28 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ฝ่ายเลขานุการในคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการ "ไทยนิยมยั่งยืน" ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในคณะกรรมการอำนวยการฯ ได้เริ่มกำหนดแนวทางกรอบระยะเวลาเพื่อเดินหน้าโครงการดังกล่าวลงไปยังพื้นที่ในลักษณะการบูรณาการร่วมทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมมอบนโยบายลงไปยังคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และระดับอำเภอ มีนายอำเภอ เป็นประธาน รวมถึงฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ระดับจังหวัด อำเภอ ลงไปจนถึงระดับตำบล จะทำการถ่ายทอดการปฏิบัติงานร่วมกัน และเริ่มลงพื้นที่ปฏิบัติงานในช่วงเดือน มี.ค.เป็นต้นไป จำนวน 7,463 ทีม ลงพื้นที่ดำเนินการใน 81,064 หมู่บ้าน
ขณะที่คู่ขนานที่เป็นอีกส่วนสำคัญ คือ การเตรียมเสนอกรอบระยะเวลา ให้นายกฯ พิจารณา เพื่อเดินทางลงพื้นที่ไปขับเคลื่อนโครงการฯ ทั่วประเทศ มีทั้งสิ้น 76 จังหวัด แบ่งเป็น 18 ครั้ง หรือ 18 กลุ่มจังหวัด โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. - 21 มิ.ย.61 รวม 5 เดือนเต็ม ในการดำเนินการ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงเดือน ก.พ. - มี.ค.61 ได้มีการเสนอให้นายกฯ ลงพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน กับภาคเหนือทั้งหมด อันเป็นที่เข้าใจกันว่า ทั้ง 2 ภาคดังกล่าว ถือเป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย และกลุ่มทางการเมือง คือ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ที่ครองฐานเสียง อำนาจทางการเมืองในแถบดังกล่าว มาอย่างยาวนานในช่วง 10 กว่าปีให้หลังมานี้ ตามมาด้วยภาคกลาง ในเดือน เม.ย. , พ.ค.และภาคใต้ที่ส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ในเดือน มิ.ย.เดือนสุดท้ายของการลงพื้นที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กางปฏิทินเดินสายปลุก'ไทยนิยม'! บิ๊กตู่เคลื่อนทัพกล่อมชาวบ้าน18ครั้งทั่วไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี