เดี๋ยวก็รู้"ศรีวราห์"สั่งเร่งเช็กท่อน้ำเลี้ยง-ใครอยู่เบื้องหลังม็อบอยากเลือกตั้ง พร้อมออกหมายเรียก 7 แกนนำสกัดกลุ่มต่อต้านไม่ได้ลุกลาม ชี้ล้วนเป็นคนหน้าเดิมทั้ง"รังสิมันต์-จ่านิว-ทนายอานนท์-เนติวิทย์" ด้าน"บิ๊กป้อม"ชูรัฏฐาธิปัตย์ลั่นอย่าแหกคำสั่งคสช. ส่วนสมช.จับตากลุ่มฮาร์คอร์ผสมโรง
30 ม.ค.61 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และกลุ่มมวลชน ออกมารณรงค์รวมพลประชาชนอยากเลือกตั้งว่า เรื่องนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวที่ สน.ปทุมวัน ไปแล้ว 7 ราย
พล.ต.อ.ศรีวรากห์ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คือ การออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนสอบสวนในชั้นนี้น่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมมากกว่า 7 คนนี้ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่ามีกี่ราย ส่วนการแสดงจุดยืนเคลื่อนไหวทุกวันเสาร์นั้นขอให้ไปดูกฎหมายว่าด้วยการชุมนุม ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะมีความผิด เรื่องนี้กำชับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ไปดูแล้ว ยืนยันว่าชุมนุมได้แต่ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี
"จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีใครอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว ตรวจสอบเรื่องเงินสนับสนุน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด รอให้ศาลอนุมัติหมายจับก็จะทราบเอง กลุ่มผู้สนับสนุนทุกคนก็รู้ก็เห็นอยู่ ชุมนุมมา 5 - 6 ท้องที่ ก็เป็นกลุ่มเดิมๆ ตำรวจจะต้องดำเนินการไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง" รอง ผบ.ตร.ระบุ
มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ออกหมายเรียกแกนนำเคลื่อนไหวทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายรังสิมันต์ โรม 2.นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ 3.น.ส.ณัฎฐา มหัทธนา 4.นายอานนท์ นำภา 5.นายเอกชัย หงส์กังวาน 6.นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ และ 7.นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล มารับทราบข้อกล่าวหาข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและการรักษาความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งแรกกลุ่มเคลื่อนไหวทั้ง 7 คน ให้เข้าพบ ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ เพื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และหากหลังจากออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้ว ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน จะออกหมายจับทั้ง 2 ข้อหาต่อไป
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 ม.ค.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนงานการรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.ปทุมวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในคำบรรยายแจ้งความได้ลงบันทึกรายละเอียดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คน ว่ามีพฤติกรรมในการกระทำอย่างไรในวัน ที่นัดร่วมตัวเคลื่อนไหวกัน โดยก่อนหน้านี้ได้โพสต์เฟตข้อความ อาทิ การโพสต์เชิญชวนให้กลุ่มของตนเอง และประชาชนที่มีแนวความคิดเหมือนกัน มาเข้าร่วม ทำกิจกรรมชุมนุมต่อต้าน คสช.
ข่าวจาก คสช.ระบุว่า การแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง ทำผิดกฏหมายก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย คนเป็นแกนนำต้องรับผิดชอบ รู้อยู่แล้วว่ากฎหมายกำหนดว่าอย่างไร แต่จงใจในการระเมิดกฎหมาย ออกมาปลุกปั่นยั่วยุให้มีความเกลียดชั่ง ทั้งนี้การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้เชิญ นางนวพร กลิ่นบัวแก้ว ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่เขตปทุมวันในส่วนที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน เกี่ยวกับลักษณะพื้นที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน ที่กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และกลุ่มมวลชน ออกมารณรงค์ "รวมพลประชาชนอยากเลือกตั้ง" เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นพื้นที่สาธารณะหรือไม่
ข่าวแจ้งว่า นางนวพร พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เปิดให้ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ และยังได้ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ห่างจากเขตพระราชฐานไม่เกิน 150 เมตร เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 7
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย การเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และประกาศคำสั่ง คสช.เพราะตอนนี้อยู่ในการปกครองแบบรัฏฐาธิปัตย์
เมื่อถามว่า จะมีกลุ่มจากต่างจังหวัดเข้ามาสมทบด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า มีเพียงกลุ่มเดียว ที่ชุมนุมอยู่ในขณะนี้ ส่วนจะเคลื่อนไหว ได้แค่ไหน ก็แค่นั้น และต้องว่ากันตามกฎหมาย ส่วนการชุมนุมจะลุกลามไปต่างจังหวัดหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คิดกันไปเอง
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้ว่า ตราบใดที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของกฎหมายไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่
ส่วนกรณี นายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุอาจมีกลุ่มต่างประเทศให้การสนับสนุนผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้นั้น ต้องสืบสวนกันต่อไป
เมื่อถามว่า มีประชาชนออกมาร่วมเคลื่อนไหว เกรงว่าสถานการณ์จะลุกลามออกไปหรือไม่ พล.อ.วัลลภ กล่าวว่า อย่างที่ทราบว่ามีการเคลื่อนไหวกันหลายกลุ่ม ขอย้ำว่าถ้าเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของกฎหมายไม่มีอะไร เป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเรายังสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ยังไม่พบว่ามีสถานการณ์ที่รุนแรง แต่ยังต้องมีการติดตามอยู่เรื่อยๆ ส่วนจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวฮาร์ดคอร์เข้ามาร่วมด้วยหรือไม่นั้น กำลังตรวจสอบอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี