15 ม.ค.61 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป ได้กล่าวคัดค้านอย่างเต็มที่ต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาจจะมีการบัญญัติให้ในระหว่างการเลือกตั้งอนุญาตให้ผู้สมัคร ส.ส.จัดเวทีหาเสียงมีการแสดงมหรสพสิ่งรื่นเริง เช่น วงดนตรี นักร้อง นักแสดงลิเก บนเวทีหาเสียงเพื่อจูงใจให้ประชาชนมาฟังการหาเสียง โดยถือเป็นกลยุทธ์จูงใจให้ประชาชนมาฟังการหาเสียงมากขึ้น โดยให้เป็นค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร ส.ส.ที่ให้ใช้ได้จำนวนมากถึง 1,500,000 บาทต่อคน ซึ่งถ้าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครทั่วประเทศทั้ง 350 เขต ก็จะต้องหาเงินจากนายทุนพรรคมาดำเนินการลงทุนพรรคละไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท พรรคการเมืองจะกลับกลายเป็นบริษัทลงทุนทางการเมือง แล้วเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ทุจริตจากรัฐ ถอนทุนคืนพร้อมแสวงหากำไรด้วย
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นการทำลายการปฏิรูปการเมืองที่ตนเคยเสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไว้ ซึ่งต้องการให้ลดอิทธิพลของนายทุนพรรค โดยต้องลดค่าใช้จ่ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ให้เหลือน้อยที่สุด เพราะไม่ว่าการสมัครเข้าไปสู่ตำแหน่งของรัฐใดๆ เช่น สมัคร ส.ว. , กรรมการองค์กรอิสระ , ข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ ล้วนแต่ไม่ต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าสู่ตำแหน่ง หากปล่อยให้เริ่มต้นให้ใช้เงินมากๆ เพื่อสมัคร ส.ส.ก็จะมีการถอนทุน ทุจริตคอรัปชัน เพราะถือว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเยอะกว่าจะได้ตำแหน่งมา และทำให้คนดีๆ รังเกียจที่จะเข้าสมัครเป็น ส.ส.มีผลให้การเมืองเข้าสู่ความล้มเหลวเหมือนก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 เรียกว่า "เสียของ"
อย่างไรก็ตาม ตนจึงเสนอ กรธ.ให้ผู้สมัคร และพรรคการเมือง เสียแต่เงินค่าสมัคร 10,000 บาท แต่ไม่ต้องเสียเงินค่าประชาสัมพันธ์หาเสียง เพราะให้รัฐโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเป็นผู้ดำเนินการประชาสัมพันธ์หาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมือง ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงทุกคนได้รับข้อมูลผู้สมัครและพรรคครบถ้วน อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงจะได้ใช้ดุลยพินิจตัดสินคัดสรรเลือกผู้สมัคร ส.ส.ด้วยข้อมูลที่เปิดเผยและเท่าเทียมกัน ปราศจากการให้อามิสสินจ้างใด
ดังนั้น จึงเห็นว่าหาก สนช.เปิดช่องอนุญาตให้ผู้สมัคร ส.ส.ลงทุนจัดมหรสพหาเสียงได้ในวงเงิน 1,500,000 บาทต่อราย เท่ากับทำลายหลักการปฎิรูปการเมืองที่สำคัญที่สุด ทั้งที่การจัดมหรสพให้ฟรีเพื่อหาเสียงเป็นการให้อามิสสินจ้างซื้อเสียงอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตไม่เที่ยงธรรม เกิดความเหลื่อมลํ้า มือใครยาวสาวได้สาวเอา สนับสนุนพรรคนายทุนการเมืองเอาเปรียบพรรคของประชาชน และมีผลให้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 53/2560 ที่ต้องการปฏิรูปพรรคการเมืองให้เกิดความเที่ยงธรรมและลดความเหลื่อมลํ้า ระหว่างพรรคการเมืองต้องสูญเปล่าและเสียหลักการไปด้วย
"นอกจากจะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเทียงธรรม เกิดความเหลื่อม ยังจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ไม่สงบขึ้น เป็นห่วง คสช.จะตกเป็นที่ครหาของประชาชนว่า ไม่มีความสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างจัดการเลือกตั้ง ทั้งที่การดูแลรักษาความสงบของประเทศเป็นผลงานเด่นที่สุดของ คสช.ในสายตาประชาชนส่วนใหญ่" นายไพบูลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี