รัฐอ่อยเหยื่อ-สยบการเมือง
ปลดล็อกมิ.ย.
เปิดทางจัดเลือกตั้งท้องถิ่น
บิ๊กป้อมชิ่งแจงปมถูกจี้ไขก๊อก
องค์กรต้านโกงจวกบิ๊กตู่อุ้มพี่
สะท้อนมาตรฐานจริยธรรมต่ำ
“สมชัย” เผยกกต.เห็นชอบร่างกม.เลือกตั้งท้องถิ่น เสนอครม. 28 กุมภาพันธ์ คาด“กาบัตร”สิงหาคม “วิษณุ”ปัดไม่รู้กาบัตรสนามเล็กวันไหน แต่ยืนยันมิถุนายน’61 มีปลดล็อกแน่นอน “บิ๊กตู่” หอบคณะเยือนนครปฐมปัดหาเสียง ลั่นถ้าคิดถึงให้ดู“ต้นจัน”โครงการไทยนิยมต้องไม่มีทุจริต “บิ๊กป้อม” ชิ่งหนีสื่อ ไม่ตอบปม
“ต่อตระกูล” จี้ไขก๊อกพ้น’คตช.’เซ่นนาฬิกา ‘มานะ’ เตือนเฉยเสียแรงหนุน
เมื่อวันที่ 21กุมภาพันธ์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงาน กกต.ได้นำเสนอร่าง พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3,847คนและนำมาปรับปรุงเป็นร่างล่าสุด เพื่อเสนอขอความเห็นชอบ ต่อ กกต.ก่อนนำส่ง คณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้เห็นชอบเป็นกฎหมาย เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเร็ว คาดว่า จะนำส่ง ครม.ได้ภายในวันที่ 28กุมภาพันธ์นี้
‘สมชัย’เปิดเนื้อหาเลือกตั้งท้องถิ่น
นายสมชัย เปิดเผยด้วยว่า ความน่าสนใจของกฎหมายฉบับดังกล่าว กำหนดให้วาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารและสภาท้องท้องถิ่น เริ่มต้นและสิ้นสุดพร้อมกัน ดังนั้นการเลือกผู้บริหารและสภาท้องถิ่น จะกระทำในวันเดียวกัน ไม่เกิดภาวะเหลื่อมล้ำ พอลงผู้บริหารไม่ได้ ก็มาลงสภาท้องถิ่นและประชาชนก็สะดวก สามารถใช้สิทธิ์พร้อมกันคราวเดียว การกำหนดให้กรณีมีการลาออกก่อนครบวาระ ห้ามทำกิจกรรมที่นำไปสู่การหาเสียง ใช้งบประมาณของท้องถิ่น สร้างความได้เปรียบต่อคู่แข่งย้อนหลังไป 90วัน ก่อนการลาออก ยกเว้นกรณีบรรเทาทุกข์จากภัยธรรมชาติ ดังนั้นลูกเล่นลาออกก่อนครบวาระและพาหัวคะแนนไปเที่ยว พาแม่บ้านไปทัศนศึกษา เที่ยวฟรีมีตังค์ทอน ไม่สามารถทำได้อีก ส่วนรูปแบบหาเสียง คล้ายคลึงกับเลือกตั้ง สส.คือ ต้องจัดทำป้ายในขนาดและจำนวนและติดไว้ในสถานที่ที่ กกต.กำหนดเ โปสเตอร์ขาจร คัทเอาท์ขนาดใหญ่จะไม่มีให้เห็นและห้ามใช้มหรสพหาเสียง
คาดกาบัตรสนามเล็กสิงหาคม61
นายสมชัย ยังคาดว่า เมื่อเสนอกฎหมานดังกล่าวต่อ ครม.แล้ว ครม.คงใช้เวลาประมาณ 1เดือนในการตรวจสอบความถูกต้องสอดคล้องกับร่างของกฤษฎีกาและของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและน่าจะเสนอเข้า สนช.ได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม โดย สนช.จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 60วัน ขั้นตอนการทูลเกล้าฯประมาณ 30วัน ซึ่งเร็วที่สุดที่กฎหมายประกาศใช้ได้ คือ ปลายมิถุนายน2561 หลังจากนั้นหากรัฐบาลเห็นชอบว่า พื้นที่ใดควรมีการเลือกตั้ง กกต.จะใช้เวลาประมาณ 45วัน ในการดำเนินการ ซึ่งเป็นไปได้ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นชุดแรก จะเกิดขึ้นประมาณกลางเดือนสิงหาคม2561
‘วิษณุ’ไม่รู้เลือกตั้งท้องถิ่นวันไหน
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะกกต.นัดไว้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทุกอย่างยังเป็นไปตามที่พูดไว้ พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ประเมินว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นน่าจะเกิดขึ้นได้ราวๆ เดือนสิงหาคม นี้ แต่ยอมรับว่า ภายในปีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น
‘การประเมินใครก็ทำได้ตามประสบการณ์ แต่ผมไม่มีประสบการณ์ ตอบไม่ถูก ยังไม่ได้เข้าสภาฯ ไม่รู้จะนับหนึ่งอย่างไร แต่เมื่อกฎหมายประกาศใช้ กระทรวงมหาดไทยขอเวลา 45วันเท่านั้น วันที่ 46 ก็เลือกตั้งได้ ซึ่งอยู่ที่นโยบายจะให้เลือกตั้งท้องถิ่นประเภทใดก่อน เพราะมี อบจ.76แห่ง อบต.และเทศบาล อีกหลายพันแห่ง ฉะนั้นต้องเลือกเอา เมื่อนโยบายชัด จึงจะจัดเลือกตั้งได้ จึงยังตอบไม่ได้ว่า จะเลือกตั้งเดือนสิงหาคม หรือกันยายน แต่น่าเป็นไปได้ว่า ในปีนี้จะมีเลือกตั้งท้องถิ่น” นายวิษณุ กล่าว
ที่แน่นอน’ปลดล็อค’มิถุนายน61
เมื่อถามว่า ต้องปลดล็อกคำสั่ง คสช.ทั้ง 2ฉบับ ก่อนจะเลือกตั้งท้องถิ่นใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า แน่นอน ประมาณเดือนมิถุนายน น่าจะปลดล็อกได้แล้ว ส่วนความพร้อมการจัดเลือกตั้ง กระทรวงมหาดไทยจะหารือกับ กกต.ต่อไป
‘บิ๊กตู่’นำ’ครม.’เยือนนครปฐม
วันเดียวกัน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย.นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ จ.นครปฐม เพื่อติดตามงานนโยบายของรัฐ โดยนายกฯได้พบปะชาวบ้านและเกษตรกร ที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรแหลมบัว อ.นครชัยศรี
ปัดมาหาเสียง-คิดถึงให้ดู’ต้นจัน’
โอกาสนี้ นายกฯได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มารอต้อนรับว่า การลงพื้นที่ไม่ได้หวังผลทางการเมือง เพราะไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นทหารเก่า เข้าใจหัวอกประชาชนและเข้าใจว่า ทุกคนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งนับจากวันนี้จะมีคณะทำงานตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนลงพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหา พร้อมให้คำแนะนำแนวทางแก้ปัญหา ส่วนการเลือกตั้ง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ต้องให้ได้รัฐบาลของประชาชน ก่อนเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯได้ปลูกต้นจัน ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จ.นครปฐม โดยระหว่างปลูกต้นไม้ มีประชาชนตะโกนว่า “รักนายกฯ อยากให้เป็นนายกฯนานๆ” ซึ่งนายกฯได้กล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่า“ผมไม่ใช่นักการเมือง แต่ถ้าประชาชนนึงถึง ก็ขอให้มาดูที่ต้นจันต้นนี้ เพราะเป็นต้นจัน คล้ายกับนามสกุลจันทร์โอชา” และได้ชูมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้กับประชาชน
‘We walk’ไร้ประโยชน์-คุยรบ.ดีกว่า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า โครงการไทยนิยมยั่งยืน หมายถึง คนไทยนิยมการสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ซึ่งโครงการไทยนิยมนี้ จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริต ทุกบาททุกสตางค์จะต้องไม่รั่วไหล หากพบมีการทุจริตขอให้แจ้งนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการให้ และ ขออย่าให้ใครมาบิดเบือนว่าจะทำอะไรให้อีก ส่วนเรื่องประชาธิปไตยต้องเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืน เป็นสากล เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ทุกคนก็ต้องไป ต้องเลือกให้ดี เพราะเมื่อรวมคะแนนแล้ว อาจส่งผลต่อการมีรัฐบาลต่อไป เพื่อให้ได้รัฐบาลที่ดีเป็นของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขณะที่ประชาธิปไตยไม่ใช่การมาเดินประท้วง อย่างกรณีกลุ่ม We Walk ทำนั้นไม่เกิดประโยชน์ แต่เขาควรหันหน้าหารัฐบาลมาให้ข้อมูลจะดีกว่า
จากนั้น นายกฯเดินทางไปยังที่ดินพระราชทาน บ้านศาลาดิน หมู่3 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล เพื่อเยี่ยมชมแปลงนาบัวลุงแจ่ม สวัสดิ์โต ซึ่งเป็นการปฏิรูปที่ดินตามแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ให้กับเกษตรกร เมื่อปีพ.ศ.2518 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย จากนั้น ได้รับฟังการนำเสนอสภาพปัญหาของชุมชนบ้านศาลาดินและการรวมกลุ่มจัดการปัญหา พร้อมเยี่ยมชมตลาดน้ำบ้านศาลาดิน
‘กฤษฎา’โยนกล้าข้าวถูกหัวนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ เยี่ยมชมบูธต่างๆ ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคน ได้ส่งตะโกนเชียร์ให้นายกฯอยู่ต่ออีก 20ปี โดยนายกฯ ได้กล่าวทันทีว่า เอาไว้เชียร์เป็นการส่วนตัว เดี๋ยวคนด่าอีก จากนั้นนายกฯ ได้ไปโยนต้นกล้าข้าวนาโยน เป็นที่ระลึกในการตรวจเยี่ยม ปรากฏว่า ช่วงหนึ่ง นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ได้ทดลองโยนกล้าข้าว แต่เนื่องจากโยนไม่เป็นและลมพัดแรง ทำให้กล้าข้าวปลิวกลับมาหล่นใส่ศรีษะนายกฯ และตนเอง ทำให้เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากคนที่ได้หันไปเห็น
ด้าน นายกฤษฏา ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์โยนต้นกล้าข้าว เกิดหลุดมือไปใส่ศีรษะนายกรัฐมนตรี ว่าช่วงนั้นมีลมพัดมาพอดี ตนได้ขอโทษท่านนายกฯแล้ว และเรื่องอย่างนี้สื่อก็ยังเอาไปเป็นข่าวกันได้ ซึ่งนายกฤษฏา ยังพูดติดตลกว่าไม่รู้จะโดนหักเงินหรือเปล่า
จากนั้นนายกฯได้ลงเรือพายชื่นชมนาบัวด้วยตัวเอง โดยบอกว่า ไม่ต้องมีใครมาพายให้ พายเองได้ บ้านติดคลองเคยพายมาก่อน ขณะเดียวกัน ได้ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สอบถามเรียนรู้วิธีการปลูกบัว เพื่อนำไปปลูกที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะไปเยี่ยมชมตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้และพบประชาชนที่เวทีประชาคมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนระดับตำบล
โครงการ’ไทยนิยม’ต้องไม่มีทุจริต
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า จะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า รัฐบาลจะให้ทุกคนทุกครัวเรือนไม่ได้ วันนี้ประชาชนต้องช่วยตัวเอง อย่าให้เขามาบิดเบือนว่า จะให้ราคาข้าวเท่านั้นเท่านี้ เพราะจะยิ่งทำให้ราคาข้าวตก การดำเนินโครงการไทยนิยมต้องไม่เกิดการทุจริตทุกบาททุกสตางค์ ถ้าโครงการไทยนิยมยั่งยืน ครั้งหนึ่งเดินหน้าไปได้ ต่อไปก็ต้องมี สอง สาม สี่ ส่วนเรื่องประชาธิปไตยไทย จะต้องเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนเป็นสากล ถึงเวลาเลือกตั้งก็ต้องไป
‘บิ๊กป้อม’ปิดปาก’ต่อตระกูล’จี้ออก
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า ช่วงเช้าวันที่ 21กุมภาพันธ์ มีภารกิจต้อนรับ นายวัลแตมาร์ ดูบายอฟสกี เอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทยและนายลง วิซาโล เอกอัครราชทูต ราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาเข้าพบเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ที่กระทรวงกลาโหม โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามพล.อ.ประวิตร ถึงกรณีที่ นายต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการป้องกันการทุจริต ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คตช.เพื่อขอให้พิจารณาให้ พล.อ.ประวิตร ออกจากตำแหน่งกรรมการคตช. หลังมีประเด็นนาฬิกาหรู อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยมีสีหน้ายิ้มและพยายามเดินเลี่ยงใช้บันไดแทนลิฟท์ขึ้นห้องทำงานในกระทรวงกลาโหม หลังเห็นสื่อมวลชนยืนรอสัมภาษณ์บริเวณหน้าลิฟท์ เพราะโดยปกติแล้ว พล.อ.ประวิตร จะขึ้นลงห้องทำงานโดยลิฟท์
‘มานะ’ชี้มองข้ามจะเสียแนวร่วม
นายมานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นและกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กล่าวถึงกรณี นายต่อตระกูล แสดงความกังวลบทบาทของ คตช. กรณีปัญหานาฬิกาหรูและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร ว่า ความเห็นของ นายต่อตระกูล เป็นความเห็นที่ควรรับฟัง เพราะนายต่อตระกูล ตั้งใจแก้ปัญหาคอรัปชั่นและสนับสนุนรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอด จึงไม่มีข้อสงสัยว่าการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีนัยอะไร หาก พล.อ.พระยุทธ์ ไม่ใส่ใจข้อคิดเห็นดังกล่าวจะเสียแรงสนับสนุนและที่นายกฯระบุรอให้กระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นก่อนนั้น ต้องใช้เวลานานถึงเวลานั้นประชาชนจะเสื่อมศรัทธาว่า ผู้นำจะเอาจริงในเรื่องนี้หรือไม่ เรามีระเบียบจริยธรรมนักการเมืองและข้าราชการอยู่ นักการเมืองต้องมีมาตรฐานจริยธรรมที่สูงว่าคนทั่วไป ต้องวางตัวให้ประชาชนศรัทธา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี