ครม.สัญจรอีสานไฟเขียว
โปรย1.4หมื่นล.
กลุ่ม‘จว.นครชัยบุรินทร์’
เดินหน้าเร่งขยายสนามบิน
‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่ได้แอบพบใคร
สั่งเช็คบงการม็อบเลือกตั้ง
เคาะ‘จรุงวิทย์’นั่งเลขากกต.
นายกฯ “บิ๊กตู่” ถกครม.สัญจร บุรีรัมย์ ลั่นไม่ได้มาเพื่อการเมือง เดินหน้าครบทุกจังหวัด ลั่นไม่ใช่ใครดีด้วยแล้วเทงบฯให้ ยันลงพื้นที่ไม่แอบพบใคร ไม่อนุมัติงบฯทุกความต้องการ ต้องการไปทุกจังหวัด โวเป็นรัฐบาลแรกที่ไปทุกพื้นที่ ครม.อนุมัติงบให้ กลุ่ม “นครชัยบุรินทร์” ปี’62 กว่า 1.4 หมื่นล้าน พร้อมเร่งขยายสนามบินบุรีรัมย์ นายกฯห่วง นศ.สั่งเช็คใครอยู่เบื้องหลัง
กกต.มีมติเลือก’จรุงวิทย์’นั่งเลขาฯคนใหม่
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 08.30น.ที่อาคารอเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง1 (นครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย นครราชสีมา-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์)ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2561
นายกฯลั่น ไม่ใช่ใครดีด้วยเทงบให้
โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวก่อนเริ่มการประชุมว่าการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้มาด้วยเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้นแต่รัฐบาลพยายามเดินหน้าพัฒนาประเทศในรูปแบบกลุ่มจังหวัด ให้ครบกลุ่มจังหวัด โดยบางจังหวัดที่ไปไม่ได้ก็ได้เชิญ ผู้ว่าฯมาร่วมประชุมเสนอแผนงานต่างๆเป็นการสื่อสาร 2 ทาง รัฐบาลจำเป็นต้องวางแผนแม่บทรัฐบาลและจะมารับข้อเสนอต่างๆจากข้างล่างสู่ส่วนกลาง เพื่อนำไปพิจารณาปรับแผนให้สอดคล้องกับแผนระยะยาว
“ส่วนของงบประมาณ รัฐบาลไม่สามารถให้งบประมาณทั้งหมดตามที่ร้องขอได้ ไม่ใช่ขอมาล้านล้าน หรือหมื่นล้าน แล้วจะได้ทั้งหมด เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด สิ่งใดอยู่ในแผนและสิ่งใดต้องปรับแผน ขณะเดียวกันบางโครงการ ก็มีในส่วนที่ขออยู่แล้วอยู่ในแผนระยะยาวหรืออาจต้องจัดเพิ่มเติมลงไปตามความต้องการเร่งด่วน ไม่ใช่ใครดีด้วยแล้วต้องไปตอบแทนความดีให้ซึ่งจะทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องให้กับคนทั้งประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ” นายกรัฐมนตรี ย้ำและ ยืนยันว่าการดำเนินการโครงการต่างๆต้องสอดคล้องยุทธศาสตร์ทั้ง 6ด้านซึ่งยุทธศาสตร์นี้สามารถปรับให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ ตลอด 4ปีของรัฐบาลชุดนี้ได้พยายามสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งภาคการเกษตร การอำนวยความสะดวกในภาครัฐเป็นต้น
นายกฯยันไม่ได้มาเพื่อการเมือง
จากนั้นเวลา10.30น.พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ซึ่งภายหลังเป็นประธานการประชุมครม.พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่าการที่รัฐบาลลงมาในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ได้ลงมาเพื่อรับคำขออย่างเดียว แต่ทำการบ้านมาก่อนโดยจะยึดหลักการเหตุผล และความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ และต้องตัดสินใจให้รอบคอบว่าจะใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“สิ่งใดที่ยังไม่ตรงก็ต้องมีการหารือ และปรับ ทุกเรื่องจะต้องเข้าสู่ที่ประชุมและเป็นมติของ ครม.ว่าจะอนุมัติหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะทำทุกอย่าง เพื่อการเมือง หรือเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง หรือผมไม่ต้องลงไปได้ หรือไม่ ก็ไม่ได้ แม้จะมีแผนงานแล้วก็ตาม อยากเห็นด้วยตาตัวเอง กลัวข้อมูลจะไม่เพียงพอ แต่ละพื้นที่ ก็ใช้มาตรฐานเดียวกันไม่ได้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ได้มาเพื่อการเมือง การเมือง คือ การทำเศรษฐกิจ สร้างสภาวะแวดล้อมให้มั่นคงปลอดภัย” พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
ย้ำรัฐบาลต้องการไปทุกจังหวัด
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าประชุมครม.ครั้งนี้ ไม่ใช่มา เพื่ออนุมัติงบประมาณ 10,000-20,000 ล้านบาท อย่างที่มีการกล่าวอ้าง ขอให้ทุกคน ได้ใช้สติปัญญา ใคร่ครวญด้วย ไม่ใช่อะไร ก็การเมืองทั้งหมด เพียงแต่ช่วงนี้เป็นการเดินหน้าสู่เรื่องการเลือกตั้ง หลายคน จึงมองว่าเป็นงานการเมือง ยืนยันว่ารัฐบาลต้องการไปทุกจังหวัด เพื่อรับฟังความต้องการของประชาชนโดยตรง สอดคล้องกับแผนที่รัฐบาลมีอยู่ในมือ ที่ผ่านมาใน 4 จังหวัด4 ปี รัฐบาลใช้เงินเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำประมาณ3,000ล้านบาท ปีนี้เสนอมาอีก 1,000 กว่าล้านบาท ก็น่าจะอนุมัติให้ได้ ตรงกับแผนงานของรัฐที่วางไว้ ตรงกับความต้องการของประชาชน
ยืนยันลงพื้นที่ ไม่แอบพบใคร
“การมาจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ เกิดเป็นประเด็นทางการเมืองว่า มาพบกับคนนั้น คนนี้ ขอยืนยันว่า การที่จะไปพบใคร ที่ไหน อย่างไร หรือจะพูดจากับประชาชนในสถานที่แห่งไหน ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ เป็นผู้เตรียมการทั้งหมด ตนไม่ได้สั่งการว่าจะเป็นที่นี่ที่นั่น เจ้าหน้าที่เขา จะต้องดูว่าความพร้อมมีที่ไหน ก็จะเชิญไปที่นั่น ผมพร้อมจะพบกับคนทุกที่และไม่ได้พบกับใคร เป็นการส่วนตัว ทุกคนสามารถถ่ายรูปได้ ผมไม่ได้ไปแอบพบแอบคุยกับใคร และ ไม่มีการคุยเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช่ความดีความชอบของคนเพียงคนเดียว ถือว่าเราต้องหาความร่วมมือในการปฏิรูปประเทศ การทำงานเพื่อประชาชนในอนาคตให้ได้โดยเร็ว”พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
ทั้งนี้ นายกฯยังขอฝากสื่อมวลชน รัฐบาลอาจพูดอะไรไปจนเกิดความเสียหาย อาจพูดเยอะ แต่พูดด้วยความตั้งมั่นตั้งใจดี บางทีไม่มีเจตนาก็ต้องขอโทษด้วย เราจึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น และเชื่อว่าไม่เคยมีแบบนี้มาก่อน ที่รัฐบาลลงพื้นที่เกือบทุกจังหวัด ทุกภาค ซึ่งไม่ได้มาประชาสัมพันธ์ เพื่อให้รักรัฐบาลแต่อยากชี้ให้เห็นถึงจิตใจของ ครม.ข้าราชการ พยายามทำดีอย่างเต็มที่
‘บิ๊กตู่’สงสัยใครอยู่เบื้องหลังม็อบ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะมาชุมนุม ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 22 พ.ค.ครบรอบ 4ปี รัฐประหาร เรียกร้องให้คสช.ยุติบทบาทและเร่งจัดการเลือกตั้งว่าพูดหลายครั้งแล้วว่าคนกลุ่มนี้เป็นเยาวชน เป็นนักศึกษา ขอให้ทุกคนไปย้อนดูว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไรวัตถุประสงค์ เจตนารมณ์เป็นอย่างไรพวกเขาเป็นนักศึกษา เป็นคนมีความรู้ก็น่าจะฟังรู้เรื่องว่ารัฐบาลวางโรดแมปแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ เวลาใด ต่างประเทศให้การยอมรับ ทำไมคนเหล่านี้ จึงไม่รับอะไรเลย จึงขอให้ทุกคนไปดูหรือ หาข้อมูลมาให้ตนว่า เขาต้องการอะไร มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะเป็นห่วงคนพวกนี้ เพราะถ้าถูกดำเนินการตามกฎหมาย ก็จะเรียนหนังสือไม่จบ หรือ ไม่มีคนรับเข้าทำงาน จึงอยากให้เขาเลิกการกระทำดังกล่าวเพราะมันไม่เป็นผลดีกับใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่ ผู้ปกครอง
อัดงบกลุ่มอีสานล่าง1.4หมื่นล้าน
เวลา14.00น.นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)ได้แถลงผลการประชุม ครม.สัญจรที่บุรีรัมย์ว่าในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง1(นครชัยบุรินทร์: นครราชสีมา-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์)ผู้แทนภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ได้ขอเสนอกรอบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ด้าน โครงสร้างพื้นฐานว่าขอให้มีการขยายโครงข่ายคมนาคมทั้งทางถนน ทางอากาศ
ในด้านโครงข่ายทางถนน มีการเสนอมา 14โครงการเช่นการก่อสร้างถนนเพิ่มเติม การขยายช่องทางจราจรซึ่งครม.มีข้อสั่งการ ให้รับไปพิจารณา โดยคำนึงถึงความเหมาะสมตามความเร่งด่วนรวมถึงพิจารณาถึงความเชื่อมโยงกับโครงข่ายในภาพรวมโดยตามแผนงานของกระทรวงคมนาคมในขณะนี้กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ในช่วงปี 2557 ถึงปี 2561ได้ใช้เงินงบประมาณสำหรับปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางถนนไปแล้ว 52,876ล้านบาท และ สำหรับงบประมาณปี2562 เบื้องต้นจะใช้งบประมาณ14,588ล้านบาท
ลุยเร่งขยายสนามบินบุรีรัมย์
ส่วนโครงข่ายคมนาคมทางอากาศ ทางภาคเอกชนมีข้อเสนอให้เร่งรัดการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอต่อโครงการขยายทางวิ่งสนามบินบุรีรัมย์ให้แล้วเสร็จและขยายต่อเติมความยาวทางวิ่งจาก2,100เมตร เป็น3,000เมตร ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการขยายท่าอากาศยานบุรีรัมย์ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระทรวงคมนาคม มีแผนที่จะก่อสร้างขยายลานจอดเครื่องบินจากที่รองรับ Boeing737ได้ 2ลำ ให้เพิ่มเป็น 6 ลำ จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปีนี้ และมีการต่อเติมอาคารผู้โดยสารขาออก ให้รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ450คนในเวลาเดียวกัน ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว
สมช.เชื่อม็อบ4ปีคสช.ไม่บานปลาย
ในส่วนพล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ในวันที่ 22พ.ค.นี้ครบรอบรัฐประหาร4 ปีว่าหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าการชุมนุมจะไม่มีเหตุการณ์บานปลาย เพราะทุกคนต่างต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อย และไม่อยากให้เกิดการขยายตัวต่อไป การเลือกตั้งเป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะไม่สนับสนุนรัฐบาล ทางกลุ่มผู้ชุมนุม คงทราบดีว่าขอบเขตของกฎหมายเป็นอย่างไร รัฐบาลต้องการให้เกิดความสงบ เพื่อป้องกันความรุนแรงและการขยายตัวของการชุมนุมจึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายและจะพยายามทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด
พท.แฉดูด2แบบดัน’ลุงตู่’นั่งนายกฯ
ขณะที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีตส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าการดูดนักการเมืองให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มี 2 แบบ คือ1.ดูดเข้าพรรคการเมืองใหม่เพื่อให้ได้เสียง ส.ส.25 เสียงในการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯและ2.ดูดให้โหวตสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้เป็นนายกฯโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ที่จะตั้งขึ้นซึ่งชัดเจนว่าการประชุมครม.สัญจรที่บุรีรัมย์ ไม่ได้ต้องการดูดให้ ส.ส.ออกจากพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นการดูดให้พรรคภูมิใจไทย สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น คงไม่ได้คุยกันที่บุรีรัมย์ แต่คุยกันที่อื่นไว้แล้ว ภาพที่มีคนคอยต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์จำนวนมากไม่เหนือความคาดหมาย แค่จัดฉากให้เห็นว่าคนบุรีรัมย์ชื่นชมตัวพล.อ.ประยุทธ์
เย้ยรัฐดูดส.ส.ไม่ทันใจต้องลงพื้นที่
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงพื้นที่ครม.สัญจรจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ ว่ากิจกรรมลักษณะนี้ถูกตั้งคำถามขึ้นมาว่า จำเป็นและความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ในการประชุมครม.สัญจรกันถี่ขนาดนี้หรือไม่ รวมทั้งประชาชนได้ประโยชน์มากกว่าการประชุมในทำเนียบหรือไม่ ประชาชนอาจจะอยากตั้งคำถามว่าเปิดทำเนียบดูด มันไม่ทันใจ ถึงต้องไปเดินสายลงพื้นที่เพื่อดูดกลุ่มการเมืองเข้าร่วมก๊วนเพิ่มหรือไม่ ถ้าตะโกน“ลุงตู่สู้ๆ”แล้ว ได้งบประมาณลงพื้นที่เพิ่มมากขึ้น แล้วจังหวัดที่ไม่มีโอกาสได้ตะโกน จะรู้สึกว่าฝนตกไม่ทั่วฟ้าหรือไม่ ประชาชนเห็นชัดเจนว่าในขณะที่รัฐบาล คสช.ทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่ไม่ยอมปลดล็อคพรรคการเมือง ไม่ให้ทำกิจกรรมใดๆ แล้วแบบนี้จะถือว่าการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นอยู่บนพื้นฐานของการเลือกตั้ง ที่ฟรีและแฟร์ เสรีและยุติธรรมหรือไม่
กกต.เคาะ’จรุงวิทย์’เลขาฯใหม่
วันเดียวกัน นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แถลงว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีการพิจารณาและได้ลงคะแนนลับเพื่อคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น เลขาธิการ กกค.และผลคะแนนเป็นเอกฉันท์ เลือก พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต.ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กกต.คนใหม่ หลังให้ผู้สมัครทั้ง5รายได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะอนุกรรมการเมื่อวันที่ 7พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังจากนี้ สำนักงาน กกต.จะแจ้งให้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ลาออกจากรองเลขาธิการ กกต.ภายใน15วัน เพื่อดำเนินการทำสัญญาจ้างต่อไปตามมาตรา55 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งพ.ศ.2560 กำหนดให้เลขาธิการกกต.มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5ปี นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งซึ่งสำนักงานกกต.จะดำเนินการโดยเร็ว
‘จรุงวิทย์’ขอบคุณที่ไว้วางใจ
ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ว่าที่เลขาธิการกกต.คนใหม่ให้สัมภาษณ์ขณะติดภารกิจดูงานการเลือกตั้งที่ประเทศมาเลเซียโดยกล่าวว่าขอขอบคุณคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ไว้วางใจคัดเลือกให้เป็นเลขาธิการกกต.จะทำงานให้เต็มที่ ส่วนภารกิจสำคัญเร่งด่วน จะเร่งรัดแก้ระเบียบการปฏิบัติงานต่างๆเพื่อรองรับกับการเลือกตั้ง รวมทั้งเร่งอบรมพนักงานเพื่อเกิดความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี