31 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เสนอทางออกให้กับรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยระบุว่า อันนี้ผมเขียนเตือนและเสนอทางออกให้ คสช.เพื่อใช้ในการพิจารณา แต่ก็ไม่ได้คาดหวังบรรดาท่านเหล่านั้นจะปฏิบัติตาม แต่ในฐานะนักวิชาการจำเป็นต้องเสนอทางเลือกที่ผ่านการไตร่ตรองแล้ว และคิดว่าจะมีประโยชน์แก่บ้านเมือง ให้ผู้มีอำนาจได้พิจารณาครับ ดังความด้านล่างนี้
"คสช. ควรปรับยุทธศาสตร์การเมือง"
ผมประเมินว่า ยุทธศาสตร์การสืบทอดอำนาจ ด้วยตัวแบบเชิงยุทธวิธีที่คณะรัฐประหารเลือกใช้ไม่เหมาะสมและไม่สอดคล้องกับบริบททางการเมืองในยุคปัจจุบันแล้ว เพราะความนิยมที่ประชาชนมีต่อหัวหน้าคณะรัฐประหารตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน อันเกิดมาจากรัฐบาลภายใต้การนำของคณะรัฐประหารไม่อาจทำให้วาทกรรมที่ประกาศไว้เป็นความจริงขึ้นมาได้ แม้ใช้เวลาร่วมสี่ปีในการครองอำนาจมาแล้วก็ตาม ในทางกลับกันกระแสที่ต้องการให้คณะรัฐประหารปล่อยวางอำนาจทางการเมืองกลับยิ่งทวีมากขึ้นตามลำดับ
ดังนั้น ยุทธศาสตร์การสืบทอดอำนาจการบริหารดูจะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อทั้งคณะรัฐประหารเอง และต่อเกียรติภูมิของกองทัพในภาพรวมด้วย เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเหตุการซ้ำรอยประวัติศาสตร์ช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2535 หรือ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516
เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดตามมาแก่ประเทศชาติ ผมคิดว่าคณะรัฐประหารควรปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการเมืองเสียใหม่ จาก "ยุทธศาสตร์การสืบทอดอำนาจการบริหาร" ไปสู่ "ยุทธศาสตร์การตรวจสอบทางการเมือง" แทน โดยเป้าประสงค์ของยุทธศาสตร์นี้คือ การดำรงบทบาทในฐานะเป็นผู้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ผ่านกลไกวุฒิสภา
การดำรงบทบาทนี้มีความสำคัญและจำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านและสร้างความเข้มแข็งแก่ระบอบประชาธิปไตยในอนาคต เพราะว่าปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมาของการที่นักการเมืองมีอำนาจมากคือ กลไกการตรวจสอบที่เป็นทางการในรัฐสภาไร้ประสิทธิภาพและลำเอียง จนทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภาขึ้นมา หาก สว.ในอนาคตที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารมีจุดยืนในการแสดงบทบาทตรวจสอบรัฐบาล ก็จะทำให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจมากขึ้น และช่วยลดโอกาสของการเกิดภาวะเผด็จการรัฐสภาดังในอดีต
สำหรับแนวทางการดำเนินการตามยุทธศาสตร์นี้ ควรมีลำดับขึ้นตอนดังนี้
1.หัวหน้าคณะรัฐประหารควรประกาศต่อสาธารณะว่า จะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้ง และประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเจน สำหรับบทบาทของรัฐบาลของคณะรัฐประหารก็ประกาศให้ชัดว่าจะมุ่งทำหน้าที่ในการดูแลความสงบมั่นคงของบ้านเมือง และการเตรียมการเลือกตั้งให้ราบรื่นลุล่วงไป
2.เร่งรัดให้ สนช.ออกกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.และดำเนินการให้เนื้อหากฎหมายไม่สร้างปัญหาที่ทำให้การเลือกตั้งต้องยืดเยื้อออกไป
3.ไม่จัดตั้งพรรคนอมินีหรือสนับสนุนพรรคการเมืองใดทั้งในที่ลับและที่แจ้ง พร้อมกับการแสดงจุดยืนความเป็นกลางทางการเมืองในฐานะเป็นผู้พิทักษ์ มากกว่าในฐานะที่เป็นผู้เล่นหรือผู้เข้าไปแทรกแซง และใช้กลไกอำนาจรัฐสร้างเงื่อนไขให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
4.การคัดเลือก สว.ควรคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ในการทำคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองและความกล้าหาญทางจริยธรรม และมีความหลากหลายด้านอาชีพ ศาสนา อายุ ภูมิภาค ชาติพันธุ์ และเพศสภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี