29 พ.ค.61 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการรักษากฎหมายที่เดินหน้าสู่ความขัดแย้ง ระบุเนื้อหาว่า ภาพการเข้าจับกุม พุทธะอิสระ ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ตามมาด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในฝ่ายที่เห็นสมควรและไม่เห็นสมควรจนเกิดกระแสตีกลับขนาดนายกรัฐมนตรีต้องออกมาเอ่ยปากขอโทษผ่านสื่อ คงไม่อยู่ในฐานะที่จะบอกว่า ใครถูกผิด เพียงแต่กำลังคิดต่อไปว่า เรื่องราวทำนองนี้ยังจะมีอีกหรือไม่ และใครจะเป็นรายต่อๆไป
ในช่วง 10 ปี ของความขัดแย้งทางการเมืองไทยอย่างรุนแรง ที่ทั้งสองฝ่ายมุ่งเอาชนะในทางการเมืองทุกรูปแบบวิธีการ หากเอากฎหมายเป็นตัวตั้ง ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องแล้วไม่ทำผิดกฎหมาย ภาพของการบุกสถานที่ประชุมผู้นำอาเซียนที่ รร.รอยัลคลิฟ พัทยา ของกลุ่มเสื้อแดง เป็นความผิด ภาพการรุมล้อมของคนเสื้อแดงทุบรถของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทย ก็เป็นความผิด ภาพการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่บานปลาย เป็นการเผาบ้านเผาเมืองในหลายที่ ก็เป็นความผิด ภาพการยึดทำเนียบ ปิดถนน ของเสื้อเหลือง และ กปปส. ก็เป็นความผิด ภาพการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เป็นความผิด ภาพการขัดขวางการเลือกตั้ง ของกลุ่ม กปปส. จนทำให้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 57 เป็นโมฆะ ก็เป็นความผิด
นายสมชัย ระบุต่อว่า การดำเนินการตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่คืบคลานเดินหน้าต่อแบบเงียบๆ ตามสไตล์ของการทำงานแบบราชการ เนิ่นนาน ล่าช้า แต่ไม่หยุด คดีความต่างๆทุกคดีอาจใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานเป็นปี ผ่านการพิจารณาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทีละขั้น ทีละตอน โดยเน้นความถูกต้องตามกฎหมายที่มีอยู่ในบ้านเมือง ไม่เร็วแต่ก็ไม่ช่วย อาจช้าแต่ค่อยๆขยับจนยากสังเกตเห็น แต่ก็คืบหน้าเหมือนบ่วงที่ค่อยๆรัดให้แน่นโดยไม่ทันรู้สึกตัว
การตัดสินใจในการดำเนินคดีในแต่ละกรณี สิ่งที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทำได้ คือ สรุปตามสิ่งที่อยู่ในกฎหมายไปก่อน และรอผู้ที่มีอำนาจขั้นสูงกว่ามาใช้ความกล้าหาญในการสั่งการในทางที่แตกต่าง แต่ในทุกขั้นที่ถูกเสนอขึ้นมาการตัดสินใจแบบราชการคือ เห็นชอบและดำเนินการต่อโดยใช้ฐานความคิดทางนิติศาสตร์เป็นหลักเพื่อป้องกันตนมากกว่าจะคำนึงถึงความเหมาะสมหรือประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อบ้านเมือง” นายสมชัย กล่าว นายสมชัย ระบุอีกว่า คดีความทางอาญาและแพ่งจำนวนหลายร้อยคดีที่เกิดขึ้นในช่วงชุมนุมของทั้งสองฝ่าย จึงรอคอยเพียงเมื่อไรจะถึงคิวเชือด คนเสื้อแดงโดนจำคุกไปแล้วมากมายจากกรณีเผาเมืองและใช้ความรุนแรง พันธมิตรหลายคนถูกฟ้องล้มละลาย ถูกอายัดบัญชีทรัพย์สินจากกรณีปิดสนามบิน ลุงกำนันและกปปส.จะตามมาในเร็วๆนี้ทั้งความทางอาญาและทางแพ่ง วาทกรรมที่พูดก็มีเพียงว่า กรรมใดใครก่อก็ย่อมมีผลกรรมตามมา หรือเลวร้ายกว่านั้นคือการทับถมจากฝ่ายที่เห็นต่างว่าสมควรแล้ว ใครหนีได้ก็หนี ใครไม่หนีก็ก้มหน้าก้มตารับโทษในคุกด้วยวาทกรรมที่ให้กำลังใจว่า เป็นผู้กล้ายอมรับในโทษทัณฑ์ ไม่หลบหนีเหมือนใครบางคน
“ผมไม่ปฏิเสธว่า ผู้ก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวนั้นกระทำผิดทั้งทางอาญาและแพ่ง หลายเรื่องหลายกรณีคือความวินาศของบ้านเมืองในแต่ละยุคด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่แต่ละฝ่ายทำล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อทางการเมือง และความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมืองในช่วงนั้นให้ดีขึ้นในสายตาของพวกเขา แม้ว่า จะถูกมองจากอีกฝ่ายว่า เป็นการงมงายหลงในอุดมการณ์อย่างไม่ลืมหูลืมตา ยอมให้ถูกชักจูงกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายก็ตาม วันนี้ผู้ปกครองบ้านเมืองที่มาจากการยึดอำนาจ ลอยตัวจากสถานการณ์ เนื่องจากตนเองพ้นผิดจากกฎหมายที่ฝ่ายตนร่างให้การกระทำใดๆในการรัฐประหารหรือหลังจากนั้นไม่เป็นความผิด แต่กลับนิ่งเฉยในการดูผลการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่ขัดแย้งกันภายใต้คำพูดว่า ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย”
นายสมชัย ระบุทิ้งท้ายว่า ตนกำลังบอกว่า กฎหมายต่างๆที่เดินหน้าบังคับใช้ กำลังเข่นฆ่าคนจำนวนมากที่ปรารถนาดี และเสียสละต่อบ้านเมือง คนที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับการชุมนุม คนที่กล้าลุกขึ้นสู้กับอำนาจรัฐในยุคนั้น คนที่ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองทั้งหลายกำลังถูกกฎหมายคืบคลานกำจัดไปทีละคนสองคน หรือนี่ คือ เกมที่วางไว้ว่า เมื่อถึงเวลาที่ผู้ปกครองในอนาคตขึ้นครองอำนาจ และกล้าทำสิ่งที่ไม่ชอบธรรม วันนั้นจะได้ไม่มีใครเลยสักคนที่เหลือจะมาต่อสู้คัดคานเขาอีกแล้ว หากเป็นเช่นนี้จริง บอกได้เลยครับ กรณีพุทธะอิสระ ยังไม่ใช่กรณีสุดท้ายอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี