"นายกฯ" ปลุกประชาธิปไตยไทยนิยม ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ผู้บริหารระดับสูง ยึดหลักการที่ถูกต้อง ไม่มีความขัดแย้งกัน ยันไม่ได้มุ่งหวังการเมืองสืบทอดอำนาจ ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ยันทำงาน 3 ปีไม่เคยอวดอ้างทำได้ดีที่สุด แจงบัตรจนไม่ใช่ประชานิยม แต่เพื่อความเท่าเทียม
22 ม.ค. 61 ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นประธานเปิดสัมมนานักบริหารระดับสูงเพื่อการบูรณาการการพัฒนาประเทศ 4.0 และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ"ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ : One Country One Team"มีใจความตอนหนึ่งกับผู้บริหารระดับสูงว่า วันนี้เป็นงานสำคัญทำให้ประเทศ ในฐานะเป็นข้าราชการของในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าราชการของประชาชน ไม่ว่า ตำรวจ ทหาร ต่างทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฉะนั้นวันนี้ถือเป็นช่วงระยะเวลาเปลี่ยนไปสู่การมีประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน ที่ใช้คำว่าไทยนิยม หมายความว่า ประเทศไทย คนไทยมีอัตลักษณะที่มีความแตกต่างกับหลายๆประเทศในโลก บางครั้งไม่ค่อยคำนึงถึงหลักการ และความถูกต้องมากนัก เพราะเรานิสัยแบบไทยๆ ชอบอะไรก็ชอบ
"ผมใช้คำว่า ไทยนิยม ต้องการให้คนไทยนิยม ทำแต่ในสิ่งที่เป็นความดี ความงาม ความถูกต้อง มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นคนดี และคนเก่ง นั้นคือ ไทยนิยมในทางที่ถูกต้อง ซึ่งคำว่า ไทยนิยมประชาธิปไตยคือ เราต้องนิยมประชาธิปไตยที่ไม่ทิ้งหลักการประชาธิปไตยสากล ผมไม่เคยให้ยกเลิกตรงโน้น ตรงนี้ไม่มี ระยะระยะเวลาต่อจากนี้ สำคัญสุดสำหรับพวกเราทุกคน ในการบริหารราชการ และทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อหลุดพ้นกับดักจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ระดับสูงอย่างยั่งยืน ต้องเตรียมพร้อมให้ผู้บริหารภาครัฐให้มีกรอบคิด และการทำงาน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณที่ผ่านมาทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ในช่วงเปลี่ยนผ่านในระยะ 3 ปี หลายท่านมีทั้งเข้าใจ ไม่เข้าใจ และคิดว่า ยุ่งยาก จริงๆแล้วเราต้องอดทน เพราะทุกวันนี้ตนพยายามทำเต็มที่ในหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคช่วงนี้ไปได้ สู่การปฏิรูปร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเสนองบประมาณจากนี้ไปต้องสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น ประชาธิปไตยไทยนิยมที่ ตนคิดขึ้นมาไม่ได้มุ่งหวังการเมือง มุ่งหวังเพียงแค่ทำอย่างไรให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากสิ่งที่มีปัญหามาตลอด ทั้งความยากจน ความขัดแย้ง ซึ่งเริ่มทำใน 3 ปีที่ผ่านมา ตนไม่อาจกล่าวอ้างว่า ทำได้ดีที่สุด แต่ว่าได้เริ่มทำในแนวใหม่ขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง และต้องการพัฒนาคนให้มากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เข้าใจว่า ทุกคนมีปัญหา คนทำงานก็อยากขึ้นเงินเดือน ทั้งนี้การขึ้นเงินเดือนจะต้องพิจารณาโดยรวมในการทำงานของรัฐบาลนั้น จะต้องวางแผนในระยะเริ่มต้น 5 ปี จึงต้องมีการลงทุนเป็นจำนวนมาก จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลลงทุนมากเกินไป อย่างไรก็ตามนโยบายของรัฐบาลเช่น บัตรคนจน ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ประชานิยม แต่เราทำเพื่อทุกคนให้มีความเท่าเทียมกัน โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสเพื่อผู้มีรายได้น้อย เพราะเรื่องของความเท่าเทียมและความยากจน ส่วนใหญ่มักจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไทยนิยมต้องเป็นไปในทางที่ดี ขัดแย้งกันไม่ใช่ไทยนิยม ตนไม่รู้จะใช้คำไหนมีใครแนะนำคำอื่นอีกไหม ถ้าให้ใช้ตนใช้ไทยนิยม ตนอ่านหนังสือมาก็นึกๆเอา ไม่มีใครมาบอกตน และตนก็มีคำอธิบายของตนได้ว่าอะไรคือไทยนิยม อะไรคือประชารัฐ อะไรคือความยั่งยืน ตอบคำถามได้ทั้งหมดและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูป ต่อไปนี้คำเหล่านี้ต้องติดหู ติดตา ติดปากประชาชนและข้าราชการ
"ใครง่วงหาวๆหวอดๆ ผมก็นอนดึกนะ แต่ผมไม่ได้เลี้ยงลูก แต่ลูกเราก็คือลูกเรา นั่นคือไทยนิยม เลี้ยงลูกเลี้ยงไปเลี้ยงมาลูกเป็นพ่อ นั่นแหละไทยนิยม วันข้างหน้าจะลำบาก เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้เขา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า แผนพัฒนาประเทศที่ทำ ตนไปคุมใครที่ไหน และจะสืบทอดอำนาจของตนตรงไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่เขาเขียนนั่น ยุทธศาสตร์คืออะไร ความมั่นคงจะต้องทำอะไรบ้าง แบบนั้นตนไปคุมให้เหรอ ตนไม่ได้บอกว่า ต้องทำอย่างไรด้วยซ้ำไป แผนสภาพัฒน์ก็ไม่ได้เขียน ตนจะไปได้ประโยชน์ตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ตนสวดมนต์ทุกคืน สวดให้ประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ และตอนนี้ยังสวดมนต์ให้ คสช. ด้วย เอาตัวให้รอด และตนไม่ใช่ศัตรูของท่าน วันหน้าตนก็คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็เป็นไปตามโรดแมป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี