19 มี.ค.61 นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมเชิญทุกพรรคการเมืองมาพูดคุยหารือถึงแนวนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ เพื่อขจัดความขัดแย้ง ว่า สิ่งที่ควรทำในเวลานี้ ควรปลดล็อกนักการเมือง ยกเลิกข้อห้ามชุมนุมทางการเมืองของประชาชน เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมการเมือง เพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยสัญญาไว้ว่าจะมีการเลือกตั้ง พ.ย.61
นายนพดล กล่าวว่า เมื่อปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรม พรรคสามารถนำเสนอนโยบายต่อประชาชนได้โดยตรง นโยบายเปรียบเป็นอาหารที่เตรียมนำมาเสิร์ฟ ให้ประชาชนจะได้เลือก อีกทั้งยังจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงนโยบายกันอย่างสร้างสรรค์ หน้าที่ คสช.คือควรทำให้เกิดความมั่นใจว่ากลไกลจัดการเลือกตั้งจะเดินไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม
"คสช.บริหารประเทศเกือบ 4 ปี น่าจะต้องรู้ ประเทศมีปัญหาตรงไหน ควรแก้อย่างไร ท่านมีหน้าที่ก็ทำไป แก้ให้ตรงจุดคือ คืนพื้นที่เสรีภาพให้ประชาชน ปลดล็อกพรรคการเมือง เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็น ตรวจสอบการทำงานรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลจะถูกเรียกไปปรับทัศนคติ" นายนพดล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการเชิญทุกพรรคการเมือง นอกจากรับทราบแนวทางพัฒนาประเทศแล้ว พล.อประยุทธ์ คงยังหาทางสลายขั้วความขัดแย้งด้วย นายนพดล กล่าวว่า ถ้าพูดถึงความขัดแย้ง การสร้างความปรองดองก็มีอยู่ในประกาศ คสช.ฉบับที่ 1 แต่จนถึงวันนี้เกือบ 4 ปี ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร สร้างความปรองดองทำได้เลย เพียงเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ละเว้นวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง และอย่าหวาดระแวงนักการเมือง พรรคการเมืองแล้วเดินหน้าทำตามโรดแมป ตรงนี้ถือเป็นการสร้างความปรองดองที่ตรงจุดที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี