21 ม.ค.61 นายเสรี สุวรรณภานนท์ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมธิการฯ มีมติให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน ว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาเรื่องระยะเวลาที่กำหนดไว้เดิมตามรัฐธรรมนูญนั้น เกรงว่าจะทำให้พรรคการเมืองดำเนินการไม่ทันในหลายเรื่อง เช่น เรื่องของสมาชิกพรรค เรื่องไพรมารี่โหวต รวมทั้ง เรื่องอื่นๆ ซึ่งในที่ประชุมก็มีผู้เสนอมาว่า หากเป็นเช่นนี้ เมื่อพรรคการเมืองยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ อาจจะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่สุจริต เที่ยงธรรมได้ซึ่ง เป็นความหวังดีต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าของคณะกรรมาธิการฯ เท่านั้น
"ขอยืนยันว่าเป็นความหวังดีของคณะกรรมาธิการฯ เท่านั้น และต้องทำความเข้าใจด้วยว่าไม่ได้เป็นใบสั่งใคร แต่เป็นความหวังดีในที่ประชุม ซึ่งมีผู้เสนอมาก็ต้องมีการอธิบายทำความเข้าใจ ซึ่งผม และ นายวันชัย สอนศิริ เป็นเสียงข้างน้อยในที่ประชุมร่วมกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่เป็นคณะกรรมาธิการฯ ด้วย เหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยนั้น เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง จะทำให้สังคมมีความเข้าใจผิดคิดว่า เป็นใบสั่งของผู้มีอำนาจ และจะทำให้กระทบต่อรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พอข่าวออกไปก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งเดิมทีตกลงกันว่าหากใครเสนอก็ให้ไปสงวนคำแปรญัตติไว้เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ สนช.เพื่อพิจารณา แต่เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ก็โหวตว่า ให้แก้ไขในส่วนนี้ไปเลย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าข้อเสนอของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ก็เป็นความตั้งใจดีที่จะทำให้การเลือกตั้งในครั้งหน้ามีความบริสุทธิ์ยุติธรรม" นายเสรี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี