"อภิสิทธิ์"ชี้ "หมอธี"กลับลำกลืนนำ้ลาย เลือกแถลงขอโทษ"บิ๊กป้อม" เป็นการตัดสินใจจบแบบไม่ก่อปัญหาให้รัฐบาล ยันปม แหวนเพชรนาฬิกาหรู จุดจบต้องหวนเข้าสู่ ครม. รับผิดชอบร่วมกัน
15 ก.พ. 61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงขอโทษ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากที่ น.พ.ธีระเกียรติ วิพากษ์วิจารณ์กรณีแหวนเพชรและนาฬิกาหรู กับนักเรียนไทย และนักธุรกิจไทยที่มาร่วมงานเลี้ยงรับรองที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ตัวรัฐมนตรีก็ยืนยันว่า เขาได้พูดจริง ไม่ได้ปฏิเสธ และพูดย้ำว่า ทุกคนก็มีความเห็นส่วนตัวได้ เพียงแต่ท่านบอกว่า เมื่อคำนึงถึงการทำงานให้กับนายกฯ แล้วเห็นว่า เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ท่านก็เลือกที่จะให้จบแบบนี้ แต่คำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้นาฬิกา ที่มีขึ้นมาทั้งหมด เป็นเรื่องของปัญหาวัฒนธรรมทางการเมือง จริยธรรมทางการเมือง ความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับเรื่องของกฎหมาย
"ผมก็บอกว่า เหตุหนึ่งที่มีการแยกแยะอย่างนี้ โดยเฉพาะในสากล ก็เพราะพอกระบวนการของกฎหมายต้องใช้เวลา สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็จะมาบั่นทอนการทำงานต่างๆ ไปเรื่อยๆ และตั้งแต่ผมตามเรื่องนี้มา ก็เป็นจริงอย่างที่พูด เพราะข่าวเรื่องนี้ไม่จบเสียที จะมีประเด็นขึ้นมาอย่างนี้แม้กระทั่งในรัฐมนตรีร่วมคณะด้วยกันเอง" หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นการเสียมารยาทอย่างที่น.พ.ธีระเกียรติ แถลงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าตัวเขาก็ยอมรับแล้ว ซึ่งอยู่ที่ว่า ท่านจะตัดสินใจอย่างไร ตอนนี้ท่านตัดสินใจแล้ว ท่านบอกว่า เสียมารยาท แต่ความเห็นท่านก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจากที่พูดไป เพียงแต่บอกว่า ไม่ประสงค์ที่จะเลือกอีกทางเลือกหนึ่ง
ซึ่งเข้าใจว่า คงเกรงว่า อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับรัฐบาลโดยรวม เลยเลือกวิธีนี้ และเห็นว่า แต่ละคนก็คงมีความคิด มีมาตรฐานไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆ ก็จะมีคำถามตามมาว่า ถ้าคิดอย่างนี้เห็นอย่างนี้ ตกลงการแสดงออก หรือการตัดสินใจที่เหมาะสม ควรจะเป็นอย่างไร แต่ท่านบอกว่า ความเห็นท่านเหมือนเดิม ท่านพูดจริง ซึ่งท่านมองเรื่องการทำงานให้กับนายกฯ สำคัญกว่า นี่คือข้อสรุปของท่าน
"ผมก็บอกไปแล้วว่า เรื่องแบบนี้ถ้าเราพูดถึงในแง่ของมาตรฐาน วัฒนธรรมทางการเมืองในต่างประเทศที่เป็นสากล ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกัน แม้คนใน ครม. ไม่กล้าวิจารณ์ แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็หนีไม่พ้น เมื่อตัดสินใจกันแบบนี้ ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องของรัฐบาลทั้งหมด ในสมัยผมเป็นรัฐบาล กรณีคุณวิทยา แก้วภราดัย และคุณวิฑูรย์ นามบุตร ท่านเหล่านั้นถึงใช้คำว่า ไม่เป็นภาระกับรัฐบาล เพราะเขารู้ว่า ในที่สุดจะกลายเป็นเรื่องของรัฐบาลไปโดยปริยาย ซึ่งวันนี้ผมว่า เกือบจะไปสู่จุดนั้นแล้ว เพราะท่านนายกฯพูดเองว่า ใครรักท่านก็ต้องรักทุกๆ คนด้วย หมายความว่า ต้องรับผิดชอบร่วมกันไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี