ครม.เห็นชอบปูพรมวางโครงสร้างพื้นฐาน “บก-น้ำ-อากาศ” รองรับอีอีซี กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองจันทร์ ขยายช่องทางขึ้นเขาคิชฌกูฏรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาแหลมฉบังรองรับสินค้าภาคตะวันออก
6 ก.พ.61 เวลา 16.00 น. ที่ มรภ.รำไพพรรณี นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.รับทราบภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ภาคตะวันออก ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยการพัฒนาด้านการขนส่งทางบกได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างถนนในพื้นที่ภาคตะวันออก วงเงินงบประมาณระหว่างปี 2557-2562 รวม 77,323.283 ล้านบาท ในการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายพัทยา- มาบตาพุด ระยะทาง 22 กิโลเมตร วงเงิน 20,200 ล้านบาท มีกำหนดเปิดใช้งานในปี 2563 การขยายช่องทางการจราจรทางหลวง ทางเข้าท่าอากาศยานอู่ตะเภา-ท่าเรือจุกเสม็ด เพื่อลดความแออัดของการจราจร ทางหลวงมีนบุรี -ฉะเชิงเทรา เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา และเส้นทางเลียบชายทะเลตะวันออก ชลบุรี-ระยอง จะมีการสร้างเส้นทางจักรยาน จุดพักรถ และจุดชมวิว รวมถึงพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวรอบเกาะช้าง ขณะที่ในระยะต่อไป กระทรวงคมนาคมมีแผนจะดำเนินโครงการต่างๆ เช่น ในปี 2563-2566 จะก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายแหลมฉบัง -ปราจีนบุรี -นครราชสีมา เพื่อเชื่อมต่อทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา-หนองคาย นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มช่องทางจราจร (เขาไร่ยา)-เขาคิชฌกูฏ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
นายณัฐพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 236,700 ล้านบาท และการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ บริเวณมักกะสันและที่ดินรอบสถานีรถไฟความเร็วสูงศรีราชา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ รวมถึงยังมีแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าเชื่อมต่อกับประเทศจีนตอนล่าง เข้ากับท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือสัตหีบ และมีแผนรอบรับนิคมอุคสาหกรรม เชื่อมโยงโครงการรถไฟฟ้าทางคู่สายชุมทางศรีราชา-ระยอง มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด-ทองใหญ่ ระยะทางรวม 275 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 (งบกลาง) อย่างไรก็ตาม ยังมีโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ให้มีการรองรับการขยายตัวทางการค้า และรองรับปริมาณสินค้าที่ผ่านทางเรือให้มากขึ้น คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในปี 2568 ทั้งนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการซ่อมบำรุงอากาศยานระยะที่ 1 ท่าอากาศยานอู่ตะเภา วงเงินงบประมาณ 10,300 ล้านบาท เพื่อนำร่องในอีอีซีในการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน และเมืองการบินภาคตะวันออก ขณะนี้อยู่ระหว่าง เชิญชวนเอกชน เข้าร่วมประมูล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี