9 เม.ย.61 เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 9 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.ประกอบ เย็นหลักร้อย พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม นำตัวนายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ อายุ 24 ปี, น.ส.ณัฎฐา หรือโบว์ มหัทธนา อายุ 39 ปี, นายธนวัฒน์ พรมจักร อายุ 20 ปี, นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ อายุ 41 ปี และ น.ส.ศรีไพร นนทรีย์ อายุ 47 ปี แกนนำและแนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ผู้ต้องหาในคดียุยงปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, ชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558, ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 และกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-20 เม.ย.61 นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 20 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ตัดต่อภาพจากกองพิสูจน์หลักฐาน
กรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2561 เวลา 16.10 น. ที่สนามฟุตบอล ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายรังสิมันต์ โรม ขึ้นอ่านแถลงการณ์เปิดการปราศรัยชุมนุมบนรถหกล้อ ติดเครื่องขยายเสียง ซึ่งติดแผ่นป้ายไวนิล "รวมพลังถอนราก คสช." มีนายกาณฑ์ เป็นพิธีกร เรียกชักชวนมวลชน มีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายธนวัฒน์ และ น.ส.ณัฎฐา ขึ้นพูดปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนกำลังไปยังกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ปราศรัยโจมตีขับไล่รัฐบาลปลุกระดมมวลชนไปตลอดเส้นทาง มีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 350 คน โดยกลุ่มผู้ต้องหารวม 57 คน ได้ร่วมเข้าชุมนุมเดินขบวนกีดขวางการจราจร และยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 20.45 น.
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้ง ที่ สน.ปทุมวัน และ สน.นางเลิ้ง ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังนัดหมายชุมนุมอีกในวันที่ 5 พ.ค.2561 ซึ่งอาจก่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม วันนี้ ทนายความผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังของพนักงานสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนด้วยดีมาโดยตลอด และมีที่ยู่เป็นหลักแหล่งไม่คิดหลบหนี
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้งห้ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และให้ความร่วมมือในการสอบสวนแก่พนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้เป็นส่วนใหญ่แล้ว สำหรับพยานบุคคลที่เหลือปรากฏว่า ล้วนแต่เป็นเจ้าพนักงานทั้งสิ้น ซึ่งผู้ร้องสามารถดำเนินการสอบสวนไปได้โดยไม่มีความจำเป็นต้องขังผู้ต้องหาทั้งห้า
ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าผู้ต้องหาทั้งห้าจะไปเข้าร่วมการชุมนุมต่อไป เป็นเพียงการคาดคะเนของผู้ร้องเท่านั้น กรณีไม่มีเหตุจำเป็นที่จะฝากขังผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน จึงให้ยกคำร้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี