18 พ.ค.61 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาเอาผิดพรรคเพื่อไทย 4 ข้อหา หลังการแถลงครบรอบ 4 ปียึดอำนาจของรัฐบาล ว่า เรื่องนี้เป็นความเห็นของแต่ละบุคคล และเราได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถามผู้กำกับฯตกลงที่มาเพราะเห็นว่าเราจะกระทำความผิดเรื่องอะไร หรือสิ่งที่ท่านกังวลใจอยากให้ท่านบอกเราว่าอะไร สิ่งที่ทำได้คืออะไร สิ่งที่ทำไม่ได้ที่เป็นปัญหาคืออะไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บอกอะไร และบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงระบุว่าให้มาประชาสัมพันธ์ และคอยดูแลว่าไม่มีใครมาทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น ซึ่งเรายืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีความวุ่นวายเกิดขึ้น และปกติก็จะมีผู้สื่อข่าวเข้ามารับฟังคำชี้แจงของเราอยู่แล้ว เราก็เลยแปลกใจ
อีกทั้งไม่ได้มีคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) เข้าไปชี้แจง หรือแถลงอะไร มีเพียงสมาชิกพรรค 3 คนเท่านั้น คือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง , นายวัฒนา เมืองสุข และนายชูศักดิ์ ศิรินิล มาชี้แจงว่าทางเรามีความเห็นอย่างไรต่อการบริหารจัดการ และการดำเนินงานของ คสช.ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ใจต่อการดำเนินงาน และการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่นักการเมืองจากทุกพรรคได้ทำหน้าที่ของตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง
“การแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ ถ้าเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองหรือมีความเห็นว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง อยากถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.บุรีรัมย์ การที่มีหัวหน้าพรรคการเมือง มีพรรคการเมืองมาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แล้วมีการพูดปราศรัยอะไรต่างๆ ยิ่งเข้าข่ายมากกว่า” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ถ้าทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าตรงนี้เป็นความผิด ถ้าจะเอาผิดอะไรก็ต้องเอาผิดอย่างเสมอหน้ากันทุกฝ่าย อย่าให้มีลักษณะที่มาคอยเล่นงานแต่พรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว ส่วนบุคคลอื่นๆกลับไม่ดำเนินการ จะดำเนินการอะไรก็ให้ดำเนินการมาตามกรอบของกฎหมาย เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่สมาชิกพรรคแต่ละคนแสดงความเห็นอย่างที่ผ่านมา ก็เป็นการแสดงความเห็นตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญและกฎหมาย ของประเทศเราได้ให้สิทธิไว้ ให้การรับรองไว้
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าสิ่งที่รัฐบาลควรทำวันนี้ คือ การเงี่ยหูฟังนักวิชาการ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนรวมถึงวิชาชีพต่างๆ พรรคการเมือง นักการเมือง อย่างที่เขามีความเห็นว่าตลอด 4 ปีที่ทุกคนพยายามอยู่ในเงื่อนไข ไม่สร้างความเสียหายอะไร และเปิดโอกาสต่างๆอย่างเต็มที่ให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาของประเทศ แล้วเกิดผลมองเห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมาไม่ได้สร้างเสริมหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างเป็นที่พึงพอใจของประชาชน ตนมองว่าวิธีการมาพูดหรือแสดงความคิดเห็น การทำโพล การสำรวจความคิดเห็นของประชาชน หรือการเขียนวิเคราะห์ของสื่อ ล้วนแต่เป็นการใช้สิทธิและเป็นการแสดงความเห็นต่อการบริหารจัดการแผ่นดิน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนไทยทุกคนทั้งสิ้น
“ผมไม่มั่นใจและไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือทางฝ่ายกฎหมายของ คสช.จะใช้เหตุนี้เป็นเหตุทางการเมืองเพื่อมาดำเนินการกับพรรคการเมือง หรือนักการเมืองที่ออกมาแสดงความเห็นเหล่านี้ได้อย่างไร ถ้าจะใช้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง จะถามว่าแล้วที่จะไปดำเนินการกับนักวิชาการ กลุ่มการเมืองต่างๆกับสิ่งที่รัฐบาลไปกระทำ ถือว่าเป็นการกระทำความผิดเหมือนกันหรือไม่ ผมขอฝากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องท่านรองอธิบดีตำรวจ ฝ่ายกฎหมายของคสช. และฝ่ายที่มีอำนาจหน้าที่ได้ใช้วิจารณญาณไตร่ตรองให้รอบคอบ ถ้าท่านอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข ช่วยให้ประเทศเจริญ เดินไปข้างหน้าได้ การรับฟังความคิดเห็นที่อาจจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง สนับสนุนหรือคัดค้าน ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการที่จะทำให้ท่านเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติทั้งสิ้นก็ขอฝากให้พิจารณาด้วย” นายภูมิธรรม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี