18 พ.ค.61 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะครบ 4 ปี คสช. แต่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลล้มเหลวเรื่องปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ว่า ป.ป.ช.มีหน้าที่ไต่สวนข้อกล่าวหาร้องเรียนเรื่องทุจริตอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ตรวจสอบ แต่ ป.ป.ช.ไม่ได้มองในระดับนโยบาย
ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.มียุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งมีหัวข้อหลักคือการสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบาย และทำให้เห็นว่าเรื่องที่ ป.ป.ช.ไต่สวนในอดีตหลายเรื่อง เกิดจากการทำนโยบายของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเมื่อเขานำนโยบายดังกล่าวไปใช้โดยไม่รอบคอบ จนเกิดปัญหาทุจริต ป.ป.ช.จึงได้นำบทเรียนดังกล่าวมาทำเป็นยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบาย นำบทเรียนดังกล่าวมาแปรให้เป็นการเฝ้าระวังการทุจริต
ทั้งนี้ เข้าใจดีว่านโยบายสาธารณะของรัฐบาลจะต้องมี แต่อยู่ที่ว่าต้องมีความชัดเจน เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และพยายามสกัดความเสี่ยงของการเกิดการทุจริตลงให้น้อยที่สุด และทำให้เป็นประโยชน์สาธารณชนให้ได้สูงสุด ให้มีความเสี่ยงต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนผลการตรวจสอบก็ขึ้นอยู่กับประชาชน
ประธาน ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า คำตอบของ ป.ป.ช.คงตอบได้เฉพาะเรื่องที่เรารับผิดชอบอยู่ เพราะกระบวนการของ ป.ป.ช.เป็นเพียงกระบวนการเบื้องต้น แต่ยังต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนต่อๆไปอีก ดังนั้นคำตอบของ ป.ป.ช.ไม่ใช่คำตอบที่จะตอบได้ชัดเจน แต่เป็นเพียงแนวทางหนึ่ง ดังนั้นประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด
“ส่วนการบริหารงานของรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา เรื่องที่ถูกร้องเรียนจะมีมากน้อยกว่ารัฐบาลชุดก่อนๆเพียงใดนั้น คงต้องวิเคราะห์ แต่สถิติก็บิดเบือนได้ ขึ้นอยู่กับผู้นำเสนอ เพราะตัวเลขเดียวกันคนนำเสนอมาเสนอในมิติด้านไหน ก็สามารถชักจูงผู้รับฟังให้เข้าใจผิดได้ ดังนั้นการจะเสนอสถิติต้องมองให้ครบทุกประเด็น แต่จะไปเอาสถิติมาบอกว่าสมัยนั้นทุจริตกว่าสมัยนี้ หรือสมัยนี้ทุจริตกว่าสมัยนั้นคงไม่ใช่ เพราะแต่ละเรื่องจะต้องดูความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อแผ่นดิน ดังนั้นถ้าถาม ป.ป.ช.ก็ตอบได้ยาก” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
เมื่อถามว่าในฐานะองค์กรอิสระต้องการให้รัฐบาลชุดนี้เพิ่มความเข้าข้นในการปราบปรามการทุจริตหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เชื่อว่าถ้าพูดถึงในยุคปัจจุบันที่เรามีรัฐธรรมนูญใหม่ กฎหมายลูกใหม่ และมีความตื่นตัวของประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชน และทุกภาคส่วน การตรวจสอบก็เข้มข้นขึ้น ซึ่งเรามองว่าเป็นบวก ดังนั้นการทำงานของหน่วยงานตรวจสอบก็ต้องปรับตัวให้มีความรวดเร็ว เป็นมืออาชีพ ให้มีมาตรฐานมากขึ้น และต้องเปิดเผยเพื่องานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่สบายใจคือเมื่อมีการช่วยตรวจสอบจากทุกภาคส่วนทำให้การทำงานของ ป.ป.ช.โปร่งใส เป็นเกราะป้องกันเจ้าหน้าที่ ให้ทำงานอย่างซื้อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา ตอบสังคมได้ตามพยานหลักฐาน เพราะกระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.เป็นกระบวนการทางอาญาที่ต้องยึดความรอบคอบ และเรื่องสิทธิของผู้ถูกกว่าหาก่อนที่จะชี้มูลความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี