“บิ๊กป๊อก”ลุยดัน “ไทยนิยม”ยันไม่แตะงบแสนล้านปี 61 เผยบิ๊กตู่นำทีมมั่นคง เศรษฐกิจลุยมอบนโยบายทุกกระทรวง 9 ก.พ.นี้ ชี้ฝ่ายเศรษฐกิจขอร่วมแจมแบ่ง 3 ด้าน “ฐานราก – พัฒนาพื้นที่ – ภาคเกษตร”
1 ก.พ.61 ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการ และเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาตามโครงการ ไทยนิยมยั่งยืน กล่าวถึงภาพรวมด้านงบประมาณของโครงการไทยนิยมฯว่า โครงการไทยนิยมฯ ไม่ใช่เป็นเรื่องของการของบประมาณเพิ่มเติมปี 2561ทั้งหมด แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากฝ่ายเศรษฐกิจต้องการลงไปสร้างเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ จึงได้เสนอของบฯเพิ่มเติมกลางปี 61 ต่อรัฐบาล ซึ่งจะเน้นไปที่งานภาคการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ ตามมาด้วยการท่องเที่ยว โครงการโอท็อป กองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า หากสิ้นสุดการของบฯประมาณกลางปี 61 แล้ว โครงการไทยนิยมฯ ก็จะยังคงติดตามขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะถือว่า เป็นการบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานให้ลงไปในพื้นที่ สำหรับงบฯจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท ที่จะใช้เป็นค่าประกอบเลี้ยงอาหาร 1 มื้อให้กับประชาชนที่มารับฟังนั้น จะยึดตามจำนวนประชาชนที่มารับฟังในแต่ละพื้นที่ รวมถึงวิทยากรให้ความรู้ จะเบิกเกินจำนวนไม่ได้ โดยคิดเป็นหัวละ 50 บาทต่อราย
รมว.มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการฯต่อจากนี้ว่า ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ความมั่นคง เศรษฐกิจ จะชี้แจงนโยบาย และแนวทางต่อทุกกระทรวง
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายทุกกระทรวงจะถ่ายทอดการปฏิบัติงานไปยังชุดขับเคลื่อนในพื้นที่คือ ระดับจังหวัด อำเภอเพื่อถ่ายทอดลงไปสู่ในระดับตำบลที่ขณะนี้ได้เตรียมบุคลากรในพื้นที่ไว้แล้ว โดยระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อประชุมซักซ้อมในพื้นที่ และจะเริ่มลงมือปฏิบัติงานในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ดำเนินการทั้งสิ้นจำนวน 4 ครั้ง 7,563 ทีม ลงขับเคลื่อนงานกว่า 80,000 หมู่บ้าน ชุมชน
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในปี 2561 รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 100,358.1 ล้านบาท โดยทางฝ่ายเศรษฐกิจ ได้เสนอของบฯดังกล่าวที่จะลงไปขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 35,000 ล้านบาท
2.พัฒนาเชิงพื้นที่ ชุมชน การท่องเที่ยว กองทุนหมู่บ้าน จำนวน 34,500 ล้านบาท
3.การปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร จำนวน 30,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 99,500 ล้านบาท
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า สำหรับยอดเงินงบประมาณใน 3 กลุ่มหลักนี้สามารถโยกไปมาได้ ไม่ถือว่าตายตัว ในส่วนงบฯจำนวน 2,000 ล้านบาท ที่ใช้เป็นค่าประกอบเลี้ยงอาหารสำหรับประชาชนที่มารับฟังนั้น เป็นเพียงงบฯส่วนหนึ่งใน 3 กลุ่มหลัก ที่ทางฝ่ายเศรษฐกิจได้เสนอของบฯ
"กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งไปยังสำนักงบประมาณว่า ทางกระทรวงมหาดไทยมีงบฯค้างจากปี 2560 อยู่แล้ว ประมาณ 600 ล้านบาทที่จะมาใช้ดำเนินการ นั่นก็หมายความว่า สามารถของบฯเพิ่มให้ครบ 2,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง" แหล่งข่าว ระบุ
“โครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่ใช่เป็นการของบฯปี61ซะทั้งหมด แต่เป็นการนำนโยบายการปฏิบัติ ลงไปดำเนินการในพื้นที่ให้เกิดขึ้นได้จริงแบบบูรณาการ เช่น การลงไปสร้างความเข้าใจว่าจะต้องมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่เราจะทำอย่างไรที่จะสอนให้ประชาชนเลือกตั้งแล้วได้คนดีเข้ามาบริหารประเทศ อาจมีบางกระทรวงที่ยังไม่มีบุคลากรประจำอยู่ในระดับพื้นที่ หรือยังไม่มีงบประมาณเพียงพอ ก็ต้องลงไปสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนด้วย นี่คือโครงการไทยนิยมยั่งยืน ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานต้องลงไปทำงานในพื้นที่แบบบูรณาการ” แหล่งข่าว ระบุทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี