เริ่มนับถอยหลังเลือกตั้ง! สนช.โหวตเสียงท่วมท้น ไฟเขียวร่าง พรป.เลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ส่อแววไม่มีใครยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะคนค้านมีไม่ถึง 25 เสียง ขณะที่ ก.ก.ต. ยืนยันไม่มีอะไรติดใจ ด้าน “มาร์ค” ประกาศชัดจุดยืนต่างจาก “เทพเทือก” แบไต๋ไม่หนุน “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ ยันอดีต ส.ส.ปชป. ยังเหนียว มีแค่ “ธานี” คนเดียวที่ลาออก
วันที่ 8 มีนาคม ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช.) โดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัยรองประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย พิจารณาเสร็จแล้ว
ถก“พรป.สส.”กมธ.ตัดสิทธิแหลกไม่เลือกตั้ง
โดย นายวิทยา ผิวผ่อง ประธาน กมธ. รายงานสรุปว่า กมธ.ได้แก้ไขใน 8 มาตรา อาทิ ไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส. จัดมหรสพในช่วงเลือกตั้ง และยังยืนยันให้ตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งลงสมัครกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สส. และสว. รวมทั้งห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองและผู้บริหารท้องถิ่น เป็นเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ไม่ไปใช้สิทธิ์
สนช.โหวตผ่านฉลุย211ต่อ0ไม่โหวต7
ทั้งนี้สมาชิก สนช. มีการอภิปรายซักถามตั้งข้อสังเกตกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นการตัดสิทธิบางประการของผู้ไม่ไปเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้ว สนช. ได้ลงมติผ่านความเห็นชอบร่าง พรป.สส. ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 211 ต่อ 0 งดออกเสียง 7
ปรับแก้ร่างพรป.สว.4ประเด็น
จากนั้นเวลา 12.30 น. ที่ประชุมจึงได้พิจารณาร่าง พรป.การได้มาซึ่ง ส.ว. ตามที่ กมธ.ร่วมพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการแก้ไข 4 ประเด็น คือ 1.ลดจำนวนกลุ่มการสมัครจาก 20 กลุ่ม เหลือ 10 กลุ่ม โดยปรับแก้เป็นบทหลักมี 20 กลุ่ม ส่วนบทเฉพาะกาล ให้มี 10 กลุ่ม 2.แบ่งผู้สมัครแต่ละกลุ่มออกเป็น 2 ประเภท คือ อิสระและการเสนอชื่อโดยองค์กร แก้เป็นบทหลัก รับสมัครแบบอิสระอย่างเดียว ส่วนบทเฉพาะกาล ให้รับสมัคร 2ประเภท คือ อิสระและการเสนอชื่อโดยองค์กร 3.วิธีการเลือกตรงและการเลือกไขว้ ปรับแก้เป็น ในบทหลักให้ใช้การเลือกตั้งและการเลือกไขว้ ส่วนบทเฉพาะกาล ให้ใช้การเลือกตรงเพียงอย่างเดียว และ 4.ปรับแก้ให้ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ผ่านฉลุย202ต่อ1ไม่ลงมติ13คน
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานกม.ร่วม ชี้แจงว่า การกำหนดให้บทหลักต่างจากบทเฉพาะกาลไม่ได้มีปัญหา ในรัฐธรรมนูญก็มีอยู่หลายเรื่อง เช่น ในส่วนของสว.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวน อำนาจหน้าที่ และวิธีการเลือก ที่หลายฝ่ายติดใจการแบ่งวิธีสมัครสว.เป็น 2 วิธีนั้น จึงไม่เป็นปัญหา เชื่อว่า การเลือกสว.2 แบบนี้จะทำให้ได้ สว.ที่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม หลังใช้เวลาอภิปรายกว่า 1ชั่วโมง ที่ประชุม สนช.มีมติเห็นชอบด้วยคะแนน202 ต่อ 1 งดออกเสียง13 ก่อนส่งให้นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯก่อนบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ค้านไม่ถึง25เสียงไม่น่าส่งศาลตีความ
ด้าน พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สนช. เปิดเผยภายหลังที่ประชุม สนช. มีมติผ่านร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้กังวลว่า อาจขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และนำไปสู่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า เท่าที่ดูภาพรวมการลงมติก็ผ่านไปได้ด้วยดี มีผู้ไม่เห็นด้วยไม่ถึง 25 เสียง จึงไม่แน่ใจว่าจะมีสมาชิกรวมตัวกันได้ 25คน เพื่อยื่นตีความได้หรือไม่ ขณะที่ สนช.ก็คุยกันแล้วว่า ไม่น่าจะขัดรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า หากกฎหมายบังคับใช้แล้ว ประชาชนไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความภายหลัง จะทำให้กระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต
‘สมชัย’ยันกกต.ไม่ติดใจตีความ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กล่าวถึงกรณีที่สนช.มีมติผ่านร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.ว่า กกต.ไม่ติดใจและจะไม่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากไม่มีผู้ใดยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความนายกฯต้องนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากมีผู้ยื่นให้ศาลตีความว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเร่งพิจารณาภายใน 1เดือน โดยไม่กระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง
แห่จองชื่อกับกกต.แล้ว50พรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันที่ 8มีนาคม เป็นวันที่ห้าของการเปิดให้กลุ่มการเมืองยื่นคำขอจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง โดยมีพรรคผึ้งหลวง ผู้ยื่นคำขอ คือ นายวิษณุ แผลงประพันธ์, พรรคประชารัฐยั่งยืน ผู้ยื่นคำขอ คือ นายปิยะนัฐ ประเสริฐนูและพรรคพลังสตรี ผู้ยื่นคำขอ น.ส.ณฐมน ฐิติชญานัน ทั้งนี้รวมยอด 5 วัน ปรากฏว่ามีกลุ่มที่ยื่นขอจองชื่อพรรคแล้ว 50พรรค โดย นายวิษณุ เปิดเผยว่า มีแนวคิดจะชูนโยบายบริหารจัดหางบประมาณเข้าประเทศ ยกระดับเกษตรกรสู่สากล เพราะพรรคมาจากเกษตรกรที่มาจากคนรากหญ้าเป็นส่วนใหญ่ โดยจะส่ง สส.ครบ 350เขต เน้นอีสานและภาคเหนือตอนกลางเป็นหลัก
‘มาร์ค’สวนทางเทือก-ปัดอุ้มบิ๊กตู่นายกฯ
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากกลุ่ม กปปส. เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการตั้งพรรคโดยใครหรือไม่ แต่ถ้าบอกว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตรงนี้คงเป็นจุดต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอุมดการณณ์เสนอบุคคลากรของพรรคเป็นทางเลือกของประชาชน
มีแค่‘ธานี’ออกจากพรรคคนเดียว
นายอภิสิทธิ์ ยังยืนยันว่า ตนไม่ได้สั่งเช็คชื่ออดีตสส.ภาคใต้ในวันที่ 9 มีนาคมนี้ แต่กฏหมายกำหนดวันที่ 1-30เมษายน สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคต่อไปถูกคำสั่ง คสช.ให้มายืนยันตัวตนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นภายในสิ้นเดือนเมษายนก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า มีใครมายืนยันสมาชิกบ้าง เท่าที่ตนทราบไม่มีใครจะลาออกจากพรรค ยกเว้นนายนายธานี เทือกสุบรรณ อดีต สส.สุราษฎร์ธานี ซึ่งบังเอิญ นายธานี พ้นสมาชิกพรรคตอนที่ไปบวช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี