‘หญิงหน่อย’ทิ้งขาด‘บิ๊กตู่’!โพลคนอีสานชูนั่งนายกฯคนต่อไป
22 มี.ค.61 “อีสานโพล”(E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน(ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “พรรคการเมืองในฝันของคนอีสาน” โดย ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล ระบุว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นคนอีสาน ในประเด็นจุดเด่นของพรรคการเมืองที่คนอีสานต้องการ เพื่อเป็นแนวทางให้พรรคการเมืองต่างๆ นำไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงจุดเด่น และจุดด้อยของพรรคการเมือง ให้ตรงกับความต้องการของคนอีสานต่อไป โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-19 มี.ค.61 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,190 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด
จากการสำรวจ พบว่า กลุ่มตัวอย่างคนอีสานมากกว่าร้อยละ 80 เห็นว่าเลือกตั้ง ส.ส. ภายในปี 2561 เหมาะสมที่สุด โดยจุดเด่นที่ต้องการให้พรรคการเมืองมีมากที่สุด คือ มีผู้นำพรรคที่บริหารประเทศเก่งโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ผู้นำพรรคมีจริยธรรมสูง/เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม มีนโยบายและความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและมุ่งมั่นแก้ปัญหาทุจริตของชาติอย่างจริงจัง และมีทีมงานและผู้สมัคร ส.ส. ที่มีจริยธรรมสูง/เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม
ทั้งนี้ ยังไม่มีว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใดสามารถครองใจคนอีสานได้เกินครึ่ง และพรรคเพื่อไทย ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในภาคอีสาน อย่างไรก็ตามกลุ่มที่ยังรอพรรคทางเลือกหรือยังไม่ตัดสินใจยังมีสัดส่วนที่สูง
เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่าง ว่า การจัดเลือกตั้ง ส.ส. ช่วงใดเหมาะสมที่สุด พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.5 เห็นว่าควรจัดเลือกตั้ง ส.ส. ในช่วง พ.ค.-ส.ค. 61 รองลงมาร้อยละ 31.8 ควรจัดช่วง ก.ย.-ธ.ค. 61 ตามมาด้วย ร้อยละ 12.9 ควรจัดช่วง ม.ค.-เม.ย. 62 ร้อยละ 3.5 ควรจัดช่วง พ.ค.-ส.ค. 62 และร้อยละ 1.3 ควรจัดช่วงปลายปี 62 หรือนานกว่านั้น โดยสรุปกลุ่มตัวอย่างคนอีสาน ร้อยละ 82.3 คิดว่าการจัดเลือกตั้ง สส. ภายในปี 2561 เหมาะสมที่สุด
เมื่อสำรวจความต้องการจุดเด่นของพรรคการเมืองในฝันที่กลุ่มตัวอย่าง ต้องการให้พรรคการเมืองมี โดยมีตัวเลือกจุดเด่นต่างๆ 19 รายการ และระดับความต้องการ 5 ระดับ ตั้งแต่น้อยที่สุดไปจนถึงมากที่สุด (โดยเลือกระดับมากที่สุดได้ไม่เกิน 5 รายการ เพื่อสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มตัวอย่างออกมาให้ได้มากที่สุด) จากการประมวลผล โดยให้คะแนนเต็ม 100 หมายถึง ทุกคนต้องการจุดเด่นดังกล่าวมากที่สุด และศูนย์คะแนน หมายถึง ทุกคนต้องการจุดเด่นดังกล่าวน้อยที่สุด เป็นดังนี้
จุดเด่นของพรรคการเมืองที่ต้องการ
1) มีหัวหน้าพรรคที่บริหารประเทศเก่ง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ 90.8%
2) มีหัวหน้าพรรคที่มีจริยธรรมสูง/เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม 81.7%
3) มีนโยบายและความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 81.2%
4) มีนโยบายและความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาทุจริตของชาติอย่างจริงจัง 80.0%
5) มีทีมงานและผู้สมัคร สส. ที่มีจริยธรรมสูง/เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม 79.4%
6) มีทีมงานและผู้สมัคร สส. ที่เก่งและมีความเชี่ยวชาญหลากหลาย 78.2%
7) มีนโยบายและความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูประบบราชการ/กระบวนการยุติธรรม 77.2%
8) เป็นพรรคขนาดใหญ่ที่มีพลังในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ 75.8%
9) ต่อต้านการแจกเงิน/สิ่งของเพื่อซื้อเสียงอย่างจริงจัง 74.0%
10) นักการเมืองของพรรคขยันลงพื้นที่เพื่อรับฟังและแก้ปัญหา 73.8%
11) มีนโยบายและความมุ่งมั่นที่จะทำระบบรัฐสวัสดิการ 73.3%
12) เปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาทำงานการเมือง 72.8%
13) มีนโยบายและความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประชาธิปไตยตามแนวทางสากล 71.8%
14) มีโครงสร้างพรรคที่สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม ไม่ใช่ของกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง 70.3%
15) มีนโยบายและความมุ่งมั่นที่จะกระจายอำนาจให้จังหวัดและท้องถิ่น 70.2%
16) มีนโยบายและความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก 68.8%
17) ให้อิสระ สส. อย่างเต็มที่ ในการลงมติและแสดงความคิดเห็นที่ต่างจากพรรค 68.7%
18) มีนโยบายและความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือชนชั้นกลาง 68.6%
19) สส. และข้าราชการการเมืองของพรรคไม่รับเงินเดือนและเบี้ยประชุม 67.2%
หมายเหตุ: คะแนนเต็ม 100 หมายถึง ทุกคนต้องการจุดเด่นดังกล่าวมากที่สุด และศูนย์คะแนน หมายถึง ทุกคนต้องการจุดเด่นดังกล่าวน้อยที่สุด
เมื่อสำรวจถึงผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พบว่า จากการเสนอ 12 รายชื่อผู้ที่มีแนวโน้มจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีให้กลุ่มตัวอย่างพิจารณา นั้น ยังไม่มีใครสามารถครองใจคนอีสานได้เกินครึ่ง ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าคนอีสานต้องการผู้นำที่มีภาพลักษณ์บริหารประเทศเก่งโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ มีจริยธรรมสูง/เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม มีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และมุ่งมั่นแก้ปัญหาทุจริตของชาติอย่างจริงจัง ซึ่งคุณสมบัติโดยรวมดังกล่าวค่อนข้างหาได้ยากในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งคะแนนของทั้ง 12 ว่าที่นายกรัฐมนตรีเป็นดังนี้
รายชื่อที่ถูกคาดหมายได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี(เรียงลำดับจาก เหมาะสม ไม่เหมาะสม ไม่รู้จัก/ไม่แน่ใจ
1) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 35.2% 61.8% 3.0%
2) นายจาตุรนต์ ฉายแสง 34.9% 61.6% 3.5%
3) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 34.3% 62.1% 3.5%
4) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 24.1% 73.4% 2.5%
5) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 22.0% 76.6% 1.4%
6) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 19.7% 62.3% 17.9%
7) นายชวน หลีกภัย 13.7% 82.7% 3.5%
8) นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย 12.3% 63.9% 23.7%
9) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ 11.1% 67.5% 21.4%
10) นายศุภชัย พานิชภักดิ์ 10.2% 67.8% 22.0%
11) นายอนุทิน ชาญวีรกุล 9.4% 65.9% 24.7%
12) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ 9.2% 70.7% 20.1%
สุดท้ายเมื่อสำรวจถึงแนวโน้มที่กลุ่มตัวอย่างจะสนับสนุนพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า อันดับหนึ่งร้อยละ 42.9 จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย รองลงมา ร้อยละ 38.3 เป็นกลุ่มสนับสนุนพรรคทางเลือกอื่นๆ หรือยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด ตามมาด้วย ร้อยละ 7.2 สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 6.4 สนับสนุนพรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ร้อยละ2.4 สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 2.0 สนับสนุนพรรคชาติพัฒนา และ ร้อยละ 0.7 สนับสนุนพรรคชาติไทยพัฒนา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี