"กฤษฎา"ให้เวลาตัวเอง 3 เดือนแก้ราคาสินค้าเกษตร ฟุ้งเดือนเดียวดันราคายางขึ้น 6 บาท ปรับขึ้น 48 บาทต่อกก. บ่นข้าราชการทำงานไม่ทันใจไล่จี้ทุกวัน สั่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด อำเภอ เร่งสำรวจช่วยเหลือแก้หนี้เกษตรกร 3.96 ล้านราย
5 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรฯ และนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯ ได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกับสื่อมวลชน และผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯเนื่องในโอกาสปีใหม่ หลังจากร่วมตักบาตรในช่วงเช้าหลังเข้ารับตำแหน่งรมว.เกษตรฯครบ 1 เดือน
โดยนายกฤษฎา กล่าวว่า ตนให้เวลาตนเอง 3 เดือนในการทำงานแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ให้ได้ผลราคาดีขึ้น ซึ่งช่วง 1 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ ผลักดันมาตรการเร่งด่วนหลายอย่างลงสู่พื้นที่ จะเห็นว่าราคายางเริ่มทำขยับขึ้นแล้วปรับมา 6 บาทเป็น 48 บาทต่อ กก. ในส่วนพื้นที่รัฐกว่าแสนไร่ ไม่กรีดยาง ให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นแซมยาง ลดการส่งออกยาง 3 เดือนกว่า 2 แสนตัน รวมถึงการแก้ปัญหาโครงสร้างภาคเกษตร เริ่มเป็นมรรคเป็นผล
นายกฤษฏา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้ลงนามสั่งการแต่งตั้งเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดเป็นหัวหน้าทีมแก้ปัญหาภาคเกษตร และแต่งตั้งคณะทำงานของกระทรวงเกษตร ระดับจังหวัด 2 ชุด มีคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญ และการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัดและคณะทำงานปฏิบัติฯ ระดับอำเภอ ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นให้เกิดทำงานรวดเร็วมีประสิทธิภาพสูงสุด และแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือวิฤกติภัย
รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ 7 พันกว่าอำเภอและตำบลทั่วประเทศ ลงพื้นที่สำรวจเพื่อช่วยเหลือแก้หนี้เกษตรกร 3.96 ล้านราย ซึ่งเบื้องต้น ได้นำมาตรวจสอบกับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนรายชื่อตรงกัน 2.2 ล้านคน โดยอีกล้านกว่าราย ต้องเร่งสำรวจว่าไปหายเพราะอะไร เป็นเกษตรกรจริง แต่ไม่มาขึ้นทะเบียน หรือผิดพลาดในเรื่องเอกสาร" รมว.เกษตรฯ ระบุ
"ช่วง 3 เดือนนี้ หากจะถามความพอใจของผม ต้องถามจากเกษตรกรว่า พอใจไหม เพราะทุกนโยบายของรัฐบาลนี้ ทำเพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งนี้ การทำงานของ 3 รัฐมนตรีเกษตรฯ มีการทำงานน่าพอใจมาก เป็นทีมที่ดีที่สุด ผมดีใจเพราะรมช.ทั้ง 2 ท่านไม่ได้มาจากการเมือง และในการประชุมใน ครม.จะปรึกษาหารือกันตลอด แต่ยังไม่ทันใจในเรื่องสั่งงานข้าราชการไปแล้ว มีคนบอกว่า เป็นรัฐมนตรีให้นโยบาย ส่วนการจี้งานปล่อยเป็นหน้าที่ปลัด ซึ่งผมก็ไล่จี้อยู่ทุกวัน" นายกฤษฎา กล่าว
รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงผลการสอบสวนการทำหน้าที่ไม่โปร่งใสของ นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ว่า ตนสอบถามเบื้องต้นทาง กยท.ตอบว่า ไม่มีหลักฐานความผิดชัดเจน ดังนั้น เมื่อมาทำงานกับตน เขายังไม่ได้ทำผิดระเบียบกฎหมายอะไร แต่ถ้าผิดตนจะฟันทันที เช่น จ่ายเงินลดกรีดยางในสวนยางของรัฐกว่า 1 แสนไร่ๆ ละ 1 พันบาท ต้องไปสำรวจว่า ลดกรีดจริงไหม ถ้าไม่จริงก็ผิดชัดเจน
ส่วนโครงการลดพื้นที่ปลูกยางปีละ 3 แสนไร่ ก็ต้องดูว่า ลดได้จริงหรือไม่ ต้องมาทบทวนมาตรการต่างๆ ที่ออกไป เพราะยังไม่มั่นใจเรื่องตัวเลขที่ กยท.เสนอกลับมา โดยให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เพราะส่งผลกระทบการผลิต และทุกโครงการรัฐเสียค่าใช้จ่าย ซึ่ง ธกส.ยังรายงานว่า เกษตรกร อยากทำโครงการปลูกพืชผสมผสานในสวนยางมากว่า
สำหรับกรณี บริษัท ไหหน่าน ประเทศจีน จะมาเช่าพื้นที่ปลูกยางในไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากตนจะสอบถามทาง กยท.เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนถึงเรื่องนี้และหาแนวทางแก้ไข
รมว.เกษตรฯ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าแก้หนี้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟู พบว่า เกษตรกรมาแสดงตัว 2.9 แสนราย มูลหนี้ 2.8 พันล้านบาท โดยกฎหมายกองทุนฟื้นฟูฯกำหนดให้ดูแลหนี้เกษตรกร ยอดหนี้ ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ต้องเป็นหนี้ต่อสถาบันการเงิน องค์กรเกษตรกร ทำให้มีเข้าหลักเกณฑ์เพียง 735 ราย มูลหนี้ 139 ล้านบาท ในจำนวนนี้ มีเกษตรกร 200-300 ราย โดยมีคำสั่งศาลยึดที่ดิน ได้เร่งรัดนำมาเข้าสู่ขบวนการซื้อหนี้ก่อน
ทั้งนี้ เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯส่วนใหญ่กว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ ไม่เข้าหลักเกณฑ์เพราะเป็นหนี้ค้ำประกัน ตนจะนำเสนอ นายกรัฐมนตรี ปรับหลักเกณฑ์ในการดูแลหนี้เกษตรกร ขอปรับตัวบุคคลค้ำ และสำรวจกลั่นกรองหนี้ หากกู้ไปใช้บวชลูก แต่งงาน จะมาเข้าฟื้นฟูหนี้ไม่ได้ ต้องกู้ไปลงทุนทำเกษตร จึงเข้าหลักเกณฑ์ พร้อมกับเสนอขอยืดเวลาตามคำสั่งมาตรา 44 เพื่อแก้หนี้ไปอีก 180 วัน
"ผมอยากทำให้จบ สงสารเกษตรกรเข้าสมัครสมาชิกกองทุนฯขอรับการฟื้นฟูตั้งแต่ปี 2544 ผ่านมา16ปียังทำไม่ได้รับการแก้ไข หลังจากนายกฯออกคำสั่งม.44 ตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจแก้หนี้ ขณะนี้ผ่านไป 50 วันเหลืออีก130วันเท่านั้นและจำนวนคนมาก ต้องใช้เวลากลั่นกรองหนี้รายบุคคลจึงขอยืดเวลาไปอีกผมฟันธงว่าหลักเกณฑ์การซื้อหนี้เกษตรกรจะทำให้เสร็จสามารถฟื้นฟูอาชีพได้" นายกฤษฎา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี