กกต.ชงระเบียบจ่ายสินบน
เปิดทางแจ้งเบาะแสทุจริต
พท.เชื่อช็อบปิ้งอดีตสส.กระหึ่ม
บอกไม่กังวลลูกพรรคโดนดูด
บิ๊กเจี๊ยบปัดต่อท่ออำนาจคสช.
กกต.หาช่องทางล้อมคอกทุจริตเลือกตั้ง ชงระเบียบจ่ายสินบนแก่ผู้ให้เบาะแส หรือมอบพยานหลักฐาน พร้อมคุ้มครองพยานเต็มที่ ในขณะที่ “ภูมิธรรม” วิเคราะห์จากนี้ไปจะมีการช็อปปิ้งซื้อตัวสส.กระหน่ำ แต่ไม่ได้หวั่นไหวแม้ลูกพรรคโดนดูด ด้าน ผบ.ทบ.ส่งทีม“ขุนศึก” ลงพื้นที่พบประชาชน แต่บอกไม่ได้หาเสียงให้บิ๊กตู่
เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำระเบียบเกี่ยวกับการให้สินบนรางวัลกับบุคคลที่นำพยานหลักฐานการซื้อเสียง หรือ การทุจริตเลือกตั้งมาแจ้งต่อ กกต.ว่าขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้จัดทำร่างระเบียบดังกล่าวแล้วเสร็จ100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ยังไม่ได้เสนอให้บอร์ด กกต.พิจารณา เพราะจะต้องรอให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ก่อน เพราะจะต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมายดังกล่าว ส่วนที่มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวนั้น ไม่กระทบต่อระเบียบที่เราจัดเตรียมไว้เพราะเป็นเนื้อหาคนละส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
“นอกจากระเบียบดังกล่าวแล้ว ทางสำนักงานกกต.ยังต้องจัดทำระเบียบเรื่องการกันบุคคลไว้เป็นพยาน การคุ้มครองพยานและระเบียบเรื่องการปกปิดความลับ ควบคู่ไปกับระเบียบเกี่ยวกับการให้สินบนรางวัลด้วย เพื่อให้สอดคล้องกัน ทั้งนี้ ในส่วนของการจ่ายอัตราสินบนรางวัลนั้นภายหลังระเบียบดังกล่าวประกาศใช้แล้วจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว จะต้องขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการทำคดีแต่ละคดีด้วย” รองเลขาธิการกกต.กล่าวย้ำ
พรรคใดพร้อมติดต่อ’วิษณุ’
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงโรดแมปการเลือกตั้งว่า รัฐบาลไม่ได้ประเมินสถานการณ์อะไรเป็นพิเศษ และนายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการในเรื่องนี้ด้วย เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะมีการเปิดให้มีการเลือกตั้งแล้ว พรรคการเมือง และนักการเมืองที่กดดันรัฐบาล จะอดทนรอหน่อยไม่ได้หรือ ส่วนการเชิญพรรคการเมือง มาร่วมพูดคุยกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ยังอยู่ในเดือนมิถุนายน ขณะนี้กำลังรอนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีประสานนัดหมายเพื่อพูดคุยกับพรรคการเมืองว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ก่อนเดือนมิถุนายนหรือภายในเดือนมิถุนายน เพราะเรื่องนี้ นายกฯ ไม่ได้กำหนดว่า จะต้องพูดคุยกันเมื่อใด หากพรรคการเมืองใดต้องการร่วมพูดคุยก็สามารถติดต่อเข้ามาโดยผ่าน รองนายกฯ วิษณุ เครืองามได้
พท.ยืนยันสมาชิกเหนือ-อีสานคึก
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.)นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ พท.กล่าวถึงการยืนยันความเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยว่าในหลายจังหวัดมีความคึกคัก โดยเฉพาะในพื้นที่หลักทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนตัวเลขจะต้องรอรวบรวมตอนสิ้นเดือนเมษายนนี้ สำหรับนักการเมือง ยังเป็นปกติ อาจมีบางส่วนยังไม่ได้แสดงตัวแต่ได้แจ้งมาทางตนแล้วว่าจะมาหลังเทศกาลสงกรานต์เช่น นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตรอดีตส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายดนุพร ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม อาจมีบ้างที่ยังไม่ชัดเจนเช่นตระกูล’สะสมทรัพย์’แต่อดีตส.ส.นครปฐม หลายคน ต่างก็ยังยืนยันจะมาเพื่อไทย ซึ่งในวันที่ 18 เม.ย.นี้ ยังคงจะไปตีกอล์ฟด้วยกันเพราะคนเคยเป็นพี่น้อง ไม่มีปัญหาอะไร
เชื่อมีซ็อปปิ้งซื้ออดีตสส.
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีการ’ช็อปปิ้ง ส.ส.’ของฝ่ายผู้มีอำนาจว่าได้มีนักการเมืองของพรรคเรามาแจ้งว่าได้รับการติดต่อทาบทาม แต่หลายคน ก็ได้กลับมายืนยันเป็นสมาชิกกับเพื่อไทย เราไม่ได้กังวลอะไรมาก โดยเฉพาะในพื้นที่หลัก อดีต ส.ส.มีความแข็งแรงและมีประชาชนเป็นฐานสำคัญที่จะเอื้อในการตัดสินใจของ อดีต ส.ส.ไม่ใช่เป็นเหมือนเดิม ที่คิดจะไปก็ไป ตอนนี้ขึ้นอยู่กับประชาชน อย่างไรก็ตามอาจมีบ้างในระบบเลือกตั้งที่สร้างขึ้นมาแบบนี้ ปัญหาปาร์ตี้ลิสต์ที่คนกระจุกตัวในพื้นที่ต้องมาแย่งกัน เป็นไปได้ว่าเมื่อใกล้ถึงเวลาหลายคนอาจต้องตัดสินใจ โดยพรรคใหม่บางพรรคที่คิดไปดึงไปดูด อาจช็อปปิ้งกันตอนนั้น เป็นคะแนนเก็บตก
“เรื่องนี้เป็นการวางแผน เป็นกลวิธีที่แยบยลให้คนได้คะแนนรองลงไปจะเป็นส.ส.ได้ เบอร์1ไม่ได้ ก็ดึงเบอร์ 2 อาจมีผลกระทบบ้าง อาจเป็นตัวแปรให้พรรคที่ 3ได้คะแนนและเป็นตัวแปรกับผลการเลือกตั้ง โดยการดึงคนพรรคเก่า ทำให้พรรคใหม่ ไม่ต้องสร้างคนใหม่ เป็นการเอาเปรียบของผู้มีอำนาจ พรรคการเมืองเก่าต้องลงพื้นที่หาคนที่มีความสามารถ แต่มาใช้วิธีตั้งพรรค มีแบ๊กอัพไปช็อปปิ้งดึงคนที่เกิดจากการย่อยสลาย เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่ แต่ละพรรค ไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทยต้องสูญเสียบุคลากร ถ้าใช้ภาษาของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีต้องบอกว่า เป็น อภินิหารการช็อป” นายภูมิธรรม ย้ำ
มาร์คซัดคสช.ปฏิรูปเหลว
ในซีกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า ปชป. กล่าวประเมินการบริหารของ คสช.เกือบ 4 ปีว่า คสช.ได้ทำความสงบเรียบร้อยในการหยุดยั้งสถานการณ์ ก็เอาใจช่วยว่าจะทำอย่างไรในการวางรากฐาน ทำนโยบาย กติกาให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนเหมือนที่เคยพูดไว้กับประชาชน แต่เวลาเหลือน้อยลง และที่ผ่านมา กลายเป็นว่านโยบายหลายเรื่อง เป็นการทำเฉพาะหน้ามากกว่า เช่นเศรษฐกิจ 4 ปีที่ผ่านมาใช้เงินเกือบล้านล้านบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรอบ ไม่เก็บภาษีเพื่อให้คนไปซื้อของ หรือลงทุน แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับไม่ไม่ได้ช่วยในเรื่องความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่
ชี้1ปีรธน.องค์กรอิสระอ่อนแอ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวแสดงความเป็นห่วงการปฎิรูปการเมือง ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากว่า1ปีว่าหลักการหลายอย่างกลับสร้างความสับสนอย่างมาก ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือสถานะขององค์กรอิสระทั้งปัญหาการทำกฎหมาย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจเงินแผ่นดินและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อีกทั้ง ล่าสุดมีคำสั่งปลด กกต.บางคน สิ่งเหล่านี้คือ หัวใจในการแก้ปัญหาทางการเมืองและการสร้างระบบถ่วงดุลอำนาจ แต่คสช.กลับแก้กฎหมายทำให้องค์กรเหล่านี้อ่อนแอลง
ทบ.ยันจัดชุดลงพื้นที่ทำตามหน้าที่
ด้าน บิ๊กเจี๊ยบ- พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.)กล่าวถึงแนวทางการจัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน มณฑลทหารบก (ชป.กร.มทบ.)ว่า อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่และนำข้อมูลการทำงานของรัฐบาลไปถ่ายทอดให้ได้รับทราบ โดย ไม่ได้ทำเฉพาะโครงการไทยนิยม แต่จะทำในโครงการที่ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความเข้าใจของคนในชาติ การประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล รวมถึงงานของกองทัพเช่นการเกณฑ์ทหาร เป็นต้น
เบื้องต้น เป็นการจัดตั้งทีมและฝึกฝนกำลังพล ส่วนรายละเอียดและแนวทางการทำงาน ได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ไปบูรณาการร่วมกับ 35 มทบ.ทั่วประเทศอีกครั้งว่า พื้นที่ใดจะทำอย่างไร แบ่งเป็น2ชุดคือชุด”ขุนศึก” ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติและชุด”ขุนภักดี”โดย มีทำหารดุริยางค์ใน มทบ. มาฝึกและเติมทักษะการพูด เพื่อไปทำงานเพื่อแบ่งเบา กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา(พัน .ปจว.)ของกองทัพภาค ในแต่ละกองทัพภาคจะมี 1 กองร้อย ถือว่า งานล้นมือ
ยุทธศาสตร์10ปีกอ.รมน.เป็นแกน
“ถือเป็นยุทธศาสตร์ ระยะยาวที่ผมคิดไว้ อยากให้ทำเป็นห้วงระยะเวลา 5ปี -10ปี ไม่ใช่ทำเฉพาะช่วงที่มีโครงการไทยนิยมอย่างเดียว ตอนนี้เป็นช่วงเริ่มเป็นการสร้างคน ส่งคนไปฝึกพูด ต่อไปทหารจะต้องเก่งในเรื่องพูดเพื่อสื่อสาร ไม่ใช่แค่งานกิจการพลเรือน ทาง กอ.รมน.ก็จะมาคิดอีกทีว่าจะบูรณการและใช้งบประมาณอย่างไรโดยฝ่ายอำนวยการ ก็จะไปคิดรายละเอียดอีกที รายละเอียดการทำงานแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน ส่วนเนื้อหา ก็แล้วแต่ละสถานการณ์ จะประชาสัมพันธ์เรื่องเกณฑ์ทหาร งานของรัฐบาลก็ดูไปตามพื้นที่ ถือเป็นเครื่องมือของกอ.รมน.และรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยไป อย่ามองเป็นเรื่องการเมืองไปหมด”พล.อ.เฉลิมชัย ย้ำ
ปัดจัดคนลงพื้นที่หาเสียง’บิ๊กตู่’
ผบ.ทบ.คนนี้ ยังกล่าวย้ำว่าสิ่งที่ให้ระมัดระวังเวลาไปลงพื้นที่พบชาวบ้าน คือ อย่าตกเป็นเครื่องมือของพรรคการเมือง เข้ามาแบล็คอัพมาสนับสนุนชาวบ้านอาจจะมีเจตนาดี แต่เราก็อย่าเผลอไปเดินตามแนว จะกลายเป็นเครื่องมือหาเสียง เพราะในพื้นที่ ก็มีความคุ้นเคยกันทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น
ส่วนกรณีที่ใช้กลไกตรงนี้ถือว่ารัฐบาลได้เปรียบหรือไม่ในการสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองให้นายกฯหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าตอนนี้ไม่ทำอะไรเลย บ้านเมืองก็จะทรุดลงไป เป็นเรื่องที่ต้องทำเพราะเป็นภารกิจสนับสนุนงานของประเทศ เป็นเรื่องที่กองทัพต้องทำอยู่แล้ว
เมื่อถามถึง กระแสการตั้งพรรคการเมืองโดยโยงกับคนใน คสช.จะย้อนกลับมาทำให้ทหารอยู่ลำบากหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เท่าที่เห็นเป็นทหารเกษียณ ไม่มีใครสวมเครื่องแบบแล้วไปเล่นการเมือง บทบาทของตน ก็เป็นไปในฐานะทหาร ไม่ไปยุ่งกับการเมือง เดินไปตามกรอบหน้าที่ รัฐบาล ก็สั่งการในงาน กองทัพ ก็ไปสนับสนุน ส่วนคนนอกหรือคนที่อยากช่วยท่านนายกฯก็ว่ากันไป
ปัดตอบตั้งพรรคต่อท่ออำนาจ
เมื่อถามว่าแต่ คสช.ก็จะถูกวิจารณ์ว่ารัฐประหารมาเพื่อต่อยอดอำนาจ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่าก็แล้วแต่คนจะคิด เมื่อนายกฯไปพูดนโยบาย ท่านก็ต้องทำ ขณะนี้จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็เหมือนรัฐบาลรักษาการ การลงพื้นที่อาจถูกมองบ้าง แต่ทั้งหมด ก็เพื่อการกินดีอยู่ดีของประชาชน ถ้าหยุดนิ่งไม่ทำเลย รอให้มีเลือกตั้ง ประเทศ ก็จมลงไปด้วย
เมื่อถามว่า มีการมองว่าตั้งพรรคเพื่อ ต่อท่ออำนาจ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่ทราบและไม่มีความเห็น ส่วนจะซ้ำรอยเหมือนสมัย พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกต่อต้านหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่าก็เรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต ยืนยันเราไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วย โดยทำงานตามกรอบหน้าที่ เมื่อเกษียณแล้ว ก็อาจจะไปบวช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี