"บิ๊กป้อม"ฮึ่มม็อบอยากเลือกตั้งห้ามบุกทำเนียบฯ22พ.ค.นี้ถ้าเกิดความวุ่นวายขึ้นแกนนำต้องรับผิดชอบ ยันเลือกตั้งแน่ก.พ.62 อ้างตอนนี้70ล้านคนยังไม่ต้องการเลือกตั้งเดือนพย. ด้าน"ศรีวราห์"จับแกนนำพร้อมสั่งเช็คคนที่อยู่เบื้องหลัง ยอมรับมีข่าวมือที่สามจ้องป่วน
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเตรียมชุมนุมในวันที่ 22 พ.ค.นี้ โดยจะเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ไม่เป็นห่วง แต่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจึงต้องการให้เลือกตั้งในเดือน พ.ย.นี้
"ทั้งที่รอไปอีก 2 - 3 เดือน ก็จะมีการเลือกตั้งตามโรดแมป ช่วงเดือน ก.พ.62 เชื่อว่าคนที่อยากให้เลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน มีเพียงนิดเดียว แต่คน 70 ล้านคน ยังไม่ต้องการ" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.สั่งการให้ตรวจสอบว่ามีคนอยู่เบื้องหลังกลุ่มคนอยากเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูต่อไปว่ามีการเมืองหนุนหลังหรือไม่ เพราะคนที่ออกมาพูดมีเพียงไม่กี่คน ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ทั้งที่สงบดีมา 4 ปี และเหลือไม่กี่เดือนก็จะเลือกตั้งแล้ว
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า ส่วนที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะเดินขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลนั้น ขออย่าเดินมาเลย จะเดินมาทำไม และหากมีการทำผิดกฎหมาย เกิดความวุ่นวายขึ้น แกนนำจะต้องรับผิดชอบ
สำหรับข้อเสนอของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าจะไปลาออกได้อย่างไร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออก ก็จะลาออกเอง
"จะไปบังคับได้อย่างไร แล้วท่านทำอะไรผิด ที่ผ่านมาก็ปกครองบ้านเมืองดีอยู่แล้วตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา จะไปลาออกได้อย่างไร ถ้าท่านจะลาออกก็จะลาออกเอง" พล.อ.ประวิตร กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุใดกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่เข้าใจตามที่รัฐบาลชี้แจง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คนกลุ่มนี้เข้าใจ แต่ทำเป็นไม่เข้าใจ เหมือนอย่างเช่นสื่อที่เข้าใจอยู่แล้ว แต่ทำเป็นไม่เข้าใจ ก็ต้องทำให้เข้าใจต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นและกิจการพิเศษ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลพร้อมคำสั่งการไปแล้ว การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญแต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีด้วยกัน 2 ตัว คือกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และคำสั่ง คสช.ส่วนผู้ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการตรวจสอบอยู่แล้ว ในส่วนของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ตรวจสอบในโซเชียลมีเดียต่างๆ
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการยื่นขอร้องขออนุญาตขอชุมนุมแต่อย่างใด แต่ต้องดูว่าชุมนุมที่ไหนด้วย เพราะ พ.ร.บ.การชุมนุมฯ ใช้กับที่สาธารณะ แต่ถ้าชุมนุมในที่ส่วนตัวกฎหมายนี้ก็คุมไม่ได้ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่ที่สาธารณะ แต่ถ้าการชุมนุมออกมาพื้นที่สาธารณะก็ต้องดูว่าทำผิดหรือไม่ผิด เน้นที่การชุนมุนต้องไม่อยู่ในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน บังคับใช้กฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเข้าข่ายความผิดหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ผู้ใช้วาน อยู่ในหลักกฎหมายถือเป็นตัวการ ใครเป็นตัวการใครเป็นผู้ร่วม สันติบาลคอยติดตามอยู่แล้ว โดยเฉพาะแกนนำเจ้าหน้าที่เฝ้าจับตามาตลอด ส่วนการข่าวผู้ไม่หวังดีหรือมือที่สามก็มีอยู่บ้างแต่ยังไม่ชัดเจน ทางตำรวจยืนยันว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแต่ขอให้อยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบ
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ทวีตข้อความตอบโต้ พล.อ.ประวิตร โดยระบุว่า คนที่ทำเป็นไม่เข้าใจคือ คสช.ต่างหาก พวกเราออกมาเรียกร้องก็เพราะพวกเรารู้เช่นเห็นชาติหมดแล้วว่า คสช.มีเจตนาสืบทอดอำนาจเผด็จการอย่างชัดเจน และพร้อมเลื่อนเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ หากยังเตรียมสืบทอดอำนาจไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ คสช.ก็ยังทำเป็นเหมือนว่าไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงนี้
"การใช้กำลังรัฐประหาร สะท้อนว่าประเทศนั้นมีความป่าเถื่อนและล้าหลัง แต่การพูดเรื่องเลือกตั้งแล้วถูกดำเนินคดีมันยิ่งแสดงถึงความล้าหลังยิ่งกว่า เพราะมันเป็นการปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยเราจะย้อนหลังไปไกลขนาดนี้" นายรังสิมันต์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี