"บิ๊กตู่"คิกออฟไทยนิยม ยั่งยืน นครปฐม ก่อนปูพรมลงครบทุกหมู่บ้านทั่วประเทศขณะที่ชาวบ้านมอบสมเด็จวัดระฆังให้ พร้อมขอปชช.ใจเย็นเรื่องเลือกตั้ง ย้ำคำเดิมว่าตามขั้นตอนกฎหมาย ขออย่าเอาพืชเกษตรโยงการเมือง อ้อนไม่ได้มาให้รัก หวังผลการเมือง มาขอแก้ปัญหา ฝากเลือกตั้งให้เลือกรบ.ของปวงชน ไม่ใช่รบ.ของคนใดคนหนึ่ง
21 ก.พ.61 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ พล.ม.2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครปฐม และเป็นการลงพื้นที่ทำกิจกรรมโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เป็นครั้งแรก โดยไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ที่โรงแรมแหลมบัววิทยา จากนั้น นายกฯ เดินทางด้วยรถโฟล์คตู้ อัลพาร์ท สีดำทะเบียน กบ 3444 นครปฐม ไปยังศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.แหลมบัว) หมู่ที่ 8 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พบปะกลุ่มเกษตรกรและประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อนายกฯเดินทางมาถึงได้เดินทักทายกลุ่มชาวบ้าน โดยมี อาสาสมัครหมู่บ้าน (อส.) คนหนึ่งมอบพระเครื่องสมเด็จวัดระฆัง(จำลอง) เป็นที่ระลึกให้กับนายกฯ ขณะที่นายกฯ ได้กล่าวย้ำขอให้ชาวบ้านได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อถึงเวลา และที่มาวันนี้ ก็เพื่อมารับฟังปัญหาและรัฐบาลพร้อมที่จะแก้ไขให้ทุกอย่างขอเพียงอย่างเดียวอย่าว่าต้องช่วยกันทำเพราะรัฐบาลไม่มีเงินอุดหนุนเหมือนในอดีต
"วันนี้รัฐบาลสู้กับความยากจนและสิ่งไม่ดี ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งขอให้เลือกให้ดี"
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลนี้ทำให้เกิดความเท่าเทียมไม่ว่ายากดีมีจน ต้องเข้าถึงการหารายได้ด้วยกฎหมาย ออกมาหลายฉบับเพื่อช่วยคนจน เราต้องวางกลไกต่อไปให้เรียบร้อย ไม่ใช่อะไรก็เรียกร้องไปเรื่อยๆ แล้วมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง รัฐบาลไหนก็ตามที่เอาเงินมาใช้แบบนี้จะเป็นภาระประเทศในวันหน้า ซึ่ง 3-4 ปีที่ผ่านมา อย่างเรื่องข้าวรัฐบาลก็ปลดล็อกไปหลายเรื่องแล้ว ไม่เช่นนั้นมีข้าวในสต็อกมากเกินไป ข้าวไม่มีทางราคาดี การปลูกข้าวใหม่ที่ราคาแย่ ตนกำลังให้ตรวจสอบที่มีเรื่องของความชื้น โรงสีมีการหักราคาความชื้นเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่
"วันนี้เห็นแววตาทุกคน สิ่งที่ทุกคนมารักผมมากดดันผม ไม่ใช่หวังผลการเมืองว่าดีใจมีคนมารับ ปรบไม้ปรบมือ แต่สะท้อนให้เห็นว่า เรายังต้องการความหวังในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน จากวันนี้เป็นต้นไป คณะทำงานไทยนิยม ยั่งยืน จะลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน 7 พันกว่าชุด เพื่อสอบถามความต้องการและแก้ปัญหาประชาชนให้ตรงจุด ต้องเข้าใจสถานการณ์บ้านเรา เพราะฉะนั้น เรื่องการเลือกตั้ง เดี๋ยวก็ว่ากันไปตามกฎหมายตามขั้นตอน สิ่งสำคัญวันนี้จะได้รัฐบาลที่เป็นของปวงชนชาวไทยถ้าเลือกรัฐบาลที่เป็นของใครของมันจะเป็นปัญหาแบบเดิมก็ดีกันอีก ต้องเลือกรัฐบาลที่ดูแลคนทั้งประเทศ ส.ส.ส่งความต้องการขึ้นไป รัฐบาลก็ดูว่าตรงไหนควรจะทำไม่ใช่หว่านไปเรื่อย แล้วเมื่อไหร่จะพอ ซึ่งวันนี้ก็ยังเข้มแข็งไม่พอ แสดงว่าต้องบริหารใหม่ ใจเย็นๆได้ไหม" นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่มาดูเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ทำการเกษตรให้ดีขึ้น เพิ่มรายได้ วันนี้รัฐบาลเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษหรืออีอีซี หาเงินภาษีมารวมเป็นกองกลางของรัฐบาลเพื่อเพิ่มสิ่งเหล่านี้ แต่ขณะนี้ยังเพิ่มไม่ได้มาก และจะเป็นปัญหางบประมาณประเทศและจะล่มกันทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้พืชการเกษตรเป็นพืชการเมืองทั้งหมด รัฐบาลจะร้องแก้ไขตรงนี้ ตนไม่อยากให้นำเรื่องการเกษตรมาเกี่ยวข้องกับการเมือง และอยากให้ทุกคนสนใจเรื่องข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง อย่าสนใจแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น อยากรู้ว่าเจ้าของหวย 30 ล้านคือใคร ทั้งนี้รัฐบาลได้ให้คณะทำงานรวบรวมข้อที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ทั้งการลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต ใครมีปัญหาขอให้แจ้งเข้ามา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนมาวันนี้เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้มาให้ท่านรัก แต่จะแก้ไขปัญหาได้มาน้อยเพียงใดก็ต้องใช้เวลาดำเนินการ และตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยจะดูแลเกษตรกรทุกกลุ่ม แต่ขอให้เห็นใจกันบ้าง เพราะประเทศไทยมีกว่า 74,000 หมู่บ้าน ซึ่งมีความเดือดร้อนเหมือนกันหมด ถามว่ารัฐบาลที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาอะไรหรือไม่ ซึ่งไม่เคยมีใครแก้ไขอะไรเลย เพราะการแก้ปัญหาเหล่านี้ทำยาก แต่จะต้องทำ หากไม่ทำปัญหาจะพอกพูน ทำให้ประเทศล้ม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นทาง
"วันนี้เราจะรับทุกเรื่องต้องดูแล 74,000 หมู่บ้าน ไทยนิยมคือคนไทยทุกคนนิยมในการทำความดี เพื่อส่วนรวมและเพื่อคนอื่น ตนก็ใช้หลักการของตนคือไทยนิยมตนไม่ใช่นักการเมือง ตนเป็นทหาร เป็นนักการทหารเก่า แต่ตนเข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชน เพราะอยู่กับท่านมาตั้งแต่เด็กรวมถึงรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนช่วยกันจัดระเบียบกลุ่มของตัวเองให้ได้ มีใครเคยมาพูดแบบนี้หรือไม่"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงพบปะประชาชนตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า "สัญญาได้หรือไม่ว่าจากนี้จะช่วยกัน ถ้าสัญญาก็ขอให้ยกมือขึ้น" โดยประชาชนได้ยกมือขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวตอบว่า "ไอเลิฟยู" จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวทักทายลูกน้องเก่าที่มาต้อนรับด้วย โดยบอกว่า "ลูกน้องคนนี้อยู่กับผมมาตั้งแต่เป็นร้อยตรี"
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายมีประชาชนนำดอกกุหลาบมามอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะรับดอกกุหลาบไว้ โดยนำไปแจกให้ประชาชนคนอื่นแทน พร้อมกล่าวว่า "เมื่อก่อนดอกกุหลาบนี่คุ้นๆ แต่อย่าเอามาให้ผมเลย มาเจอผมเอาดอกไม้ข้างทางมาให้ก็ได้ เพราะผมมาด้วยใจ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ เกษตรกร จ.นครปฐมส่วนใหญ่ร้องขอให้นายกฯช่วยเรื่องของราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งราคาข้าว กข.43 มะพร้าวน้ำหอมสามพราน ผักปลอดสารพิษโดยการปลูกในมุ้ง ปลาสวยงาม กุ้งอินเดีย โดยในส่วนของมะพร้าวสามพรานที่ปลูก 400 ไร่ นายกฯแนะนำว่า ต้องไปดูว่าจะเอามะพร้าวน้ำหอมไปทำอะไรได้อีก ไม่อย่างนั้นก็ต้องเอาไปทำอย่างอื่น ตื่นเช้ามาเอาน้ำมะพร้าวน้ำหอมล้างหน้า ทั้งนี้ทันทีที่นายกฯพูดจบทำเกษตรกรหัวเราะ และนายกฯได้กล่าวว่า มีประโยชน์นะ น้ำมะพร้าวน้ำหอมดีกว่ากินเกลือแร่ขวดด้วย โฆษณาให้แล้วช่วยกินเยอะๆ แต่อย่าขายแพงมากนะ เดี๋ยวให้กระทรวงพาณิชย์รับเรื่องไปให้คำนึงถึงความต้องการตลาดเพื่อเป็ภูมิคุ้มกัน เมื่อดีค่อยขยายราคาจะได้ไม่ตก แต่เมื่อขยายไปแล้วทุกคนเฮมาปลูกมะพร้าวราคาก็ตกไม่มีอะไรดีขึ้น ต้องมีหลักคิดใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี