ทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 4 มาแล้วมีกว่า 30 วัด "ปปป."อุบเผยรายชื่อวัดหวั่นหลักฐานถูกทำลาย รอกางบัญชีแก๊งเปรตพร้อมกันช่วงกรกฎาคม เดินหน้าตรวจสอบอีกทั่วประเทศ 3.7 หมื่นวัด ด้าน "สุวพันธุ์" มั่นใจ ป.ป.ช.เคลียร์ปมโกงเงินวัดสำเร็จ เชื่อไม่สร้างความขัดแย้งกับพระชั้นผู้ใหญ่
วันนี้ (26 เม.ย.61) พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (รอง ผบก.ปปป.) เปิดเผยความคืบหน้าตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัด หรืองบอุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์ งบอุดหนุนงานเผยแผ่ศาสนา และงบอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ว่า หลังจากส่งสำนวนการทุจริตเงินทอนวัดในล็อต3 ทั้ง 10 วัด ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว เมื่อวันที่ 23 เม.ย.61 ที่ผ่านมา
ล็อตที่4มีกว่า30วัด-กว่า100ล้าน
"ขณะนี้ บก.ปปป.อยู่ระหว่างลุยตรวจสอบเงินทอนวัดในล็อต 4 ต่อทันทีกว่า 30 วัดทั่วประเทศทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นพบมูลความผิดมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ในวัดต่างจังหวัด แต่ขอเวลาในการทำงานและรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ก่อนอีก 2-3 เดือน โดยจะเริ่มเปิดเผยรายชื่อในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้นี้ เพราะถ้าเปิดเผยตอนนี้เกรงว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดจะทำลายหลักฐานก่อน" พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าว
เผยมีกว่า3.7หมื่นวัดต้องตรวจสอบ
พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบวัดทั่วประเทศที่ได้รับงบประมาณจากรัฐในปีงบประมาณช่วงปี 2555-2560 มีที่ บก.ปปป.ต้องตรวจสอบทั้งสิ้น 37,000 วัด แต่ ปปป.จะตรวจสอบในวัดที่ได้รับงบประมาณหลักล้าน และหลักสิบล้านก่อน เพราะเชื่อว่าจะเกิดการทุจริตได้ง่าย ส่วนวัดที่ได้รับงบหลักหมื่นและหลักแสนบาทจะทยอยตรวจสอบในล็อตต่อไป
มั่นใจขบวนการตรวจสอบของป.ป.ช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีที่วัดศรีนคราราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี 1 ใน 10 วัดล็อตที่ 3 ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมได้ออกมายืนยันว่าได้่คืนเงิน 10 ล้านบาทให้กับ พศ.แล้วโดยอ้างว่าไม่ได้ร้องขอ แต่ พศ.กลับโอนเงินมาให้ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่เรื่องการทุจริตเงินเกี่ยวกับวัดทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบแล้ว โดยมีการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ พศ.ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบหรือไม่
"หากพบมีการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ และเรื่องนี้มีการส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบแล้ว จึงต้องปล่อยให้ ป.ป.ช.ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ โดย ป.ป.ช.จะต้องรับฟังทั้งจากทาง พศ.และวัด พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และส่วนตัวเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. จึงต้องรอดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร" นายสุวพันธุ์ กล่าว
เชื่อป.ป.ช.เคลียร์ปมโกงเงินทอนวัดได้
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อเรื่องการทุจริตเกี่ยวกับวัดได้เข้าสู่การตรวจสอบของ ป.ป.ช.แล้วจะสามารถตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายได้ นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าการตรวจสอบทุจริตนั้นจะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่กับพระชั้นผู้ใหญ่ เพราะงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง พศ.กับพระสงฆ์
"ดังนั้น เมื่อเป็นปัญหา ก็จะต้องมีองค์กรกลางในการตรวจสอบเข้ามาตัดสินว่าเกิดจากอะไร ขณะที่รัฐบาลก็เข้าไปสอบตรวจพฤติกรรมของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดังจะเห็นว่าที่ผ่านมาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวต่างถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญากันมาแล้ว" นายสุวพันธุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี