19 พ.ค.61 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงการที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย.นี้ ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากทาง คสช. ทั้งในเรื่องวันเวลาและหัวข้อในการพูดคุย เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ออกตัวไว้ว่าไม่มั่นใจว่าจะสามารถปลดล็อคพรรคการเมือง หรือกำหนดวันเลือกตั้งได้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นการเชิญพรรคการเมืองไปพูดคุย ก็ไม่ต่างจากพิธีกรรมหนึ่งเช่นเดิม เพราะเพื่อต้องการให้เห็นว่าพรรคการเมืองต่างๆได้ยอมรับตามแนวทางใดๆก็ตามที่ คสช.กำหนดขึ้น
ทั้งนี้ การพูดคุยไม่ว่าวงใหญ่หรือวงเล็ก ก็จะเปล่าประโยชน์อยู่ดี เพราะแท้จริงแล้วการปลดล็อคทางการเมืองในคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53/2560 ที่ระบุว่า การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่างๆได้ก็ต่อเมื่อได้มีการยกเลิกประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 แล้ว แต่การจะยกเลิกประกาศและคำสั่งดังกล่าวก็ต่อเมื่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับแล้ว ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่าร่างกฎหมายนี้ สนช.ได้ขยายเวลาบังคับใช้อีก 90 วัน และนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วย
“คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53/2560 มีความพยายามผูกโยงคำสั่งมาตรา 44 หลายฉบับ และปัจจัยต่างๆเพื่อให้ซับซ้อนและขัดแย้งกันในตัวเอง จนทำให้การเมืองขยับไม่ได้ และยังไม่เห็นทางที่จะมีการปลดล็อคอย่างที่พยายามส่งสัญญาณจาก คสช.แต่อย่างใด เหมือนมีเป้าหมายเพียงเพื่อเป็นการยื้อเวลา ลากโรดแมปให้ยาวออกไปตามอำเภอใจ เพราะอันที่จริงทุกอย่างที่ผูกโยงกันก็อยู่ในความควบคุมของ คสช.ทั้งสิ้น จะยกเลิกหรือให้ดำเนินการอย่างไรก็ทำได้ แต่กลับพยายามทำให้ซับซ้อน” นายอุเทน ระบุ
นายอุเทน กล่าวอีกว่า หาก คสช.มีความจริงใจในการปลดล็อคการเมือง และให้เกิดพัฒนาการของพรรคการเมือง เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น ก็ควรยกเลิกคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฉบับที่ 53/2560 ฉบับที่ 57/2557 หรือฉบับที่ 3/2558 เพื่อให้กลไกทางการเมืองต่างๆเดินหน้าไปได้ แต่ในความเป็นจริงนอกเหนือจากไม่ยกเลิกแล้ว ยังนำมาผูกเป็นปมให้เกิดความขัดแย้ง ตลอดจนความยากลำบากในการดำเนินงานทางการเมือง ในทางกลับกันกลับเป็นการเอื้อหรืออำนวยความสะดวกให้กับพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ และกดทับพรรคการเมืองที่จดทะเบียนไว้เดิมไม่ให้ขยับเคลื่อนไหวได้ ทั้งที่แทบทุกพรรคก็มีความจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่มีรายละเอียดมากขึ้นทั้งเรื่องสาขาพรรค หรือการทำไพรมารีโหวต
นอกจากนี้ หากในเดือน มิ.ย นี้ยังไม่มีการปลดล็อคในส่วนของพรรคการเมืองเดิม ก็เท่ากับว่า คสช.สนับสนุนให้เกิดเปรียบเสียเปรียบในทางการเมืองอย่างชัดเจน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน และเหมือนกับต้องการให้เกิดความรุนแรงวุ่นวายในบ้านเมืองเพื่อเป็นข้ออ้าง ซึ่งพรรคการเมืองเดิม โดยเฉพาะพรรคคนไทย เสียเปรียบ ในการทำงานการเมือง จากเข้ามาของ คสช.เป็นอย่างมาก ด้วยเป็นพรรคลำดับท้ายๆที่จดทะเบียนก่อนมีการรัฐประหาร แต่ก็ถูกแช่แข็งไปกับพรรคการเมืองอื่นๆ และในขณะที่พรรคการเมืองที่ไปจดแจ้งใหม่เริ่มดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้แล้ว
“หาก คสช.ปล่อยทอดเวลาให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบออกไปเรื่อยๆเช่นนี้ นอกจากจะถูกวิจารณ์ฐานะกรรมการที่ไม่เที่ยงธรรมแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นข้อครหาที่จะโดดมาเป็นผู้เล่นเอง แล้วจ้องจะเอาเปรียบ หรือเอาแต่ได้ด้วย” หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี