'พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ' เตรียมเปิดบ้านเปิดใจหลังตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้ายการชุมนุม พธม.ที่สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ 19 ก.พ.นี้ เปิดประวัติเป็นอดีตนายตำรวจยอดนักสู้ ชกหน้า "อดุลย์ วันไชยธนวงศ์" กลางสภามาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ได้เตรียมแถลงข่าวกรณีตกเป็นจำเลยคดีก่อการร้ายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่สนามบินดอนเมือง – สุวรรณภูมิ โดย พล.ต.อ.ประทิน จะเปิดบ้านเพื่อเปิดใจต่อสื่อมวลชนทั้งประเด็นการเดินหน้าสร้างกระขวนการยุติธรรมภิวัฒน์ โดยศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในสังคม? โดยการแถลงข่าวดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.พ.61 เวลา 10.00 น.ที่บ้านเลขที่ 10/11 ซอยพร้อมศรี 2 สุขุมวิท 39 กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2477 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นามสกุลเดิม "ก้อนแก้ว" เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นบิดาของ วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนที่ 20 ชีวิตครอบครัว สมรสกับ นางกุณฑลา สันติประภพ
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ในเริ่มแรกรับราชการทหารบก ด้วยการจบการศึกษารัฐศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหลักสูตรผู้บังคับหมวด รุ่นที่ 6 จากโรงเรียนทหารราบ เริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งนายร้อยตรี ประจำกรมกำลังพลทหารบก และประจำกองบัญชาการศูนย์การทหารราบ ในปี พ.ศ. 2501
จากนั้นในปี พ.ศ. 2502 จึงย้ายมาเป็นตำรวจ ในยศนายร้อยตำรวจโท ประจำกองบังคับการตำรวจสันติบาล และได้เจริญในหน้าที่ราชการเรื่อยมา จนกระทั่งได้เป็น ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ, รองอธิบดีกรมตำรวจ และอธิบดีกรมตำรวจ เมื่อกลางปี พ.ศ. 2537 ก่อนจะเกษียณอายุราชการไปในที่สุด
หลังจากเกษียณแล้ว พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร (สว.กทม.) ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2543 โดย พล.ต.อ.ประทินได้เบอร์ 176 และได้รับเลือกตั้งมาเป็นลำดับ 5 ของกรุงเทพฯ ด้วยคะแนน 71,081
ในที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 เวลากลางวัน ระหว่างประชุมวุฒิสภา พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ได้ชกต่อยเข้าที่ใบหน้าของ นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เหตุเกิดที่อาคารรัฐสภา เนื่องจากสาเหตุที่นายอดุลย์ลุกจากที่นั่งเดินเข้ามาในระยะประชิด เพราะมีความเห็นขัดแย้งกัน กรณีการเผยแพร่เอกสารสมุดปกเหลือง เรื่อง "ความจริงที่ตากใบ" อันเป็นรายงานเกี่ยวกับความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ของทีมงานที่นำวุฒิสภากลุ่มหนึ่ง นำโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง การชกหน้าทำร้ายร่างกาย ของสมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน ในระหว่างที่มีการประชุมกัน ซึ่งได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียอย่างยิ่งของวงการการเมืองไทย
แต่ทว่า การกระทำในครั้งนี้ กลับได้รับการสนับสนุนจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทางช่อง 9 โดยให้เหตุผลว่า เป็นการทำไปเพราะถูกยั่วยุก่อน และได้ยกย่อง พล.ต.อ.ประทินว่าเป็น สว.ที่เป็นกลาง
ในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 พล.ต.อ.ประทิน ได้แสดงความรับผิดชอบจากกรณีดังกล่าวในขั้นต้น ด้วยการลาออกจากคณะกรรมการจริยธรรมของวุฒิสภา จากนั้นหลังจากที่เหตุการณ์ชกต่อยในวุฒิสภาผ่านมาได้ 1 ปี ในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ได้ประกาศลาออกจากสมาชิกภาพของ ส.ว. โดยให้เหตุผลว่า เพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเสียเงินค่าเลือกตั้งซ่อม จึงลาออกในช่วง 6 เดือนสุดท้าย ก่อนที่วุฒิสภาจะหมดอายุลง และไม่ต้องมีเลือกตั้งใหม่ ซึ่งในกรณีนี้ต่อมา ศาลได้ยกฟ้องพล.ต.อ.ประทิน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการป้องกันตัว เพราะคู่กรณีได้เดินเข้ามาหาก่อน[6]
จากนั้นในคืนวันที่ 13 มกราคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2549 พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ พร้อมด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.), ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.คณิน บุญสุวรรณ, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายการุณ ใสงาม, นายสมาน ศรีงาม และอีกหลายคนได้นำขบวนประชาชนที่มามาร่วมฟังรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร กว่า 2,000 คนเดินทางจากสวนลุมพินีมายังหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายสนธิ ได้กล่าวว่าที่นำมาประชาชนมายัง ณ ที่นี่ ก็เพราะต้องการมาเป็นเพื่อนของ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ที่ได้กล่าวไว้ก่อนเริ่มรายการ
หลังจากนั้นมา พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีกหลายครั้ง โดยมักขึ้นเวทีในรายการของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และได้แสดงความเห็นทางช่อง ASTV อีกหลายครั้งด้วย
ข้อมูลประวัติจาก wikipedia
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี