ส่ง‘รมว.พลังงาน’ถกแกนนำ
รัฐบาลสั่งถอย
ม็อบต้านโรงไฟฟ้ายุติชุมนุม
ทำMOUถอนอีเอชไอเอ
ขีดเส้นศึกษาใหม่9เดือน
ม็อบต้านโรงไฟฟ้ายุติชุมนุม! หลังรมว.พลังงานตั้งโต๊ะเจรจาแกนนำ สรุปทำบันทึกข้อตกลง สั่งกฟผ.ถอนรายงานอีเอชไอเอ ไปศึกษาใหม่ภายใน 9 เดือน-ให้ก.พลังงาน
ทำแผนประเมินผลกระทบฯกระบี่-สงขลาเหมาะสร้างโรงไฟฟ้าหรือไม่ โดยใช้นักวิชาการที่เป็นกลาง ส่วนคดีความให้เลิกแล้วต่อกัน นายกฯขอบคุณม็อบยอมกลับ เผยรับข้อเสนอทั้งหมด แต่อย่าขยายความขัดแย้ง ออกมาสร้างความวุ่นวายอีก
เมื่อวันที่ 20กุมภารพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ปักหลักอยู่ด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินมานับสัปดาห์ว่า ผู้ชุมนุมยอมยุติการชุมนุม ไม่เคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันรัฐบาลตามนัดหมาย หลังนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาเจรจากับนายประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลฯ และกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 1 ชั่วโมง
โดยการเจรจาครั้งนี้ มีการเชิญแกนนำ พร้อมตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปหารือกับรมว.พลังงานในรถตู้ประมาณ 15 นาที ก่อนจะตกลงกันได้ และทั้งสองฝ่ายได้ทำ บันทึกข้อตกลงระหว่างรมว.พลังงาน และเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเล กระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก่อนยุติการชุมนุม
สำหรับบันทึกข้อตกลงระหว่างรมว.พลังงาน และเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเล กระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน มีสาระสำคัญคือ ให้ กฟผ.ถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ฉบับใหม่ออกภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันลงนาม และให้ กฟผ.ส่งหนังสือแจ้งการถอนรายงานไปยังเครือข่ายทราบ พร้อมกันนี้ให้กระทรวงพลังงานจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อศึกษาว่าพื้นที่จ.กระบี่ และอ.เทพา จ.สงขลา มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ ต้องจัดทำโดยนักวิชาการที่เป็นกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน
ในบันทึกดังกล่าวระบุด้วยว่า หากผลการศึกษาที่คาดว่าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสองพื้นที่ไม่เหมาะสม กฟผ.ต้องยุติการดำเนินการ นับตั้งแต่วันลงนาม โดยการจัดทำรายงานต้องเสร็จสิ้นภายใน 9 เดือน นับแต่วันลงนาม ทั้งนี้ หากผลการศึกษา SEA กระทบเชิงยุทธศาสตร์ บ่งชี้ว่าพื้นที่มีความเหมาะสมสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในขั้นตอนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ต้องทำโดยคนกลางที่ยอมรับร่วมกัน นอกจากนี้ ขอให้คดีความระหว่าง กฟผ. และเครือข่ายเลิกแล้วต่อกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ผู้ชุมนุมเก็บข้าวของ เดินทางกลับทันที หลังปักหลักชุมนุมต่อเนื่องมากว่า 1 สัปดาห์
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการชุมนุมของเครือข่ายไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการก่อสร้างว่า หลังพูดกันแล้ว ตนขอให้เขายุติการชุมนุมและเดินทางกลับแล้ว เขาขอร้องให้ตนทบทวน ตนก็ทำให้โดยรับข้อเสนอทั้งหมด ยกเลิกรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)ฉบับเดิม แล้วให้นักวิชาการที่เป็นกลาง เป็นที่ยอมรับจากคนในพื้นที่ไปศึกษาอีไอเอฉบับใหม่ และมอบให้รมว.พลังงานไปชี้แจงทำความเข้าใจ ขออย่าขยายความขัดแย้งอีก
นายกฯกล่าวต่อว่า แต่ยังมีประเด็นสำคัญคือ ทำอย่างไรที่จะเพิ่มปริมาณไฟฟ้าในภาคใต้ ป้องกันการขาดแคลนในอนาคต ทำอย่างไรไม่ให้ค่าไฟฟ้าทั้งประเทศเพิ่มขึ้น ขอให้ทุกคนเข้าใจวิธีการนี้ด้วย ส่วนที่มีการฟ้องร้องกันนั้น รัฐบาลรับจะดูแลให้ทั้งหมด
“ผมฝากไปถึงกรณีกลุ่มอื่นๆที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า ขอให้ฟังเหตุผลกัน สิ่งใดที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน ไม่อยากให้ออกมาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองอีก รัฐบาลรับทุกเรื่องอยู่แล้ว กฎหมายมีอยู่หลายฉบับ ต้องไปดูว่าศาลปกครองคุ้มครอง 2-3 เรื่อง ถ้าอะไรอยู่นอกเหนือจากเรื่องที่ศาลฯคุ้มครอง หรือผิดกฎหมายอื่นๆ ก็ถือว่าผิดทั้งหมด ผมไม่ได้ขู่ แต่อยากให้เข้าใจว่าสิ่งไหนที่ศาลให้คุ้มครอง ไม่ใช่ว่าได้รับการคุ้มครองแล้วจะทำอะไรก็ได้ ผมไม่อยากให้บ้านเมืองเสียหาย” นายกฯกล่าว
วันเดียวกัน ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก มีการไต่สวนคำร้องหมายเลขดำ ชส.2/2561 ที่ พ.ต.ต.อรรถวิท เรืองโภควิทย์ พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้อง เรื่อง ขอให้เลิกการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 กรณีผู้ชุมนุมคัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ – เทพา จ.สงขลา รวมตัวชุมนุมบนทางเดินเท้าใกล้สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สร้างความลำบากในการสัญจรไปมาของประชาชน โดยพ.ต.ต.อรรถวิท ผู้ร้องและฝ่ายผู้ชุมนุม ผู้ถูกร้องนำพยานขึ้นไต่สวนเพียงฝ่ายละ 1 ปาก ภายหลังสอบพยานแต่ละฝ่ายแล้ว ศาลมีคำสั่งว่า การชุมนุมสาธารณะบริเวณ ถ.ราชดำเนิน ใกล้ยูเอ็น มิได้เป็นการขัดขวางเจ้าหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ แม้ประชาชนอาจได้รับความไม่สะดวกบ้าง แต่ไม่เดือดร้อนเกินเหตุอันควร อีกทั้ง ผู้จัดการชุมนุมดูแลการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกคำร้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี