ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งในหลายจังหวัดในภาคใต้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำและต้นทุนการผลิตสูง โดยการแทรกแซงราคากุ้งตกต่ำด้วยวิธีรับจำนำกุ้งขาวแวนาไม จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 ตัน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนและขอคำตอบที่ชัดเจนภายในวันที่ 10 พ.ค.61
26 เม.ย.61 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายกาจบัณฑิต รามมาก ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา นายครรชิต เหมะรักษ์ ประธานชมรมกุ้งสงขลา-นครศรีธรรมราช นายวีระ จันทร์นวล ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช นายยุทธนา รัตโน ที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จังหวัดสุราษฏร์ธานี นายพรชัย ยกร่อง ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 50 คน เดินทางมา เพื่อยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยผ่านนายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำและต้นทุนการผลิตสูง
เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเดินทางไปราชการที่กรุงเทพมหานคร จึงได้มอบหมายให้นายเอกศักดิ์ อารยะนันท์ พาณิชย์จังหวัดสงขลา และนายธนาวุฒิ กุลกิตติชนก ประมงจังหวัดสงขลา รับหนังสือแทนและประชุมร่วมกับชาวชมรมกุ้งสงขลา-นครศรีธรรมราช กลุ่มเครือข่ายและสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งที่มายื่นหนังสือ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและส่งหนังสือผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรีและกระทรวงที่เกี่ยวข้องตามที่ได้ยื่นหนังสือในวันนี้
สำหรับหนังสือที่ยื่นมีรายละเอียดความว่า จากสถานการณ์ราคากุ้งขาวแวนนาไมตกต่ำอย่างรุนแรงในขณะนี้ ซึ่งแต่ละขนาดไม่ต่ำกล่า 40 – 50 บาท ต่อกิโลกรัม (ขนาด 100 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคาอยู่ที่ 100 บาท) ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนขาดทุนอย่างหนักไม่สามารถที่จะประกอบการต่อไปได้ ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่สูงด้วย ดังนั้นชาวชมรมกุ้งสงขลา – นครศรีธรรมราช กลุ่มเครือข่ายและสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้ง ใคร่ขอให้ท่านกรุณานำเสนอคณะรัฐมนตรีหรือสั่งการให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.)พิจารณาอนุมัติ แทรกแซงราคากุ้งตกต่ำในครั้งนี้ โดยวิธีรับจำนำกุ้งขาวแวนาไม จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 ตัน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนหรือพิจารณาอนุมัติโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งอีกครั้ง มาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำในครั้งนี้เป็นการเร่งด่วนในภาวะวิกฤติขณะนี้ให้ลุล่วงไปด้วยดี โดยกำหนดให้ได้ราคากุ้งที่ราคาตามขนาดดังนี้
ขนาด 100 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 130 บาท ,ขนาด 90 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 140 บาท, ขนาด 80 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 150 บาท,ขนาด 70 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 160 บาท,ขนาด 60 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 180 บาท,ขนาด 50 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 200 บาท,ขนาด 40 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 220 บาท, และขนาด 30 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคา 240 บาท
โดยในเรื่องต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งปัจจุบันนี้ต้นทุนการผลิตขั้นต่ำโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 120 บาท ที่ขนาด 100 ตัว ต่อกิโลกรัม ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไม่สามารถจะทำการผลิตได้อีกต่อไป หากราคากุ้งยังตกต่ำและต้นทุนการผลิตยังสูงอยู่ เกษตรกรจะต้องประสบปัญหาล้มละลายและต้องสูญเสียอาชีพการเลี้ยงกุ้งไปอย่างแน่นอน ดังนั้นทางชมรม,กลุ่ม,เครือข่ายและสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งใคร่ขอเสนอมายังท่านได้โปรดพิจารณาสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางมาตรการต่างๆช่วยเหลือเกษตรกรและอุตสาหกรรมกุ้งเป็นการด่วนในครั้งนี้ด้วย โดยการดำเนินการจัดหาหรือสนับสนุนเงินทุนปลอดดอกเบี้ยหรืออัตราดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและผู้ประกอบการห้องเย็นเพื่อประคับประคองบรรเทาความเดือดร้อนแก่อุตสาหกรรมกุ้งให้สามารถประกอบการได้และให้ช่วยเจรจากับภาคเอกชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอปรับลดราคาปัจจัยการผลิต เช่น ราคาอาหารกุ้ง ราคาลูกพันธุ์กุ้ง ค่าเวชาภัณฑ์และค่าไฟฟ้า ในช่วงวิกฤติราคากุ้งตกต่ำในช่วงนี้และขอให้สรุปให้ชัดเจนขอคำตอบภายในวันที่ 10 พ.ค.61
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี