ยิ่งสาวยิ่งเน่าโกงเงินคนจนป.ป.ท.แฉพบส่อทุจริตกว่าครึ่งประเทศแล้ววงเงินสูงเกือบ 100 ล้าน ตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯแล้ว 7 จังหวัด ด้านผู้ว่าฯนครพนมสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 30วัน ขณะที่ผอ.รร.-ผอ.ศูนย์ฯคนไร้ที่พึ่งยังล่องหนหลังปรากฏคลิปวิดีโอช่วยปกปิดข้อมูล
ความคืบหน้ากรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ตรวจสอบพบมีการทุจริตการเบิกจ่ายเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม โดยมีชาวบ้านผู้เสียหายจำนวน 564 ราย ที่มีการเบิกจ่ายเงินรวม 12 อำเภอหรือทั้งจังหวัด เป็นเงินกว่า 1.7 ล้านบาท แต่เกิดปัญหาเนื่องจากมีการจ่ายเงินไม่ครบตามความเป็นจริง ซึ่งทางป.ป.ท.ได้การรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินการเอาผิดผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังได้มีการนำหลักฐานคลิปวีดีโอและเสียงที่ชาวบ้านบันทึกเป็นหลักฐาน กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในต.หนองซน อ.นาทม จ.นครพนม ออกมาหารือชาวบ้าน เพื่อให้ช่วยปกปิดข้อมูล ให้ยืนยันว่ามีการรับเงินครบตามจำนวน อันเป็นหลักฐานสำคัญที่ทางป.ป.ท.จะได้นำไปประกอบการดำเนินคดีในฐานความผิดให้การสนับสนุนการทุจริตนั้น
ผอ.รร.-ผอ.ศูนย์ฯนครพนมล่องหน
เมื่อเช้าที่ผ่านมา ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแต่ แต่ไม่พบตัวผอ.โรงเรียนแต่อย่างใด
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครพนม ตั้งอยู่บ้านภูเขาทอง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนางสุคลธ์ ศรีสงคราม ผู้อำนวยการศูนย์ฯ แต่ไม่พบมีเพียงเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนที่ยังทำงานปกติ โดยให้ข้อมูลว่าผอ.ไม่อยู่ไปราชการที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม
ผอ.ยันไม่ได้โกงอ้างเข้าไปแก้ปัญหา
ขณะเดียวกันทางด้าน นายประสงค์ สุภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 2 นครพนม เปิดเผยว่า หลังมีข่าวกรณีชาวบ้านถ่ายคลิปพาดพิงผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ เบื้องต้นตนได้มีการพูดคุยสอบถามไปยังเจ้าตัวแล้ว ทราบว่าไม่มีเจตนาสนับสนุนโกงเงินคนจน แต่เป็นการพูดคุยหารือกับชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาเท่านั้น
เตรียมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตามตนจะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าเข้าข่ายความผิด จะมีการเอาผิดทางวินัยตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ จะดำเนินการตามขั้นตอน อย่างเร่งด่วน “ที่ผ่านมายืนยันว่าผู้บริหารโรงเรียนท่านนี้ ไม่เคยมีปัญหาในการทำงาน และเป็นโรงเรียนตัวอย่างด้วย จึงต้องรอผลการสืบข้อเท็จจริง”นายประสงค์กล่าว
ผู้ว่าฯเต้นสั่งสอบให้เสร็จใน30วัน
ล่าสุดนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม ได้เชิญผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ในพื้นที่จังหวัดนครพนม มาพูดคุยสอบถามในเบื้องต้นแล้ว และได้มีคำสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 643/2561 ลงวันที่ 12 มีนาคม 2561 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
พร้อมทั้งได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบว่าด้วยการสงเคราะห์และการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงพม.ให้ประชาชนทราบและเข้าใจอีกทางหนึ่งแล้วด้วย
ปปท.แถลงผลสอบโกงเงินคนจน
ขณะที่ พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการป.ป.ท.แถลงสรุปความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2560 ประเภทเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งว่า ปปท. ได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่ได้รับงบประมาณ จำนวน 76 ศูนย์ โดยกำหนดเป้าหมายสำหรับศูนย์ที่ได้รับงบประมาณสูงตั้งแต่ 1 ล้านบาท หรือที่ได้รับเบาะแสเป็นเป้าหมายเร่งด่วน จำนวน 37 จังหวัด
พบความปกติรวมแล้ว44จังหวัด
พ.ต.ท.วันนพ กล่าวว่า โดยจังหวัดที่ตรวจสอบพบความผิดปกติที่ผ่านมา จำนวน 24 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น เชียงใหม่ บึงกาฬ หนองคาย สุราษฎร์ธานี ตราด น่าน สระแก้ว อุดรธานี สระบุรี อยุธยา กระบี่ ตรัง ร้อยเอ็ด ยะลา พัทลุง ชุมพร สุรินทร์ อ่างทอง พิษณุโลก ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สงขลา นราธิวาส
นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังตรวจสอบพบความผิดปกติอีก 20 จังหวัด ประกอบด้วย มหาสารคาม ลำพูน นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี นครพนม กาฬสินธุ์ พิจิตร ราชบุรี มุกดาหาร ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี สตูล ลพบุรี หนองบัวลำภู นครปฐม
เน่ากว่าครึ่งประเทศ-เกือบร้อยล้าน
"สรุปเวลานี้เราตรวจสอบพบความผิดปกติ จำนวน 44 จังหวัด งบ 97,842,000 บาท คิดเป็นประมาณ 80% ของงบประมาณศูนย์ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้รับไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 7 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น เชียงใหม่ บึงกาฬ หนองคาย สุราษฎร์ธานี ตราด และน่าน อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท. รับไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง อีก 37 จังหวัด ประกอบด้วย สระแก้ว อุดรธานี สระบุรี อยุธยา กระบี่ ตรัง ร้อยเอ็ด ยะลา พัทลุง ชุมพร สุรินทร์ อ่างทอง พิษณุโลก ชัยภูมิ มหาสารคาม ลำพูน นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี นครพนม กาฬสินธุ์ พิจิตร ราชบุรี มุกดาหาร ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี สตูล ลพบุรี หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สงขลา นราธิวาส นครปฐม" พ.ต.ท.วันนพ กล่าว
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 32 จังหวัด งบประมาณ 25,317,000 บาท คิดเป็นประมาณ 20% ของงบประมาณศูนย์
เผย4พฤติกรรมการทุจริต
พ.ต.ท.วันนพ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์ทุจริตที่มีการตรวจสอบพบ ประกอบด้วย 1.มีการปลอมเอกสารทั้งหมด โดยผู้มีรายชื่อไม่ได้รับเงินเลย 2.ปลอมเอกสารบางส่วน ผู้มีรายชื่อไม่ได้รับเงินเลยหรือได้รับแค่บางส่วน 3.ผู้ได้รับเงินเป็นผู้ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับเงินสงเคราะห์ 4.มีการนำเงินมาให้ผู้มีรายชื่อในช่วงเวลาที่ทำการตรวจสอบ และมีการแจ้งให้ผู้มีรายชื่อว่าหากมีการตรวจสอบให้บอกว่าได้เงินเงินครบถ้วน ซึ่งได้มีการสอบถ้อยคำเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี