8 พ.ค.61 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ปรารภในตอนต้นของการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์: นครราชสีมา-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์) ที่มีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคประชาชนเข้าร่วมประชุม ว่า ความตั้งใจในการลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ก็เพื่อรับทราบปัญหาจากต้นทางว่า นโยบายที่ส่งลงมาได้รับการปฏิบัติมากน้อยแค่ไหน และประสบปัญหาอะไรบ้างหรือไม่
อย่างไรก็ดี การนำเสนอข่าวการลงพื้นที่ถูกสื่อออกไปใน 2 ลักษณะ ลักษณะแรกคือเข้าใจว่ารัฐบาลมีความตั้งใจเข้ามาแก้ไขปัญหาในพื้นที่ อีกลักษณะคือพยายามนำเสนอเรื่องนัยทางการเมือง เช่น การดูด ส.ส. หรือทุ่มงบประมาณหลายหมื่นล้านเพื่อแลกกับผลทางการเมือง
"นายกฯได้ให้สติกับที่ประชุมว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมความคิดของคน พูดไปก็มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ จึงไม่จำเป็นต้องพิรี้พิไรเพื่อชี้แจงเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่จะพิสูจน์การทำงานของรัฐบาลได้ คือเมื่อประชาชนได้เปรียบเทียบระหว่างเรื่องที่มีคนขอจากรัฐบาลกับเรื่องที่รัฐบาลให้ไป ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถให้ได้ทุกเรื่อง เนื่องจากต้องพิจารณาถึงความสอดคล้องของแผนงานและความพร้อมของพื้นที่" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายกฯ ยังย้ำถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจ และขอให้ ครม.มุ่งมั่นทำงานตามแผนงาน ทั้งแผนปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติแผนพัฒนาประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และแผนพัฒนาจังหวัด ให้สอดรับกับความต้องการของประชาชนพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี