วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย นายรังสิมันต์ โรม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว และ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา ร่วมกันแถลงประกาศจุดยืนและแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ภายหลังจากถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งความเอาผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และยุยงปลุกปั่น จากการจัดชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดย น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า ก่อนการจัดชุมนุมแต่ละครั้ง ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราษฎร์ เพื่อรับทราบแล้วทุกครั้ง แต่ไม่ใช่การขออนุญาต เพราะถือเป็นการทำตามสิทธิรัฐธรรมนูญรองรับไว้
นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า จุดยืนการเคลื่อนไหวของประชาชนไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่มีการเคลื่อนไหวมาโดยตลอดตั้งแต่มีการรัฐประหาร จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เคยประกาศในเวทีนานาชาติว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 แต่สุดท้ายก็มีทีท่าว่าเลื่อนเลือกตั้ง โดยผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครั้งแล้วครั้งเล่า เราจึงต้องออกมาแสดงจุดยืนว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้ง ถือเป็นการกำหนดทิศทางความเป็นไปของประเทศชาติ และเป็นการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กับประชาชนทุกคน ขอยืนยันว่าสิ่งที่กลุ่มออกมาเคลื่อนไหวไม่ใช่การกระทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องการให้ประเทศพ้นจากผู้กุมอำนาจอย่าง คสช. รวมถึงได้รัฐบาลที่ไม่ใช่แม่น้ำ 5 สาย ที่ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง
“อยากให้เข้าใจว่าว่าสุดท้ายแล้วการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทุกคนจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ยืนยันว่า การชุมนุมทุกครั้งไม่ได้กระทบสิทธิเสรีภาพของใคร เพราะข้อเรียกร้องของเราคือ หยุดถ่วงการเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ และต้องมีการเลือกตั้งภายในปี 2561 เท่านั้น เพราะไม่ใช่ว่าประเทศไทยไม่เคยมีเลือกตั้งมาก่อน แต่ควรต้องฟังเสียงประชาชนด้วย ที่ผ่านมา ผู้นำ คสช. ไม่เคยฟังเสียงประชาชน เขาต้องการให้ตัวเองอยู่ต่อไปฟรีๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ศัตรูของพวกเราคือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม”
นายสิรวิชญ์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย กำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ทางกลุ่มคงไม่ยื่นข้อเสนอไปประกอบการพิจารณา เพราะเราเคยยื่นหนังสือไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแล และคนที่เป็น สนช. ตอนนี้ ก็เป็นคนของ คสช. รับรองได้เลยว่าหากลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ไม่มีใครเลือก จึงอยากอยู่ในตำแหน่งนี้นานๆ
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า สิ่งที่กลุ่มทำเพราะเห็นว่าไม่มีหนทางอื่นทำให้เกิดการเลือกตั้งในประเทศได้ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกสี และทุกพรรคการเมือง ออกมาร่วมกันแสดงพลังร่วมกัน เพื่อให้ คสช. ตระหนักว่า ใครกันแน่ที่คือผู้มีอำนาจที่แท้จริง โดยทางกลุ่มจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. กลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิ่ล จะจัดการชุมนุมที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพราะถือว่าเป็นประตูภาคอีสาน
จากนั้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จะจัดกิจกรรม ที่หน้าหอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยจะมีกิจกรรมเซอร์ไพรส์ คสช. แต่ยืนยันว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแน่นอน จากนั้นในวันที่ 10 และ 24 มีนาคม ช่วงเย็น ทางกลุ่มจะจัดกิจกรรมอีกครั้ง แต่ยังไม่ขอบอกสถานที่ว่าจะเป็นที่ไหน ทั้งนี้เราจะหยุดจัดกิจกรรมในช่วงเดือนเมษายน
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า กลุ่มจะจัดการชุมนุมอีกครั้งทุกวันเสาร์ในเดือนพฤาภาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 19-22 พฤษภาคม จะมีการจัดกิจกรรมแบบค้างคืน จนกว่าประชาชนจะได้อำนาจกลับคืนมา โดยช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นวันครบรอบ 4 ปี ของการยึดอำนาจโดย คสช.
อย่างไรก็ตามยังไม่ขอระบุสถานที่ แต่คาดว่าจะเป็นบริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นี่คือโรดแม็พของประชาชนที่มีความชัดเจน ซึ่งต่างจาดโร้ดแม็พของ คสช. ที่เลื่อนตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี