แจ้งจับเพิ่มอีก41ราย
‘ม็อบอยากเลือกตั้ง’
คสช.เหวี่ยงแหเชือด
แอมเนสตี้กดดันยุติ
คสช.จัดหนักม็อบอยากเลือกตั้ง สั่งแจ้งข้อหามั่วสุมการเมืองเพิ่ม 41 รายรวด สรุปโดนเบ็ดเสร็จ 62 คน “แอมเนสตี้” ออกหน้าโดดขวาง เรียกร้องทั่วโลกช่วยกดดันไม่ให้ดำเนินคดี ก่อนเจอสวนกลับนิ่มๆ อย่าเรียกร้องอะไรที่เกินขอบเขตกฎหมาย
เมื่อวันที่ 31พฤษภาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและ คสช. จัดการเลือกตั้งภายในปีนี้
โดย คสช. ได้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมอีก 41 ราย ประกอบด้วย 1.นายเนติวิทย์โชติภัทรไพศาล 2.น.ส.สุนันทรัตน์ มุกตรี 3.นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ 4.นายโชคดี ร่มพฤกษ์ 5.นางประนอม พูลทวี6.นายกรกช แสงเย็นพันธ์ 7.นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ 8.นายชเนศ ชาญโลหะ 9.นางพรวลัย ทวีธนวาณิชย์ 10.นางจิดาภา ธนหัตถชัย 11.นายสมชาย ธนะโชติ 12.นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ 13.นายวิรุฬห์ นันทภูษิตานนท์ 14.นางพรนิภา งามบาง 15.นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา
16.นางอาอิซะร์ เสาะหมาน 17.นายอนุศักดิ์ แสงเพชร 18.น.ส.นีรนุช เนียมทรัพย์ 19.นางวาสนา เคนหล้า 20.นายอ๊อด แอ่งมูล 21.นางสิริเรือง แก้วสม 22.นางมาลี เมืองไหว 23.นางเกษณีย์ ชื่นชม 24.นายบริบูรณ์ เกรียงวรางกูร 25.นางอมรัตน์ โชคคปมิตต์กุล26.นายชญานิน คงสง 27.น.ส.อลิสา บินดุส๊ะ 28.นายพรชัย ประทีปเทียนทอง 29.นายหนึ่ง เกตุสกุล 30.นางนภัสสร บุญรีย์ 31.น.ส.มัทนา อัจจิมา 32.นายอภิสิทธิ์ ทรัพนภาพันธ์ 33.นายนันทพงศ์ ปานมาศ 34.น.ส.วลี ญาณะหงษา 35.นายมนัส แกล้ววิกย์กิจ 36.นางยุภา แสงใส 37.นายไพศาล จันปาน 38.นางวาสนา กองอุ่น 39.นายศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี 40.นายวันชนะ จันทร์มณี และ 41.นายสมนึก นาคขำพันธ์
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ คสช. ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำไปแล้ว 21 ราย อาทิ นายรังสิมันต์ โรม,นายสิรวิชญ์ เสรีวัฒน์ หรือ จ่านิว, นายอานนท์ นำภา และน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายและความผิดตามประมวนกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2), (3) จึงทำให้เวลานี้มีผู้ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 62 คน โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้ผู้ถูกแจ้งความเพิ่มเติมทั้ง 41 คน มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
วันเดียวกัน สำนักเลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ออกประกาศปฏิบัติการด่วนเชิญชวนสมาชิก นักกิจกกรม และผู้สนับสนุนกว่า 7 ล้านคนทั่วโลก ให้ร่วมกันส่งจดหมายเรียกร้องรัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจำนวนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 62 คน โดยระบุว่าการแจ้งข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นการละเมิดและจำกัดเสรีภาพการชุมนุมสาธารณะอย่างสงบของประชาชน จึงขอเชิญชวนสมาชิกและนักกิจกรรมทั่วโลก เขียนจดหมายเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและทุกๆการดำเนินคดีจากการใช้เสรีภาพในการแสดงออกอย่างสันติ ตลอดจนยกเลิกและปรับปรุงกฎหมาย ไปจนถึงคำสั่งต่างๆ ให้ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน เช่น คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 และพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ รวมถึงอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิของตนโดยไม่ถูกข่มขู่หรือคุกคาม เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีของประเทศไทยที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากแอมเนสตี้ได้ออกประกาศดังกล่าว พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.มทบ.11 ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ออกมาชี้แจงว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามอธิบายตามข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจหลักกฎหมายและหลักปฏิบัติ ยืนยันว่าคสช. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร หรือเลือกปฏิบัติ และไปกลั่นแกล้งใคร
“การดำเนินการกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น เราได้อธิบายและทำความเข้าใจกับคนทั้งประเทศว่าบ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปได้ ดังนั้นขอเวลาที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามที่ทุกคนปรารถนา ในต้นปี 2562 เมื่อเลือกตั้งแล้วจะมีรัฐบาลใหม่ ส่วนคสช.จะหมดอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ปี2560 แต่ก็ยังมีคนไทยจำนวนไม่มากอยากให้เลือกตั้งโดยเร็ว คสช.ก็ขอความร่วมมือว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ควรอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย หากทำผิดกฎหมาย คสช. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการ” พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า ข้อเรียกร้องของแอมเนสตี้ เกินขอบเขตของ คสช. หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ ตอบว่า หลักการทำงาน อะไรอยู่ในกรอบกฎหมาย อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถทำได้ ทุกคนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อะไรที่เกินอำนาจหน้าที่ เกินกรอบกฎหมาย ตนขอชี้แจงว่าไม่สามารถทำได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี