17 พ.ค.61 นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการเข้ามาบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่กำลังจะครบ 4 ปี ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ว่า คสช.ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนให้คะแนน และประเมินว่า 4 ปีที่ผ่านมาปัญหาต่างๆที่เป็นเหตุผลในการยึดอำนาจได้รับการแก้ไขหรือไม่ เพราะปัญหาการทุจริตยังมีเกิดขึ้น แม้แต่องค์กรที่ดูแลศาสนาก็ยังทุจริต หน่วยงานด้านการศึกษา หน่วยงานที่ดูแลคนจน แสดงว่ารัฐบาลยังแก้ปัญหาไม่ดีพอ อีกทั้งคนในรัฐบาลระดับรองนายกรัฐมนตรีถูกเคลือบแคลงสงสัยเรื่องนาฬิกา ซึ่งสะท้อนไปถึงการทำหน้าที่ขององค์กรตรวจสอบอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ด้วย
“ผมคิดว่า 22 พฤษภาคม 2557 ควรเป็นรัฐประหารครั้งสุดท้าย เพราะปัญหาของประเทศ คนไทยควรมีส่วนร่วมแก้ไขด้วยตัวเองตามวิถีทางประชาธิปไตย และเป็นบทเรียนให้ประชาชนต้องปกครองตนเองให้ได้ หากปกครองกันเองได้ คสช.ก็คงไม่เข้ามา เพราะความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่การปกครองของนักการเมือง แต่คือการที่คนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศปกครองกันเอง” นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวอีกว่า เวลา 4 ปีของ คสช. หากเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถือว่าครบวาระแล้ว ซึ่งตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 ไม่เคยมีคณะรัฐประหารคณะใดอยู่ได้นานขนาดนี้ ครั้งที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ยึดอำนาจ ให้เวลาเพียงปีกว่าก็มีการเลือกตั้ง แต่ยุค คสช. ผ่านมาแล้ว4 ปียังไม่รู้เลยว่าจะเลือกตั้งวันใดและเหตุผลที่ทำให้ คสช.อยู่ได้เพราะคนกลัวว่ากลับไปแล้วจะเกิดปัญหาเดิมๆ
“ดังนั้นการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเองต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงแพ้การเมืองที่มาจากการปฏิวัติ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องกอบกู้ศรัทธากลับมาทำให้คนรู้สึกว่าการเลือกตั้งดีกว่า” นายปริญญา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี