ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 มีนาคมว่า ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ถอดนายทหารสัญญาบัตร สังกัดกองทัพบก รวม 2 ราย ออกจากยศทหาร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติยศทหารพุทธศักราช 2479 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2501 ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดํารงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ.2507 ข้อ 2 และข้อ 4 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 ข้อ 7 (2) และ (4) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ.2548 ดังนี้
1.พันตรี ธีรเดช จันทร์แจ่มใย ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
2.ร้อยโท ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกในความผิดฐานมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ฐานมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ฐานเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทยและเหรียญจักรมาลา
ประกาศ ณ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2561 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระราชโองการ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในรายของ ร.ท.ธวัชชัย นั้น ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพวกซึ่งเป็นนายทหารอีก 2 คน ในคดีลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ลอบสังหาร นายทักษิณ ชินวัตร ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2549 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างสะพานข้ามแยกบางพลัด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนรถของ นายทักษิณ ต้องผ่าน ซึ่งพบวัตถุระเบิดแรงสูงซุกซ่อนอยู่ในรถและได้ขยายผลจับกุมทั้ง 3 คน ก่อนนำตัวส่งฟ้องต่อศาลทหารในเวลาต่อมา
โดยศาลทหารกรุงเทพได้พิพากษาจำเลยทั้ง 3 คน เฉพาะคดีครอบครองวัตถุระเบิดเป็นเวลา 6 ปี ปรับ 4,000 บาท แต่ ร.ท.ธวัชชัย ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือ 4 ปี 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท และให้ยกฟ้องในส่วนของคดีพยายามฆ่า นายทักษิณ ขณะที่ต่อมาในชั้นอุทธรณ์ ศาลทหารกลาง ได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด
แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ศาลทหารสูงสุด ได้พิพากษากลับให้จำคุก ร.ท.ธวัชชัย เป็นเวลา 4 ปี 6 เดือน และปรับ 3,000 บาท ในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ส่วนจำเลยอีก 2 คน ให้ยกฟ้อง ซึ่งถือเป็นการปิดฉากคดีคาร์บอมบ์ในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุคาร์บอมบ์พยายามฆ่า นายทักษิณ นั้น หลายฝ่ายมองว่าเป็นเพียงการ “จัดฉาก” วางระเบิดเพื่อเรียกคะแนนให้กับ นายทักษิณ ที่ขณะนั้นความนิยมกำลังดิ่งเหวลงอย่างหนัก เหตุที่เกิดขึ้นจึงป็นแค่เพียง “คาร์บ๊องส์” ลวงโลกเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี