ตีปี๊บไทยนิยม
มท.จัดทัพ‘ผู้ว่าฯ-อปท.’
รับนโยบายนายกฯ9กพ.
มุ่งขับเคลื่อนสู่รากหญ้า
‘บิ๊กกุ้ย’ส่งมติยันศาลรธน.
ต่ออายุ‘ปปช.’ไม่ขัดรธน.
มหาดไทยจัดทัพใหญ่เดินหน้าตีปี๊บขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมฯสู่รากหญ้า ระดมผู้ว่าฯ-อปท.ทั่วประเทศ รับมอบนโยบาย 9 กุมภาพันธ์ ที่อิมแพค ด้านประธาน ป.ป.ช.เผยส่งมติกรรมการ แจงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยันต่ออายุ ป.ป.ช.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ อ้างบทเฉพาะกาลให้อำนาจสนช.ตัดสิน
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.)ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ได้กำหนดจัดประชุมมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย ปลัดจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด คลังจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด พัฒนาการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ และวิทยากรที่ดำเนินการถ่ายทอดนโยบายในระดับพื้นที่ทั่วประเทศในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการฯ เป็นประธาน
นายนิสิตกล่าวต่อว่า การจัดประชุมครั้งนี้เป็นการชี้แจงกรอบแนวทางการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และการแบ่งงานมอบภารกิจของฝ่ายเลขานุการร่วมฯ ในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองการแก้ปัญหาของประชาชน
ส่วนความคืบหน้ากรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขอให้ตีความเรื่องการยกเว้นลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ตามร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีท่าทีของพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ในเรื่องนี้ โดยเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีมติให้ส่งรายงานความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยป.ป.ช.ยืนยันว่า การให้ดำรงตำแหน่งต่อไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้การดำรงอยู่ของกรรมการองค์กรอิสระขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช. แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตัดสินเรื่องนี้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. เพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่ใครจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ตนมาถูกต้องตามรัฐธรรมนูญปี 2550 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ที่สำคัญ ตนมุ่งมั่นทำงานมาตลอด ดังนั้น ถ้าไปหวั่นไหวกับทุกเรื่องคงไม่ได้ เพราะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ไม่อย่างนั้นเจ้าหน้าที่รัฐคงลาออกกันหมด ถ้าไม่หนักแน่นตรงนี้บ้านเมืองจะไปไม่ได้ อีกทั้ง การสรรหาบุคคลใหม่ใช้เวลานาน และไม่รู้ว่าการสรรหาคนใหม่มาจะดีเลิศหรือไม่ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายหรือบกพร่องก็มีกระบวนการทางกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว ถ้าเห็นว่าตนทำไม่ดีให้ยื่นเรื่องได้ตามกระบวนการ ถ้าชี้ว่าผิด ตนพร้อมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องรับโทษรับกรรมไปตามสิ่งที่ทำ แต่ถ้าไม่ผิดต้องให้โอกาสตนทำงาน
วันเดียวกัน ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายระยะเร่งด่วน และประธานกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมาย กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดสัมมนาโครงการมุมมองสื่อมวลชนต่อการปฏิรูปประเทศว่า
การปฏิรูปกฎหมายเป็นแผนสำคัญในการปฏิรูปประเทศ เพื่อรองรับการแข่งขัน โดยจะปรับปรุงและยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งผลงานที่มาของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน ได้เร่งผลักดันและปรับปรุงกฎหมายรวมทั้งหมด 24 ฉบับ
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า กฎหมายหลายฉบับเป็นปัญหาในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชา เช่น กฎหมายสาธารณสุข ที่มีระเบียบกทม.ให้จดทะเบียนหมาและแมว พอสอบถามกรุงเทพมหานคร(กทม.) มีคนไปจดทะเบียนต่ำกว่า 10 คน ฉะนั้น จึงต้องปฏิรูปสะสางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อประชาชน ประเทศไทยมีระเบียบต่างๆที่ต้องขออนุญาต จากส่วนกลางถึง 6,000 ฉบับ ตั้งเป้าลดให้ได้เหลือ 1,500 ฉบับ ตรงนี้จะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้มากเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี