดือดร้อนอยู่อย่างนี้ เฉพาะที่ภาคใต้ประมาณแสนคนที่เดือดร้อน ตนจึงคิดว่านายกรัฐมนตรีควรจะใช้มาตรา 44 คืนสิทธิให้กับราษฎร จะได้รับการชื่นชมจากประชาชน เพราะฉะนั้นการใช้มาตรา 44 อยู่ที่ทำเพื่ออะไร ถ้าทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมแล้วประชาชนก็รู้
"ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลออกมาตรา 44 เพื่ออุดช่องว่างของกฎหมายที่ล่าช้า หรือข้อกฎหมายไปไม่ถึง แต่ไม่ควรนำมาตรา 44 มาใช้แก้ปัญหาการเมือง เพราะจะมีประเด็นโต้แย้งและประเด็นอื่นๆ จำนวนมาก แต่หากใช้ในกรณีทุจริต ข้าราชการไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก็เชื่อว่าหลายคนชื่นชม" นายวิรัตน์ กล่าว
ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 ยุติการสรรหาองค์กรอิสระ ว่า ดีที่รัฐธรรมนูญเขียนมาตรา 44 เอาไว้ เข้าใจว่ารัฐบาลมองว่าเป็นเรื่องลึกจริงๆ และเป็นช่องว่างซึ่งมีความขัดแย้งเกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ได้เรียบร้อยแต่มีความแตกแยก ดังนั้น สิ่งที่ คสช.ต้องระวังอย่างมากคือ ยิ่งใกล้ที่ คสช.จะลงจากอำนาจมากเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้จะเกิดมากขึ้นๆ ทั้ง สนช.และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ยิ่งนานไปก็ยิ่งบริหารยากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี