30 เม.ย.61 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ส่งหนังสือทางไปรณีย์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง ขอให้เร่งตรวจสอบนาฬิกาหรูที่อยู่ในครอบครองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่ามีการเสียภาษีโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยได้แนบสำเนาหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ด่วนมาก ที่ กค 0203.4/6561 ลงวันที่ 24 เมษายน 2561
ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าว ได้ระบุว่า ขอความกรุณาให้นายกรัฐมนตรีได้โปรดสั่งการหรือติดตามให้มีการตรวจสอบนาฬิกาหรูที่อยู่ในครอบครองของ พล.อ.ประวิตร ว่ามีการเสียภาษีโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ดังต่อไปนี้
1.สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือ ด่วนมาก ที่ กค 0203.4/6561 ลงวันที่ 24 เมษายน 2561 แจ้งมายังตนเองว่า "ตามหนังสือของท่านฉบับลงวันที่ 30 มกราคม 2561 กราบเรียนนายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาตรวจสอบการนำเข้านาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร ว่าได้มีการดำเนินการชำระภาษีถูกต้องตามขั้นตอนของกรมศุลกากรหรือไม่ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณานั้น ทางสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังขอเรียนว่า ได้ประสานส่งเรื่องให้กรมศุลกากร เพื่อพิจารณาดำเนินการ และแจ้งผลการพิจารณาให้ท่านทราบต่อไปแล้ว"
2.ปัจจุบันนี้ ตนยังไม่ได้รับทราบผลการพิจารณาจากกรมศุลกากรแต่อย่างใด ทั้งที่เวลาล่วงมาประมาณ 3 เดือน นับจากที่ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 มกราคม 2561 จึงคิดว่า เรื่องนี้อาจมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำเกิดขึ้นได้ เพราะจะต้องไปขอข้อมูลเพื่อตรวจสอบเรื่องภาษีตามที่ร้อง จาก พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรี และ คสช.
3.เรื่องภาษีนั้น เกี่ยวข้องกับรายได้แผ่นดิน และอยู่ในความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีโดยตรงด้วย ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้เรื่องเนิ่นช้าออกไป เพราะจะทำให้รัฐจัดเก็บภาษีได้ช้า และทำให้ผู้ต้องเสียภาษีอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 18 ต่อปี ซึ่งเงินเพิ่มเหล่านี้ ตามกฎหมายหรือตามคำพิพากษา ไม่อาจจะลดลงได้
4.ตนในฐานะเคยเป็นนักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน และเคยเป็นกรรมาธิการการเงิน การคลัง ของวุฒิสภา เห็นว่า เรื่องภาษีซึ่งเป็นรายได้แผ่นดินนั้นต้องมีการจัดเก็บให้ครบถ้วน จะขาดตกบกพร่องไม่ได้แม้แต่บาทเดียว เพราะรายได้แผ่นดินหรือที่เรียกว่า เงินแผ่นดินนั้น ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ จึงต้องนำเรื่องนี้กราบเรียนนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้ คือ ขอให้กรมศุลกากรแถลงผลการดำเนินการเรื่องนี้ต่อสาธารณชนว่า ตรวจสอบการจัดเก็บภาษีไปถึงไหนแล้ว ติดขัดขั้นตอนใดหรือไม่ ขอให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงโดยเปิดเผยด้วยว่า กรมศุลกากรได้มาขอข้อมูลเรื่องนาฬิกาหรูจากท่านแล้วหรือไม่ และ พล.อ.ประวิตร ให้ข้อมูลไปอย่างไร สอดคล้องกับที่ให้ข้อมูลไปยัง ป.ป.ช.หรือไม่
ทั้งนี้ หากกรมศุลการกรตรวจสอบแล้ว ขอให้แจ้งต่อสาธารณชนต่อไปด้วยว่า มูลค่าของนาฬิกาแต่ละเรือน (ป.ป.ช. แจ้งว่ามีอยู่จริง 22 เรือน) นำเข้ามาโดยการสำแดงถูกต้องหรือไม่ มีการแจ้งราคา CIF เท่าใด เสียภาษีนำเข้าพิกัดใด ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น เท่าใด ถ้าไม่มี รายได้แผ่นดินที่ขาดหายไปจะเป็นจำนวนเท่าใด ต้องคิดเบี้ยปรับเท่าใด และต้องคิดเงินเพิ่มเท่าใด และไม่ว่าเรื่องนี้ ป.ป.ช.จะดำเนินการหรือยังไม่ดำเนินการอย่างไร แต่เรื่องภาษีซึ่งเกี่ยวกับเงินแผ่นดินนั้น มิอาจละเว้นได้ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ควรรีบสั่งการต่อไปโดยเร็ว
และ 5.เรียนขอความกรุณาท่านนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้า คสช.ด้วย ได้โปรดสั่งการหรือติดตามให้มีการตรวจสอบนาฬิกาหรูที่อยู่ในครอบครองของ พล.อ.ประวิตร ว่ามีการเสียภาษีโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยสั่งการกำชับให้กรมศุลกากรดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจมาก และขอให้นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือจาก พล.อ.ประวิตร ในฐานะที่อยู่ในคณะรัฐมนตรี และ คสช.ด้วยกัน ได้ชี้แจงเรื่องการตรวจสอบภาษีกรณีนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี