"ทวีศักดิ์" รับแก้กฎหมายขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ป. เลือก ส.ส. 90 วัน หวังช่วยแก้ปัญหาพรรคการเมือง ยกเทียบกฎหมายอื่นก็มีการเลื่อนบังคับใช้กฎหมาย โยนถาม"นายกฯ" แจงกระทบความเชื่อมั่นนานาชาติ
22 ม.ค. 61 ที่รัฐสภา นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงถึงเหตุผลของคณะกมธ.วิสามัญฯในการแก้ไขระยะเวลาของการให้บังคับกฎหมายเมื่อพ้น 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามมาตรา 2 ว่า เดิมที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดทำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.อยู่บนเงื่อนไขหนึ่ง คือ เวลานั้นกฎหมายพรรคการเมืองยังไม่ได้มีการแก้ไข
โดยบทเฉพาะกาลกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดให้พรรคการเมืองดำเนินการเรื่องธุรการ เช่น การทบทวนบัญชีสมาชิกพรรค จัดการเรื่องทุนประเดิมของพรรคการเมือง การจัดหาสมาชิกพรรคให้ได้ 5,000 คนภายใน1 ปี เป็นต้น แต่เมื่อกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เข้ามาสู่ สนช.แล้ว แต่เมื่อคณะ กมธ.วิสามัญฯได้พิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ปรากฎว่า ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 53/2560 ออกมา
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ประกาศ คสช. ฉบับนี้มีผลต่อเรื่องระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจากเดิมที่พรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติตามบทเฉพาะกาลของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่พรรคการเมืองต้องเริ่มกระบวนการธุรการทันที ที่หลังจากกฎหมายพรรคการเมืองประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 8 ต.ค.2560 แต่มีประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และ คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ส่งผลให้พรรคการเมืองยังดำเนินการทางการเมืองไม่ได้
แม้ว่า กติกาจะเปิดโอกาสแล้วก็ตาม ประกอบกับเมื่อมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 53/2560 ส่งผลให้พรรคการเมืองจะไปสามารถเริ่มดำเนินการทางการเมืองได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2561 และสำหรับพรรคการเมืองใหม่จะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2561 ถ้านับระยะเวลาจากวันที่ 8 ต.ค.2560 มาถึงวันที่ 1ม.ย.2561 จะมีเวลาที่ถูกขยับ 6 เดือน
“ในคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 53/2560 กำหนดว่า การประชุมใหญ่พรรคการเมืองให้ดำเนินการภายใน 90 วันนับแต่วันที่ยกเลิกประกาศ คสช. ฉบัที่ 57/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ดังนั้น ระหว่างที่เราพิจารณากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ได้มีเงื่อนไขใหม่และกำหนดเวลาไว้ชัดเจน จึงเห็นว่า ถ้าให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ทันที จะทำให้ต้องเริ่มนับ150วันไปสู่การเลือกตั้งทันที และถ้ายังไม่ได้เปิดกติกาให้พรรคการเมืองได้ดำเนินการ จะเป็นผลเสียต่อพรรคการเมือง สมมติว่าพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลในวันรุ่งขึ้นหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา และผ่านไปสองเดือนยังไม่ได้ให้พรรคการเมืองประชุมพรรค พรรคการเมืองจะเหลือเวลา 90 วัน ซึ่งคุณสมบัติของผู้สมัครเลือกตั้งจะต้องสังกัดพรรคการเมือง 90 วัน จะมีปัญหาเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทันที ยังไม่นับเรื่องของเวลาในการทำไพรมารี่โหวต คณะ กมธ. วิสามัญฯจึงเห็นต้องมีระยะเวลาช่วงหนึ่ง คือ 90 วัน” นายทวีศีกดิ์ กล่าว
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีกฎหมายที่ไม่ได้มีผลบังคับใช้ทันทีที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษามาก่อน แต่กำหนดระยะเวลาให้มีผลบังคับใช้ภายหลัง เช่น พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจพ.ศ.2558 ที่กำหนดว่า เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 240 วัน เป็นต้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลเคยประกาศใช้พระราชกำหนดเพื่อแก้ไขจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันทีที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปรากฎว่า ในทางปฏิบัติไม่สามารถดำเนินการได้ แม้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยืนยันกับคณะรัฐมนตรีแล้วว่า พร้อมดำเนินการทันทีก็ตาม ต่อมาจึงมีการใช้อำนาจมาตรา 44 ขยายเวลาของการให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ออกไป
“ถ้ากฎหมายผ่านไปแล้ว โดยไม่คำนึงถึงเรื่องเวลา หลายคนบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องไปยุ่งเรื่องเวลา ถ้ามีปัญหาก็ใช้มาตรา 44 แต่ถ้าพอไปถึงตรงนั้นทั้งเราและ คสช. ก็ถูกตำหนิอีกว่า รู้อยู่แล้วว่า มีปัญหาทำไมถึงไม่ทำ แต่กลับไปใช้มาตรา 44 ซึ่งถูกวิจารณ์อีกว่าใช้มาตรา 44 พร่ำเพรื่ออีก ดังนั้น ผมคิดว่า การดำเนินการของเราเป็นไปด้วยเหตุผล ไม่ใช่เรื่องไปรับอะไรมา” นายทวีศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า แม้ในทางกฎหมายจะสามารถแก้ไขเพื่อขยายเวลาได้ แต่อีกด้านก็มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยประกาศไว้ว่า จะมีในเดือนพ.ย. นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า คณะกมธ.วิสามัญฯมีเพียงหน้าที่พิจารณากฎหมาย หากไปตอบประเด็นทางการเมืองจะเป็นการเกินอำนาจหน้าที่ของคณะ กมธ. วิสามัญฯ
เมื่อถามว่า การแก้ไขเวลาลักษณะนี้หมายความว่า ได้รับไฟเขียวมาจาก คสช. แล้วใช่หรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า คงไปตอบแทนทั้งหมดไม่ได้ แต่เท่าที่ส่วนตัวรับรู้ยืนยันได้ว่า ไม่มี
เมื่อถามว่า ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติทำไมไม่เสนอให้ คสช. ดำเนินการปลดล็อกทางการเมืองเพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินการกิจกรรมได้ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า “อันนั้นต้องไปถามประธาน สนช. ผมแถลงข่าวและตอบคำถามในนามโฆษกรรมาธิการ หน้าที่ของเรา คือ การพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และนำกลับเข้าสู่สภา ถ้าประเด็นในทางการเมืองต้องไปถามให้มันตรงกับคนที่รับผิดชอบ”
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้ประกาศต่อนานาชาติแล้วว่า จะมีการเลือกตั้งในปีนี้ แต่การแก้ไขกฎหมายลักษณะนี้จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศหรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า “ผมคิดว่า ความน่าเชื่อถือของประเทศอยู่กับหลายฝ่าย ไม่ได้อยู่กับคนใดคนหนึ่ง ท่านก็ไปช่วยถามท่านนายกฯด้วย”
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากสาระสำคัญมาตรา 2 ที่ กมธ. แก้ไขแล้ว ยังมีสาระสำคัญมาตราอื่นๆที่ กมธ. ได้ปรับปรุงแก้ไขจากร่างเดิมของ กรธ. อาทิ มาตรา15 กรณีมีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ให้สามารถจัดการเลือกตั้งภายในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ให้ กกต. ลงคะแนน2 ใน3 ของที่มีอยู่ทั้งหมด หรือตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปจากจำนวน7 คน กำหนดให้มีวันเลือกตั้งใหม่ จากเดิมที่ กรธ. เสนอมาให้ใช้เสียงกกต.2 ใน3 เท่านั้น
นอกจากนี้มาตรา 35 การเพิ่มการถูกจำกัดสิทธิแก่ผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจากที่ กรธ. เสนอมาว่า ไม่ให้มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. การตัดสิทธิการลงสมัคร ส.ส. และสภาท้องถิ่น สิทธิ การตัดสิทธิลงสมัครกำนันผู้ใหญ่ เพิ่มเป็น การตัดสิทธิการสมัครเข้ารับราชการ พนักงาน ลูกจ้างสังกัดรัฐสภา การตัดสิทธิการได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง การตัดสิทธิการได้รับการแต่งตั้งรองผู้บริหาร ผู้ช่วยและที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
โดยมีกำหนดการตัดสิทธิเป็นเวลา 2 ปี มาตรา 46 และมาตรา 59 การแก้ไขไม่ให้คืนเงินค่าสมัคร ส.ส. เขตและบัญชีรายชื่อ10,000 บาท แก่ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ5 ของผู้มาใช้สิทธิลงคะแนน จากเดิมที่ กรธ.เสนอให้คืนเงินค่าสมัครแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองทีได้คะแนนเสียงเกินร้อยละ 5 เพื่อไม่ให้ความยุ่งยากในขั้นตอนธุรการและที่ผ่านมาไม่เคยมีการคืนเงินค่าสมัคร
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า มาตรา 64 การกำหนดค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งของ ส.ส. และพรรคการเมือง ให้ กกต. หารือกับพรรคการเมือง เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับความจำเป็นและสภาวะเศรษฐกิจทุก 4ปี โดยกำหนดให้ค่าใช้จ่ายการหาเสียงของพรรคการเมืองและผู้สมัครส.ส.เขตต้องใช้เท่ากันทุกพรรค จากเดิมที่ไม่ได้กำหนด มาตรา 72 การหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ให้ยุติในเวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน เหมือนการหาเสียงด้วยวิธีอื่นๆ จากเดิมที่กำหนดให้ยุติหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อนวันเลือกตั้ง 3วัน
ขณะเดียวกันมาตรา 74 การกำหนดให้การสำรวจความเห็นประชาชนโดยมีเจตนาไม่สุจริตอันมีลักษณะชี้นำต่อการตัดสินใจการลงคะแนนของประชาชน ไม่สามารถกระทำได้ จากเดิมที่เสนอให้การสำรวจความเห็นประชาชนที่มีลักษณะชี้นำไม่สามารถทำได้ เพื่อเพิ่มการคุ้มครองแก่สำนักโพลต่างๆให้สามารถทำโพลสำรวจความเห็นประชาชนได้ มาตรา 75 ให้สามารถจัดแสดงมหรสพ งานรื่นเริงระหว่างการหาเสียงได้ จากเดิมที่ห้ามการแสดงมหรสพ งานรื่นเริงระหว่างการหาเสียง มาตรา77 การห้ามผู้สมัครจัดยานพาหนะขนคนไปลงคะแนนและนำกลับจากสถานที่เลือกตั้ง เพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า มาตรา 82 ให้ กกต. สนับสนุนการโฆษณาหาเสียงแก่ผู้สมัครและพรรคการเมือง โดยอาจจัดเวทีประชันนโยบายบริหารประเทศ(ดีเบต) ของพรรคการเมือง จากเดิมที่เสนอให้สนับสนุนการหาเสียงแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว ส่วนมาตรา 87 การขยายเวลาการลงคะแนนเลือกตั้งเป็น 07.00-17.00 น. จากเดิมเวลา08.00-16.00 น. มาตรา 129 การคิดคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ที่ กมธ. คงไว้ตามหลักการเดิมที่ กรธ. เสนอมา แต่เพิ่มเติมข้อความให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ให้เกิดการตีความการคิดคะแนนได้หลายวิธี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี