20 ก.พ.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งจะลงพื้นที่พบปะประชาชนครั้งแรกในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ว่า รัฐบาลต้องการเปิดช่องทางในการรับฟังความเห็นประชาชน โดยจะเปิดเว็บไซต์ไทยนิยม เพื่อจะได้ทราบความต้องการของประชาชน จะได้รู้ว่าที่ประชาชนบอกว่าเศรษฐกิจตกต่ำนั้น ตกต่ำอย่างไร โดยรับฟังความเห็นของแต่ละคนว่ามีความเดือนร้อนอย่างไร เช่น การประกอบอาชีพ รายได้ แต่ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำนั้นเป็นเรื่องยาก โดยต้องแก้ไขทั้งระบบ แต่รัฐบาลจะดูว่าชาวบ้านหากินไม่สะดวกเพราะอะไร เกิดจากการจัดระเบียบของรัฐบาลใช่หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด พร้อมกับทำ Big data เป็นฐานข้อมูลของหน่วยราชการ มาวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา ขอให้ทุกคนส่งข้อมูลเข้ามา แต่อย่าด่า เพราะการด่าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.พ.จะเป็นวันเริ่มต้นลงพื้นที่ขับเคลื่อนไทยนิยม โดยตนจะลงพื้นที่ จ.นครปฐม ซึ่งรัฐจะต้องเตรียมข้อมูลพื้นฐานในเรื่องพื้นที่ น้ำ แผนพัฒนาภาค กลุ่มจังหวัด และพัฒนาจังหวัดที่ได้วางแผนไว้แล้วในยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมกับถามถึงความต้องการของชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ โดยมุ่ง 1.สร้างความเข้าใจ 2.หาเมนูที่เหมาะสมแก่ชาวบ้าน ถ้าเขาคิดไม่ออก เราก็จะเสนอแนวทางที่เหมาะสมให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเปลี่ยนตัวเองทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งขึ้น สำหรับการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมฯ ระยะที่ 1 ทำอย่างไรจะให้ประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยต้องมีรายได้ที่มากกว่า 1 แสน ให้ไปถึง 3 แสนต่อปี ซึ่งแต่ละกลุ่มงานจะต้องเข้าไปดูปัญหา
"จะต้องไปดูว่าชาวบ้านลำบากตรงไหน ไม่ใช่จะพูดรวมๆแค่ว่ายังยากจน แล้วที่ผ่านมาเคยทำอะไรอย่างที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ โครงสร้างเหล่านี้ทำยาก ต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ด้วย การลงพื้นที่ผมเน้น 1.การสร้างความรับรู้ รับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนโดยตรง ทุกตำบล หมู่บ้าน ซึ่งชุดที่ลงไปนั้น จะต้องนำข้อมูลของรัฐบาลลงไปให้เขาเห็น เพราะบางครั้งเขายังไม่รับรู้ และยังไม่พัฒนาตัวเอง ดังนั้นเราจึงต้องเอาโครงการและงบประมาณลงไป แต่ต้องยั่งยืน ไม่ใช่ให้ทีเดียวแล้วเลิก ประชาชนไม่เข้มแข็ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 2.เน้นความโปร่งใส โดยทุกคนต้องช่วยกันดู เพราะมีหลายประเด็นต้องดูอย่างถี่ถ้วน ทั้งการจัดทำงบประมาณ เวทีประชาคม โดยต้องรับฟังมติคนส่วนใหญ่ว่าต้องการอะไร พร้อมกับดูแลคนส่วนน้อย อย่าให้มีการทุจริต หากพบการทุจริตในส่วนราชการจะต้องลงโทษ ซึ่งประชาชนต้องรักษาสิทธิ์ตัวเอง ตนจะไม่ยอมให้ส่วนราชการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทุจริตเป็นอันขาด เพราะนี่คืออนาคตของประเทศที่เรากำหนดเองได้ 3.เน้นการทำความดีร่วมกัน เพื่อประชาชนและประเทศชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.นครปฐม ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ จะเริ่มต้นพูดถึงโครงการไทยนิยมฯ จึงขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้เรียกว่าเป็นการเปิดโครงการฯ แต่ถือเป็นการพบปะชาวบ้านมากกว่า เพื่อเริ่มต้นให้ชุดต่างๆในคณะกรรมการไทยนิยมฯลงพื้นที่ โดยมีทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฯลฯ ซึ่งบางพื้นที่ที่ทำการเกษตรแล้วเกิดความเสียหาย จะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน โดยเสริมเรื่องอื่นเช่น การท่องเที่ยว กีฬา เป็นต้น
"ทำแบบนี้ยากกว่าการตั้งวงเงินแล้วให้ๆ การทำแบบนั้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรผิดไปหมด อยากให้สังคมช่วยคิดต่อด้วยว่าการหาเสียงเลือกตั้งต่อไปนี้ จะหาเสียงโดยเสนอวงเงิน ตัวเลข ราคาสินค้าเกษตร ควรจะทำหรือไม่ ผมว่ามันไม่น่าจะถูกต้อง มีอ้างว่าได้ราคาเท่านี้เท่าโน้นมันทำไม่ได้ เพราะในข้อเท็จจริงจะต้องใช้เงินรัฐไปอุดหนุน ที่ผ่านมาก็เสียหายหลายประการ อย่าให้มีอีกเลย วันนี้ก็อาจมีการเดินสายอยู่ข้างล่าง ว่าจะทำให้ข้าวราคาเท่านี้เท่าโน้น แล้วผมก็ต้องมาแก้แทบตาย จนหัวจะผุอยู่แล้ว เพราะการจะกำหนดราคาเอง เราต้องประเมินศักยภาพของเราด้วย หากยังขยายความขัดแย้งเช่นทุกวันนี้ คงไม่มีประเทศไหนฟังคนไทย ซึ่งจะส่งผลให้ศักยภาพของประเทศลดลง ต่อให้ไทยปลูกข้าวประเทศเดียวในโลก ถ้าต่างประเทศไม่ซื้อก็จบ อย่างไรก็ตาม การเดินทางไป จ.นครปฐม ผมจะไปดูหลายอย่าง เพื่อกลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้รายได้ของชาวบ้านดีขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี