"สมชัย"โปรดฟังอีกครั้ง!คสช.ทุกคนให้ปลดพ้นกกต. "บิ๊กป้อม"มั่นใจไม่กระทบการทำงาน ยืนยันไม่ได้แทรกแซงองค์กรอิสระ ด้าน"สมชัย"โผล่เก็บของน้อมรับคำสั่ง แต่ขอหลบเลียแผลใจกลับบ้านเก่าไปทำงานพี-เน็ตพร้อมกลับใหม่แบบจัดหนักกว่าเดิม เตรียมนัดเปิดใจวันศุกร์นี้ ขณะที่"วิษณุ"ชี้คุณสมบัติลุ้นเลขาฯกกต.ได้อยู่
เมื่อวัน 21 มีนาคม 2561 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ในมาตรา 44 ได้บอกในรายละเอียดไปหมดแล้ว ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช.ให้ไปอ่านในคำสั่ง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ แม้ว่า กกต.ทำหน้าที่เป็นองค์กรอิสระ และไม่ได้แทรกแซงองค์กรอิสระ
"พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการหารือกันในที่ประชุม คสช.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.แล้ว และทุกคนก็เห็นด้วย" พล.อ.ประวิตร กล่าว
"สมชัย"โผล่กกต.ขอเวลาเก็บของ3วัน
ทางด้านความเคลื่อนไหวของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเคลียร์งานและเก็บของ หลัง คสช.มีคำสั่งให้ยุติการทำหน้าที่ กกต.โดยให้สัมภาษณ์ว่า ขอที่จะมาเก็บมีจำนวนไม่มากเพราะได้ทยอยเก็บไปก่อหน้านี้แล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 2 - 3 วัน ในการเก็บของ และจะวันศุกร์น่าจะเป็นวันสุดท้าย
กลับไปบ้านเก่าเลียแผลใจที่พี-เน็ต
"เมื่อวานนี้หลังรับทราบคำสั่ง คสช.ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เพียงแต่อึดอัด เนื่องจากมีโทรศัพท์เข้ามาประมาณ 30 - 40 สาย ได้พยายามรับสาย แต่รับได้ไม่หมด ส่วนตัวไม่มีอะไรนอนหลับฝันดี ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะการเรียกร้องความยุติธรรม หลังจากนี้ ก็ยังทำงานทุกวันเพียงแต่ว่าจะไปทำงานที่ไหนเท่านั้นเอง ไม่ใช่ไม่มีที่แล้วจะว่างเปล่า บทบาทการตรวจสอบการเลือกตั้งก็จะทำต่อไป อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่าหลังจากพ้นการเป็น กกต.ก็จะไปทำงานที่พี-เน็ต" นายสมชัย กล่าว
ไม่มีตำแหน่งเตรียมจัดหนักกว่าเดิม
และหลังจากนี้การแสดงความคิดเห็นก็จะเต็มที่เหมือนเดิม และจะขยายขอบเขตได้มากขึ้น จากเดิมที่พูดแต่เรื่องของการเลือกตั้ง แต่เมื่อไม่มีตำแหน่งหน้าที่ การให้ความเห็นต่อสาธารณะก็จะพูดได้กว้างขวางมากขึ้น และยื่นยันว่าตนพ้นจากตำแหน่งก็ไม่กระทบต่อการทำงานของ กกต.เพราะมี 4 คนก็ทำงานได้ และ กกต.ทุกคนก็มีความรู้ความสามารถ เพราะฉะนั้นโรดแมปไม่เคลื่อนอยู่แล้วเพราะไม่มี กกต.สมชัย แต่มันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น
รู้สึกเป็นเกียรติลงข่าวหน้า1ทุกฉบับ
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีการโพสต์เฟชบุ๊กข้อความว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งทีได้เปิดหน้า คสช.นั้นเพราะตนรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ เพราะไม่เคยมีใครที่จะได้เป็นข่างลงหนังสือพมพ์หน้า 1 ทุกฉบับ และป็นข่าวยาวๆในสื่อฯ โทรทัศน์ และไม่มีใครที่สื่อจะให้ความสนใจมาก จึงถือว่าเป็นเกียรติ ส่วนหนึ่งเพราะได้แสดงบทบาทอย่างเต็มที่
วันศุกร์บ่ายสามเตรียมเปิดใจอีกครั้ง
"ไม่กลัวว่าจะถูก คสช.เพ่งเล็งในการแสดงความเห็น เพราะรู้ตัวว่าพูดอะไร ไม่เคยพูดสิ่งที่เป็นเท็จ หยาบคาย ปลุกระดม นำเสนอแต่ข้อเท็จจริง ผมน้อมรับคำสั่ง และไม่วิจารณ์ วันนี้จึงมาเก็บของอย่างเดียว" นายสมชัย กล่าวและว่า หลังเก็บของเสร็จในวันศุกร์เวลา 15.00 น.จะเปิดใจอีกครั้ง ขณะนี้ขอเวลาไปเรียบเรียงเรื่องต่างๆให้แล้วเสร็จแล้วจะมาบอกให้ฟัง
บก.ลายจุดชวนเข้าสังกัดพรรคเกรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายสมชัย ได้เดินทางไปหา นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่ร้านกาแฟภายในศูนย์ราชการฯ ซึ่งเป็นสถานที่รวมพลของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเกรียน โดยนายสมบัติสอบถามว่าใช้ชื่อพรรค "เกรียน" ได้หรือไม่ แต่นายสมชัยปฏิเสธที่จะตอบเนื่องจากพ้นจาก กกต.แล้ว ทำให้นายสมบัติชวนให้มาร่วมตั้งพรรคเกรียนด้วยกัน แต่นายสมชัยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
"วิษณุ"ชี้ไม่กระทบการทำงานกกต.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การออกคำสั่ง ม.44 ได้มีการหารือในที่ประชุม คสช.ส่วนรายละเอียดในการหารือนั้น ไม่สามารถพูดได้ และเหตุผลในการปลดนายสมชัยนั้น มีการชี้แจงในการราชกิจจานุเบกษาอยู่แล้ว อย่าพูดเป็นอย่างอื่นให้เสียหายแก่ผู้ใด อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวเพราะไม่กระทบการทำงานของ กกต.อยู่แล้ว เพราะเหลืออีก 4 คน ยังทำงานต่อไปได้ตามปกติจนกว่า กกต.ชุดใหม่จะเข้ามา
ยังมีคุณสมบัติสมัครเลขาฯกกต.ได้
เมื่อถามว่า นายสมชัย จะสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาฯ กกต.ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้อยู่แล้ว ยังมีคุณสมบัติอยู่เพราะผลประโยชน์ไม่ขัดกันแล้ว การคัดเลือกเลขาฯ กกต.คนใหม่ดำเนินการต่อไป เพราะมีตารางเวลาที่ชัดเจน โดย กกต.ชุดใหม่จะมี 7 คน ซึ่งจะดีกว่ามี 4 คน ส่วน 4 คนเก่า ก็ให้ทำงานไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง โดยได้ต่ออายุให้กับนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ที่จะมีอายุครบ 70 ปี ต้นปี 62
"นิพิฏฐ์"เหน็บนายกฯใช้อำนาจไทยนิยม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เรื่องนี้จึงกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระของประเทศไทยทุกองค์กร สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรอิสระอื่นๆ ก็มีโอกาสที่จะไม่เป็นองค์กรอิสระเช่นกัน ต่อไปนี้ประเทศไทยคงไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นต่างออกมา แบบนี้หรือไม่ที่เรียกว่าไทยนิยม
"ยอมรับว่านายสมชัยมีบทบาทหน้าที่ใน กกต.เป็นอย่างมาก ในหลายๆ เรื่องถ้าย้อนกลับไปดู จะเห็นว่านายสมชัยพูดถูกมากกว่าผิด และพูดถูกมากกว่า คสช.ด้วยซ้ำ ขอย้ำว่า ผู้มีอำนาจต้องมีความเมตตา และอดทนยอมรับในความคิดเห็นที่หลากหลาย ถึงจะเป็นสังคมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง" นายนิพิฏฐ์ ระบุ
"หมวดเจี๊ยบ"ปากดีขย่มบิ๊กตู่ไร้หลักการ
ส่วน ร.ท.หญิง สุณิสา หรือหมวดเจี๊ยบ ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกรัฐบาล พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาเหตุการปลดนายสมชัยเพราะพูดตรงเกินไปเกี่ยวกับรัฐบาลและควบคุมไม่ได้อีกต่อไปมากกว่า ตนไม่เชื่อว่าเป็นเพราะเป็นห่วงเรื่องผลประโยชน์ขัดกันอย่างที่นายกฯ กล่าวอ้าง
"ที่อ้างว่านายสมชัยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมนั้น อยากถามว่าคนข้างตัวท่านที่อ้างว่ายืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่ 25 เรือนล่ะ แบบนี้มีพฤติกรรมเหมาะสมนักหรือ" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวและว่า ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรเที่ยวชี้นิ้วด่ากราดคนอื่น โดยลืมดูตัวเองว่าอีก 4 นิ้วที่เหลือนั้น กำลังชี้เข้าหน้าตัวเองเต็มๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี