‘ปู’ยื่นคำขาด
บีบคลังถอนคำสั่งชดใช้จำนำข้าว
ขู่7วันไม่ทำตามเจอฟ้อง
ฮึ่มจะขอสู้ต่อทุกวิถีทาง
พณ.ชงรับจำนำยุ้งฉาง
ตันละ1.1หมื่นอุ้มราคา
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกกระทรวงการคลังออกคำสั่งทางปกครองให้จ่ายเงินชดใช้จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ได้ทำหนังสือถึง นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
“ปู”บีบคลังถอนคำสั่งชดใช้จำนำข้าว
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ขอให้ปลัดกระทรวงการคลังและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิกถอนคำสั่งใน 7 วัน เนื่องจากคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงจากการยึดอำนาจรัฐบาลของตน ดังนั้นการออกคำสั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เลือกปฏิบัติ ชี้นำให้เกิดความไม่เป็นธรรม
โวยคำสั่งก้าวล่วงอำนาจศาล
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอ้างว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 39/2558 และที่ 56/2559 เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 เพราะเป็นการกระทำนอกเหนือกรอบอำนาจ เกิดการชี้นำและเป็นผลโดยตรงให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง พิจารณาเรื่องนี้โดยไม่ชอบ โดยเฉพาะคำสั่งที่เลือกปฏิบัติและก้าวล่วงอำนาจของศาลยุติธรรม ด้วยการสั่งให้กรมบังคับคดี เข้าดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สิน แทนการดำเนินการตามปกติ
อ้างเร่งรับรวบรัดจะเอาผิดให้ได้
ขณะเดียวกัน การให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทั้งที่ความจริงยังไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงใด ๆ ว่า นอกจากตนแล้ว มีการกระทำผิดในขั้นตอนใด อย่างไร มีผู้ใดเป็นผู้กระทำ กลับเร่งรีบ รวบรัด กำหนดเกณฑ์ความผิดกับตนตามจำนวนเงินข้างต้น ซึ่งขัดต่อมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ที่แก้ไขแล้ว
ซัดกก.สอบผลประโยชน์ทับซ้อน
“การพิจารณาของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด และคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ไม่เป็นกลาง เลือกปฏิบัติ กรรมการมีส่วนได้ส่วนเสีย และประโยชน์ทับซ้อนโดยตรง เกิดการกลั่นแกล้ง และมุ่งประสงค์ร้าย โดยเฉพาะการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. เพื่อคุ้มครองตัวท่าน (ปลัดกระทรวงการคลัง) และผู้เกี่ยวข้องทุกคนให้พ้นจากความรับผิดทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย จากการดำเนินการเอาผิดต่อข้าพเจ้า ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นไปโดยไม่สุจริต”
ขู่ไม่ถอนคำสั่งเจอเล่นงานกลับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุอีกว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ตามหลักนิติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่กลั่นแกล้ง จึงขอให้ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะใช้สิทธิดำเนินการทางกฎหมายต่อไป รวมถึงดำเนินการอื่นใดตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม อันเป็นการสร้างความถูกต้อง และบรรทัดฐานต่อการบริหารบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยด้วย
พณ.ชงเปิดรับจำนำยุ้งฉาง2ล.ตัน
วันเดียวกัน มีความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดย น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุม นบข. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอราคารับฝากข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉางเกษตรกร หรือ จำนำยุ้งฉาง ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ให้นบข.อนุมัติ โดยตั้งเป้ามีข้าวเปลือกเข้าโครงการ 2 ล้านตัน เพื่อดึงราคาไม่ให้ตกต่ำ
คาดชาวนาได้ตันละ11,500
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการดังกล่าว จะกำหนดราคารับฝากเก็บไม่ต่ำกว่าตันละ 10,000 บาท ซึ่งเกษตรกรจะได้รับค่าเตรียมข้าวเปลือกขึ้นยุ้ง ค่าฝากเก็บเพิ่มจากเงินสินเชื่อตันละ 1,500 บาท โดยจะจ่ายให้พร้อมสินเชื่อตันละ 1,000 บาท และจ่ายเมื่อไถ่ถอนข้าวหรือระบายข้าวแล้วตันละ 500 บาท รวมเป็นเงินที่เกษตรกรจะได้รับ ตันละ 11,500 บาท
ปชป.แนะ4ข้อให้รัฐช่วยจริงจัง
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแนะว่า รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาโดยใช้ 4 มาตรการ คือ 1.มาตรการเร่งด่วน โดยจ่ายเงินส่วนต่างช่วยชาวนาเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง 2.มาตรการระยะกลาง ให้ชาวนารวมกลุ่มไม่ขายข้าวเปลือก แต่สีเป็นข้าวสารขายแทน แล้วให้หน่วยงานรัฐรับซื้อ 3.มาตรการระยะยาว รัฐต้องสนับสนุนให้ชาวนาทำเกษตรแบบผสมผสาน เช่น ทำนาด้วยเลี้ยงสัตว์ 4.มาตรการระยะสุดท้าย ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนกรอบความคิดและทำหลักสูตรนักศึกษาสาขาการเกษตร โดยเฉพาะนักศึกษาที่มีพ่อแม่เป็นเกษตรกรให้มีความคิดเป็นเจ้าของกิจการ เป็นผู้ประกอบกิจการด้านเกษตรเช่นทำไร่ ทำสวน ทำนา ปศุสัตว์
“เพื่อไทย”ฉวยโอกาสอวยจำนำข้าว
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “Watana Muangsook” ว่า ติดตามราคาข้าวเปลือกของฤดูกาลผลิต 2559/2560 ซึ่งจะออกสู่ตลาดในช่วง 2-3 เดือนนี้ 22-25 ล้านตัน ราคาข้าวเปลือกเจ้าและหอมมะลิเหลือตันละ 5,000-6,000 บาทจากที่ชาวนาเคยขายได้ในราคาตันละ 15,000-20,000 บาท ตามนโยบายการแทรกแซงตลาดของพรรคเพื่อไทยในอดีต ทำให้ชาวนาต้องขาดทุน เพราะต้นทุนการผลิตตกตันละประมาณ 10,000 บาท เป็นผลให้เงินของชาวนาหายไปประมาณ 250,000 ล้านบาท ทำให้กำลังซื้อหายไปจึงไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดเศรษฐกิจของไทยจึงไม่ฟื้นตัว
ชาวนาชัยนาทสุดทนปักป้ายขายที่ทิ้ง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชัยนาท ว่า ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบที่ อ.มโนรมย์ หลังเกิดปัญหาราคาข้าวตกต่ำ พบว่า ชาวนาหลายรายทนภาวะขาดทุนไม่ไหว เริ่มปักป้ายขายที่นาเพื่อนำเงินมาใช้หนี้สถาบันการเงิน โดย นายภิรมย์ (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในชาวนาที่ปักป้ายประกาศขายที่นา ใน ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ อ้างว่า ที่ต้องประกาศขายที่นาเพราะต้องเอาเงินไปจ่ายชำระหนี้สถาบันการเงินที่กู้ยืม และทนแบกรับการขาดทุนไม่ไหว จึงต้องยอมตัดใจขายที่ทิ้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี