25 ม.ค.61 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวกับผู้สื่อข่าว "แนวหน้าออนไลน์" ถึงกรณีที่ มูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ประกาศถอนตัวจากการเป็นเครือข่ายร่วมกับองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International-TI) ซึ่ง นางจุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการมูลนิธิฯ ให้เหตุผลว่าตัวชี้วัดของ TI มีอคติและไม่สอดคล้องกับความจริงในสังคมไทย รวมถึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบางสำนักว่าผู้จัดอันดับอาจจะไม่ชอบรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารนั้น
นายธีระชัย ให้ความเห็นว่า ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่ารัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร โดยทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งสาเหตุอาจจะเป็นได้ทั้งกังวลเรื่องความมั่นคง หรือการหาผลประโยชน์ส่วนตัว จึงไม่อยากให้ประชาชนรับรู้อะไรมากนัก บางประเทศอาจจะเป็นอย่างนั้น ดังนั้นหากต้องการได้คะแนน ก็ต้องแสดงให้เห็นว่าถึงจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่ยังยึดถือหลักที่ถูกต้อง
"ถึงแม้รัฐบาลจะไม่ได้มาจากประชาธิปไตย แต่ถ้าเปิดรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านอย่างโปร่งใสเต็มที่ เปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ ให้สอบถามข้อมูลอย่างชัดเจน แบบนี้ถึงจะไม่ได้มาจากประชาธิปไตยมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ของบ้านเรา รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย ส่วนใหญ่มักจะปิดกั้นการแสดงความเห็น เช่น เชิญไปปรับทัศนคติ มันก็เลยออกมาเป็นการไม่เปิดให้แลกเปลี่ยนความเห็นหรือข้อมูลอย่างเต็มที่ ฉะนั้นจะไปบอกว่าเขามีอคติเพราะเราเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อาจจะดูเข้าข้างตัวเองไปสักหน่อย" อดีต รมว.คลัง กล่าว
ขณะที่ นายมานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวในวันเดียวกัน ชี้แจงว่าไทยไม่เคยถอนตัวจากการจัดอันดับทุจริตโลก (CPI) การประเมินและจัดอันดับคอร์รัปชันของประเทศทั่วโลก เป็นการสำรวจข้อมูลอย่างอิสระโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกประเมินและจัดอันดับทุกปีตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 เป็นต้นมา และเชื่อว่าจะยังคงมีต่อไป
โดยการประกาศผลการประเมินและจัดอันดับประจำปี 2560 จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.พ.61 นี้ ทั้งนี้ เดิมที "มูลนิธิเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย" เป็นสมาชิกขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติด้วย แต่เมื่อราวสองปีที่แล้วได้ "ถอนตัวจากการเป็นสมาชิก" เนื่องจากมีข้อจำกัดบางประการ โดยจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการประเมินและจัดอันดับคอร์รัปชั่น
"มูลนิธิเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทยก่อตั้งปี 2543 โดยมี ท่านอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน และ รศ.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เป็นเลขาธิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในสังคมไทย โดยมุ่งผนึกกำลังของปัจเจกบุคคลและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมอื่นๆ เพื่อให้การต่อต้านคอร์รัปชันประสบผลสำเร็จ มีผลงานสำคัญ เช่น โครงการโตไปไม่โกง ดังนั้นประเด็นที่ว่า ไทยถอนตัวจากการจัดอันดับการทุจริตโลก จึงเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง" นายมานะ ระบุ
อนึ่ง สำหรับการจัดอันดับดัชนีความโปร่งใสโดย TI เริ่มมาตั้งแต่ปี 2538 แต่ประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกตนั้นเกิดขึ้นในการจัดอันดับของปี 2559 ซึ่งมีการนำตัวชี้วัดที่เรียกว่า Varieties of Democracy Project (VDEM) หรือความเป็นประชาธิปไตยเข้ามาเป็นเกณฑ์พิจารณาจัดอันดับด้วย ส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยของไทยนั้นลดลง จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเวลานั้นว่าต่างชาติมีอคติที่ไทยไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทรุดลง...ทรงตัว ‘ปราบโกง’ฝันอันเลือนราง (นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 10 ก.พ.2560)
ขอบคุณข่าวจาก
- http://news.ch7.com/detail/267894 ไทย แจงถอนตัวจัดอันดับทุจริตโลก ชี้ตัววัดไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
- https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1329651417180725&set=a.677824955696711.1073741827.100004076388880&type=3&theater
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี