บิ๊กตู่ลั่นใหญ่แค่ไหนก็ผิด
สั่งคดี‘เปรมชัย’
ตรงไปตรงมา‘ห้ามช่วย’
หน้าไหนเอี่ยวฟันไม่ละเว้น
บิ๊กเต่าเด้งรับตั้งคณะทำงาน
‘วิเชียร’ให้ข้อมูลแก๊งล่าสัตว์
ประกาศไม่เกรงกลัวอิทธิพล
นายกฯลั่นคดีเปรมชัยว่าตามกฎหมาย ฮึ่มใหญ่แค่ไหนก็ผิด ใครกล้าช่วยก็ต้องโดนด้วย “วิษณุ”เบรกขึ้นบัญชีดำ ชี้ความผิดส่วนตัว แต่ผิดธรรมาภิบาล แนะอิตาเลียนไทยฯเปลี่ยนซีอีโอ ด้าน “บิ๊กเต่า”ตั้งกรรมการติดตามคดี มั่นใจหลักฐานสมบูรณ์ จ่อออกมาตรการตรวจเข้มห้ามเอาปืนเข้าพื้นที่อนุรักษ์ ด้านอธิบดีอุทยานฯเล็งขึ้นบัญชีพรานทั่วประเทศ ปัดย้าย “ผอ.สัตว์ป่า –วิเชียร” เลือกมาทำงานกับมือไม่ย้ายแน่ “จรัมพร” ลั่นคดีนี้ต้องมีคนติดคุก เผยหลักฐานมีวางแผนล่วงหน้า
ความคืบหน้ากรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำกำลังบุกจับนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก รวม 4 คน กลางป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ยึดปืนไรเฟิล ปืนลูกกรด ปืนลูกซอง รวม 3 กระบอก กระสุนปืนหลายขนาดจำนวนมาก ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น ซากเสือดำ ซากเก้ง ซากไก่ฟ้าหลังเทา ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาล แต่ได้รับอนุญาตประกันตัววงเงินคนละ 1.5 แสนบาท สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมไทยนั้น
นายกฯลั่นใหญ่แค่ไหนผิดต้องเชือด
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายและขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันใครกล้าช่วยเหลือนายเปรมชัยอีกก็ตามใจและต้องถูกลงโทษด้วย เพราะช่วยเหลือไม่ได้ ผิดก็คือผิด ใหญ่แค่ไหนก็คือผิดหากพิสูจน์ได้ ดังนั้น ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามหลักฐาน
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Gen.Prayun Chan-o-cha ซึ่งเป็นเพจทีมงานทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์ข้อความว่า นายกฯ ย้ำ เจ้าหน้าที่กรณีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กาญจนบุรี “ตรงไปตรงมา ห้ามช่วยใครเด็ดขาด”พร้อมโพสต์ภาพพล.อ.ประยุทธ์ และมีข้อความบนภาพว่า”ทำคดีตรงไปตรงมา ห้ามช่วยใครเด็ดขาด ไม่ว่าจะผู้ถูกกล่าวหา ข้าราชการหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง”
ชี้ยังไม่ถึงขั้นแบล็กลิสต์ผิดตัวบุคคล
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีมีการเสนอให้ขึ้นบัญชีดำบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในการทำสัมปทานกับรัฐ หลังเจ้าหน้าจับกุมนายเปรมชัยว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น เร็วที่จะพูด เพราะไม่ได้ผิดในนามบริษัท เป็นการทำผิดส่วนบุคคล การสัมปทานกับรัฐต้องไปประมูล ในบริษัทนี้มีหลายหุ้นส่วน จะไปเอาผิดทั้งบริษัทไม่ได้ คนอื่นไม่ได้รู้เรื่องด้วย นอกจากว่ามีความเชื่อมโยงไม่ถึงบุคคลอื่น กรณีนี้อาจเป็นไปได้ว่าบริษัท อิตาเลียนไทยฯ อาจปรับเปลี่ยนผู้บริหารออกไปก็ได้ แน่นอนเรื่องนี้ต้องสอบในแง่ธรรมาภิบาลของบริษัท
จวกยุคนี้ไม่ควรจะมีอีกแล้ว
นายวิษณุกล่าวต่อว่า กรณีนี้เกิดขึ้นที่ไหน คนสนใจทั้งนั้น เราอยู่ประชาคมโลกและอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศว่าด้วยชนิดสัตว์ป่าและพืชป่า (ไซเตส) ซึ่งดูแลคุ้มครองสัตว์ป่าอยู่ เราต้องให้ความสนใจว่าคนคนนั้นจะรับผิดอย่างไร จะมีโทษอย่างไร เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ สถานที่ที่เกิดเหตุเป็นมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนไว้ อย่างไรก็ตามคนที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดนั้นเป็นคนมีชื่อเสียง จะเกี่ยวหรือไม่กับนายเปรมชัย แต่การเข้าป่าล่าสัตว์ไม่ควรมีขึ้นอีกแล้วในยุคนี้ เป็นบาป ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมด้วย
ทส.ตั้งคณะทำงานติดตามคดี
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ เป็นประธานคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หารือถึงกรณีนายเปรมชัย พร้อมพวกรวม 4 คน ถูกจับกุมพร้อมซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอาวุธปืนในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก โดยมีพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมใช้เวลา 3 ชั่วโมง
หลังประชุมพล.อ.สุรศักดิ์แ ถลงว่า กรณีที่เกิดเหตุมีความชัดเจนว่าเจตนาก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นแจ้งความผิด 9 ข้อหาไปแล้ว ส่วนการประชุมในวันนี้ได้ร่วมหารือว่าจะเอาหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ให้สมบูรณ์ที่สุด โดยนายกฯกำชับให้ดำเนินการตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ตนได้ตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องนี้ โดยมีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นประธานคณะกรรมการ และมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายมาเข้าร่วมด้วย
จ่อออกมาตรการเข้มเข้าเขตอนุรักษ์
ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการตรวจสอบบุคคลเมื่อเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ปกติการตรวจสอบมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้มาตรการจะเข้มงวดมากขึ้น ป้องกันไม่ให้นำอาวุธเข้าพื้นที่ จะตรวจเข้มทุกพื้นที่ นอกจากนี้ จะประสานงานกระทรวงมหาดไทยถึงการขึ้นทะเบียนปืนล่าสัตว์มาเป็นฐานข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมบุคคลด้วย ส่วนกรณีมีอดีตข้าราชการกรมอุทยานฯ ประสานงานให้นายเปรมชัย และพวกเข้าพื้นที่จะสอบสวนเรื่องนี้หรือไม่นั้น เนื่องจากเป็นอดีตข้าราชการ ต้องปล่อยให้เป็นอำนาจของตำรวจ
เร่งหาตัวอดีตบิ๊กกษ.ช่วยเคลียร์ทาง
แหล่งข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กำลังตรวจสอบว่าอดีตบิ๊กเกษตรฯขาใหญ่ที่เป็นข่าวนั้น คือใคร เบื้องต้นทราบว่าเป็นอดีตข้าราชการของกรมๆหนี่งในกระทรวงเกษตรฯ ที่โทรเคลียร์ก่อนล่วงหน้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ประสานบิ๊กข้าราชการ ทส.ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเรียนที่เดียวกัน ให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้คณะของนายเปรมชัย กรรณสูต ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าตรวจค้นรถ เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างรู้ดีขั้นตอนการดูแลรับรองแขกวีไอพีของกระทรวง
เล็งขึ้นบัญชีพรานป่าทั่วปท.
ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกล่าวยืนยันว่ากรมอุทยานฯ พร้อมสนับสนุนและดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ กรมอุทยานฯจะจัดทำบัญชีพรานป่าในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วในพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.ชัยภูมิ แต่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ ยังไม่มีความชัดเจน
ปัดย้าย“กาญจนา-วิเชียร”
นายธัญญายังปฎิเสธกระแสข่าวในโซเซียลระบุจะย้ายน.ส.กาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยยืนยันว่า ยังไม่เคยคิดเรื่องนี้ และยังไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย ขณะนี้น.ส.กาญจนาไม่ได้ทำความผิดอะไร ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้มีกระแสดราม่าในโลกโซเซียลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างข่าวการย้ายนายวิเชียร ก็เหมือนกัน ตนไม่เคยพูด ทั้งวิเชียรและกาญจนา เป็นคนที่ตนเลือกพวกเขาให้ไปทำหน้าที่ตรงนั้นเอง พวกเขายังไม่มีความผิดอะไร จะย้ายทำไม
“จรัมพร”ชี้วางแผนดีไม่เตรียมสบียง
ขณะที่พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์กล่าวว่า จากหลักฐานเบื้องต้นที่ได้มา ถือว่าเตรียมการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากการตรวจค้นสัมภาระ ไม่มีการนำอาหารหรือเสบียงเข้ามาในพื้นที่ ยกเว้นอุปกรณ์ทำครัว เกลือ และเครื่องแกง เหมือนเตรียมมาทำอาหาร ที่สำคัญมีการแวะรับแม่ค้าร้านอาหารที่ย่านบางกรวย จ.นนทบุรีก่อนเข้าพื้นที่
เก็บลายนิ้วมือ-DNAหาคนลั่นไก
พล.ต.อ.จรัมพรกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบร่องรอยที่พบในหนังเสือดำ และตัวไก่ฟ้าหลังเทาว่าใช้ปืนประเภทใด ทั้งยังเก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมเก็บลายนิ้วมือ และเขม่าปืนในอาวุธที่พบ หลักฐานเหล่านี้สมบูรณ์และถูกเก็บจัดระเบียบเอาไว้เป็นอย่างดี เพื่อส่งผลให้ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ เชื่อว่าผลจากนิติวิทยาศาสตร์จะเชื่อมโยงไปถึงผู้ทำความผิดได้แน่นอน
เชื่อเจ้าสัวเปรมชัยน่าจะผิดด้วย
ส่วนตัวนายเปรมชัยจะเป็นคนลั่นไกยิงสัตว์ป่าหรือไม่ ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ส่วนตัวมองว่าแนวทางการสอบสวนน่าจะเป็นความผิดร่วม เพราะคณะที่เข้าไปในป่ามีเจตนาชัดเจนเข้าไปล่าสัตว์ป่า แต่ใครจะทำหน้าที่อะไรนั้น และความผิดอะไรบ้างขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนและการพิจารณาของศาลต่อไป อย่างน้อยที่สุดนายเปรมชัยมีความผิดฐานพกพาอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะจากการค้นเอกสารในรถพบเอกสารทะเบียนอาวุธปืนตรงกับปืนที่ใช้ในที่เกิดเหตุคือ ปืน .30-06 อย่างน้อยความผิดนี้ก็มีโทษจำคุก
ลั่นคดีนี้มีคนติดคุกแน่
“จากการทำคดีที่ผ่านมาเชื่อว่าคดีนี้ต้องมีคนติดคุกแน่ อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าเรื่องธรรมภิบาลของบริษัทอิตาเลียนไทยเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะต้องเข้ามากำกับดูแล ที่สำคัญเห็นว่านายเปรมชัยควรสำนึกและยอมรับผิด จากนั้นควรทำความดีโดยเฉพาะกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการขอโทษสังคม”พล.ต.อ.จรัมพรกล่าว
ผบ.ตร.จี้ขยายผลจนท.เอี่ยวหรือไม่
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนสืบสวนคดีจับกุมนายเปรมชัยกับพวกในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผลทุกประเด็น ทั้งการครอบครองซากสัตว์ พฤติกรรมการเดินทางเข้าพื้นที่ทุกครั้ง ก่อนถูกจับกุมในคดีนี้ รวมถึงประเด็นการได้รับอนุญาต จากเจ้าหน้าที่ให้นายเปรมชัย กับคณะเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุกครั้งที่ผ่านมา หากพบการทำผิดเชื่อมโยง หรือมีส่วนร่วมกับการกระทำความผิด จะดำเนินคดีอย่างไม่มีละเว้น
“ศรีวราห์”ถกปทส.-สอบจนท.อุทยาน
ต่อมาในช่วงบ่ายพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ไปกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ปทส.) เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีคดีจับกุมนายเปรมชัยกับพวกในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
“วิเชียร”ลั่นไม่เกรงกลัวอิทธิพล
นายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เปิดเผยก่อนให้ปากคำกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ และคณะพนักงานสอบสวน กรณีคลิปเสียงการต่อรองหลังถูกจับกุม โดยเชื่อว่าเป็นความพยายามดิสเครดิตลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน ส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อรักษาป่าและความถูกต้อง พร้อมย้ำว่า ไม่รู้สึกเกรงกลัวอิทธิพล เพราะผิดก็ว่าไปตามผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
“กรณีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ทรงชื่นชมการทำงานของผมนั้น ทำให้มีกำลังใจเปรียบเสมือนหยาดฝนที่ชโลมยอดหญ้าบนพื้นดิน ซึ่งเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างสูงยิ่งในการประกอบอาชีพราชการและจะเป็นกำลังใจในการทำงานในอนาคต”นายวิเชียร กล่าว
ขอบคุณ ‘คนไทย’ ส่งกำลังใจให้
นายวิเชียร ยังกล่าวด้วยว่า ในนามของทุ่งใหญ่ ขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคน ที่ส่งกำลังใจให้เราต่อสู้ฝ่าฟันก้าวข้ามความกดดันเหตุการณ์ตรงนี้ หากไม่มีกำลังเหล่านี้ เราคงทำงานไม่ราบรื่น กำลังใจของพวกท่านที่ส่งให้มามีพลังเป็นร้อยเท่าพันเท่าในการที่จะปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของชาติไทยต่อไป
ชัยวัฒน์ชี้พฤติกรรมล่าสัตว์ป่าชัดเจน
ส่วนนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งซากสัตว์ป่าและอาวุธปืนพร้อมสิ่งของที่ยึดได้ทำให้เห็นว่านายเปรมชัย มีพฤติกรรมล่าสัตว์ป่าอย่างชัดเจน แม้ว่าอาจจะอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่อาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ 1 กระบอกเป็นของนายเปรมชัย อาจเข้าข่ายเป็นผู้สั่งการให้ลงมือ
ส่งคลิปเสียงให้ปปป.ตรวจสอบ
ส่วนหลักฐานคลิปเสียงการเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นของนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาร่วม และพล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้นำคลิปเสียงส่งให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป.ตรวจสอบ เนื่องจากคลิปเสียงมีความยาว ที่มีการปรากฏตามสื่อนั้นเป็นเพียงบางช่วงบางตอน และมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
แฉเป็นเสือดำตัวสุดท้ายในรัศมี10กม.
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนเสือดำที่เสียชีวิตนั้น เป็นเสือดำตัวสุดท้ายที่อยู่ในรัศมีกว่า10 กิโลเมตรที่เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวมักพบเห็น ซึ่งพฤติกรรมของเสือดำมักมาอาบแดดและเดินเล่นในพื้นที่โล่งหรือเส้นทางเดินรถบ่อยครั้ง ทั้งนี้เสือดำหรือเสือดาว เป็นสัตว์ในวงศ์เดียวกัน โดยเสือดาวจะตกคลอก 3-4 ตัวต่อครั้ง และ 1 ในนั้นจะมีเสือดำเพียง 1ตัว แต่เปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตจะมีน้อยมากเพียงคอกละ 1 ตัว จึงทำให้เสือดาวหรือเสือดำมีจำนวนน้อยหรือแทบจะสูญพันธุ์
ย้ำการอนุญาตเข้าพื้นที่ป่าถูกต้อง
นายชัยวัฒน์ ยังยืนยัน การอนุญาตให้คณะของนายเปรมชัย เข้าพักแรมในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ เป็นไปตามระเบียบถูกต้อง เพราะที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวทั่วไป สามารถเข้าพื้นที่ได้โดยเสียค่าบริการ คนละ 20 บาท ค่าพาหนะคนละ 30 บาท ไม่จำเป็นต้องยื่นเรื่องขออนุญาต กรณีของนายเปรมชัย มีการประสานงานด้วยวาจา และทำเรื่องขออนุญาต ทำให้ไม่ต้องเสียค่าบริการ โดยยื่นเรื่องตั้งแต่วันศุกร์(2 ก.พ.) แต่หนังสือมารอให้อนุมัติในวันจันทร์(5 ก.พ.)ตามธรรมเนียมปกติ จึงไม่อยากให้นำประเด็นนี้มาขยายความ เพราะจะบั่นทอนกำลังใจของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีวันนี้ ได้เตรียมพนักงานสอบสวน 5 ชุด เพื่อสอบปากคำไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรระหว่าง 2-4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่ออ่วมเล็งสอบติดสินบน-งาช้าง
ขณะที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในส่วนของคลิปเสียงอ้างเป็นของนายเปรมชัย เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนลักษณะเจรจาต่อรองเมื่อถูกจับกุม โดยจะพิจารณาหลักฐานประเด็นนี้ หากมีพยานหลักฐาน และข้อมูลที่ชี้ว่ามีความพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ปรากฏเป็นเจ้าของเสียงในคลิปเสียง ในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานด้วย
นอกจากนี้งาช้างสองคู่ ที่พบภายในบ้านพักของนายเปรมชัยและอายัดมาตรวจสอบนั้น จากการดูลักษณะเบื้องต้นสงสัยว่าอาจไม่ใช่งาช้างไทย หรือช้างในเอเชีย แม้จะมีการแสดงใบอนุญาตครอบครองก็ต้องดูว่า ใบอนุญาตกับงาช้างตรงกันหรือไม่แจ้งขออนุญาตถูกต้องจริงหรือไม่ หากไม่ใช่งาช้างไทยเป็นงาช้างที่ต้องห้ามก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย
พบเอี่ยวพรานไฮโซแจ้งข้อหาทันที
พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส.กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นที่จะสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯเบื้องต้นคือ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ถ้ามีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งหากพบประเด็นความผิดอื่นใดของนายเปรมชัย ก็เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มด้วยเช่นกัน ส่วนอาวุธปืน
43 กระบอก และงาช้าง 2 คู่ที่พบในบ้านนายเปรมชัยนั้น ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบการครอบครอง ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจดีเอ็นเองาช้างเป็นของประเทศใด
ลุยสอบร้านอาหารป่าดังเมืองกาญจน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาพยานหลักฐานอย่างรอบด้าน กรณีจับนายเปรมชัยและพวกที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มคลอง โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งให้พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.7 นำกำลังไปตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังทราบว่าก่อนที่คณะนายเปรมชัยจะเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ไปซื้ออาหารสดประเภทเนื้อที่ร้านอาหารเก้าทัพ แกงป่า เลขที่ 68/1 หมู่ 3 ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี จากชื่อเชื่อได้ว่าร้านดังกล่าวอาจเป็นร้านอาหารที่ขายของป่าให้นายเปรมชัย พร้อมพวกหรือไม่ เมื่อเข้าตรวจสอบพบนายสมโชค โบศรี อายุ 58 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ ตรวจในร้านพบเนื้อสัตว์เก็บเอาไว้ในถุงพลาสติกแช่แข็ง เจ้าหน้าที่ นำตัวอย่างชิ้นเนื้อทุกชนิด ส่งผู้เชี่ยวชาญของกรมอุทยานฯพิสูจน์ต่อไป
ตร.-เพื่อนบ้านให้กำลังใจพ่อแม่วิเชียร
วันเดียวกัน ที่จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.กมลวรรธ สุกใส ผู้กำกับการสภ.ยางชุมน้อย นายสถิต กาหลง กำนันตำบลลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย พร้อมเพื่อนบ้านประมาณ 30 คนเดินทางไป ที่บ้านเลขที่ 27 บ้านลิ้นฟ้า หมู่ 10 ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ บ้านของนายกรณ์และนางวงเดือน ชิณวงษ์ พ่อและแม่ของนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่ปฏิบัติหน้าที่ และจับกุมนายเปรมชัย เพื่อให้กำลังใจ หลังทราบว่าพ่อแม่ของนายวิเชียรห่วงลูกชายมาก เพราะติดต่อไม่ได้ แต่วันนี้นายวิเชียรโทรมาหาครอบครัวแล้ว ทำให้นางวงเดือนคลายกังวล ทั้งนี้ พ.ต.อ.กมลวรรธจัดตำรวจสายตรวจมาดูแล เพื่อเป็นกำลังใจ สร้างความอุ่นใจให้ครอบครัวนายวิเชียรด้วย
แม่อยากให้ลูกย้ายมาอยู่อีสาน
นางวงเดือน ชิณวงษ์ แม่ของนายวิเชียรกล่าวว่า ขอให้ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือดูแลลูกชายด้วย ใจจริงอยากขอให้ย้ายลูกมาอยู่ภาคอีสานใกล้บ้าน พื้นที่ภาคอีสานจะไม่มีอันตราย ลูกได้ทำงานอย่างมี ความสุข และอยู่ใกล้บ้านใกล้พ่อแม่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี